พบผลลัพธ์ทั้งหมด 8 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2512
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยินยอมโดยปริยายในการขายที่ดินมรดก: สิทธิของเจ้าของเดิม vs. ผู้ซื้อ
การที่จำเลยที่ 2 ขายที่ดินมือเปล่าซึ่งจำเลยที่ 1เป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยโดยที่จำเลยที่ 1 ก็รู้เรื่องและมิได้คัดค้านประการใดนั้น. ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1ยินยอมให้จำเลยที่ 2 ขายส่วนของจำเลยที่ 1 โดยปริยายด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1748/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีหลังจำเลยเสียชีวิต: ศาลต้องรอทายาทก่อนดำเนินการต่อ
กรณีโต้แย้งในตอนที่คดีถึงที่สุดแล้วอยู่ในระหว่างการบังคับคดี. ไม่ใช่เป็นเรื่องคดีค้างพิจารณา. ซึ่งถ้าหากคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมรณะ ศาลจะต้องเลื่อนการนั่งพิจารณาไปจนกว่าจะมีผู้เข้ามาเป็นคู่ความแทนที่ผู้มรณะ (อ้างคำสั่งคำร้องฎีกาที่ 65/2492).
ในชั้นบังคับคดี จำเลยแต่งทนายไว้แล้วถึงแก่กรรมลง ในระยะที่เกี่ยวพันติดต่อกัน. เมื่อทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้. ศาลก็ย่อมผ่อนให้ทนายจำเลยยังพึงมีทางกระทำเพื่อรักษาประโยชน์ให้แก่คู่ความได้ในระหว่างที่ยังไม่มีตัวความ. และเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เป็นเรื่องการพิจารณาคดีค้าง.
คดีถึงที่สุดแล้ว หากมีการอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลในชั้นบังคับคดี. ก็มีกรณีที่จะต้องตั้งต้นพิจารณาชั้นอุทธรณ์ขึ้นใหม่ในระหว่างคู่ความ. เมื่อปรากฏว่าจำเลยมรณะ ทนายจำเลยย่อมสิ้นสภาพ. การพิจารณาคดีต่อไปจะต้องจัดการให้มีผู้มารับมรดกความเสียก่อน.
การที่ศาลล่างดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยไม่มีคู่ความทั้งสองฝ่ายพร้อมเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา. ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องได้.
ในชั้นบังคับคดี จำเลยแต่งทนายไว้แล้วถึงแก่กรรมลง ในระยะที่เกี่ยวพันติดต่อกัน. เมื่อทนายจำเลยยื่นคำร้องขอให้งดการบังคับคดีไว้. ศาลก็ย่อมผ่อนให้ทนายจำเลยยังพึงมีทางกระทำเพื่อรักษาประโยชน์ให้แก่คู่ความได้ในระหว่างที่ยังไม่มีตัวความ. และเป็นการกระทำที่ไม่ใช่เป็นเรื่องการพิจารณาคดีค้าง.
คดีถึงที่สุดแล้ว หากมีการอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลในชั้นบังคับคดี. ก็มีกรณีที่จะต้องตั้งต้นพิจารณาชั้นอุทธรณ์ขึ้นใหม่ในระหว่างคู่ความ. เมื่อปรากฏว่าจำเลยมรณะ ทนายจำเลยย่อมสิ้นสภาพ. การพิจารณาคดีต่อไปจะต้องจัดการให้มีผู้มารับมรดกความเสียก่อน.
การที่ศาลล่างดำเนินกระบวนพิจารณาไปโดยไม่มีคู่ความทั้งสองฝ่ายพร้อมเมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกา. ศาลฎีกามีอำนาจสั่งให้ดำเนินกระบวนพิจารณาให้ถูกต้องได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายไม้ซุง การเรียกร้องเงินคืน และอายุความทั่วไป
โจทก์จำเลยติดต่อค้าขายไม้ซุงกัน. โดยโจทก์ให้เงินจำเลยไปก่อน เมื่อจำเลยส่งไม้มาให้โจทก์ก็คิดหักราคาไม้กับเงินที่จำเลยรับไปล่วงหน้า. และถ้าไม้ที่จำเลยส่งมีราคาน้อยกว่าเงินที่จำเลยรับไป หักเหลือเงินเท่าใดก็ขึ้นบัญชีไว้ว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์. ดังนี้ความสัมพันธ์ระหว่างโจทก์จำเลยจึงเป็นสัญญาชนิดหนึ่งอันเกิดจากข้อตกลงในการที่จะซื้อขายไม้กัน ซึ่งไม่เข้ากับบทบัญญัติบทหนึ่งบทใดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์. ฉะนั้น ในกรณีที่เงินของโจทก์ยังเหลืออยู่ที่จำเลยมากน้อยเท่าใด จึงมีสภาพเป็นเรื่องที่จำเลยเก็บรักษาเงินของโจทก์ไว้เพื่อทำการซื้อขายไม้กันต่อไป. เมื่อจำเลยไม่มีไม้มาขายให้แก่โจทก์. โจทก์ก็ย่อมมีสิทธิที่จะเรียกร้องให้จำเลยคืนเงินนั้นได้.
อายุความเรียกร้องเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ.จึงต้องปรับใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 ซึ่งเป็นอายุความเรียกร้องทั่วไป.
อายุความเรียกร้องเช่นนี้ไม่มีบทกฎหมายกำหนดไว้โดยเฉพาะ.จึงต้องปรับใช้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 ซึ่งเป็นอายุความเรียกร้องทั่วไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 881/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภูมิลำเนาจำเลยหลายแห่ง: ศาลมีอำนาจฟ้องได้หากจำเลยทราบและต่อสู้คดี
จำเลยมีถิ่นที่อยู่ 2 แห่ง โจทก์จะถือเอาแห่งหนึ่งแห่งใดเป็นภูมิลำเนาของจำเลยเพื่อยื่นคำฟ้องก็ได้.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล. ก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่.เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506).
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93บาท. ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง.
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 4(2) ที่บัญญัติให้เสนอคำฟ้องต่อศาลที่จำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาล. ก็เพื่อให้จำเลยได้ฟังคดีของตนและต่อสู้คดีได้เต็มที่.เมื่อจำเลยได้ทราบคำฟ้องและต่อสู้คดีเต็มที่แล้ว จึงหาขัดกฎหมายไม่ (อ้างฎีกาที่ 1233/2506).
โจทก์ฟ้องเรียกหนี้ 2 รายรวม 2,387 บาท พร้อมด้วยดอกเบี้ยนับแต่วันผิดนัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,729.93บาท. ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้ 1 รายจำนวน774 บาทพร้อมดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้อง. ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยชำระเงินเต็มตามฟ้อง ถือว่าแก้ไขเพียงเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในข้อเท็จจริง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 851/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจการจัดการที่ดินของมิซซังโรมันคาทอลิก และการมอบอำนาจตามสายการปกครอง
มิซซังโรมันคาธอลิคกรุงเทพฯมีฐานะเป็นนิติบุคคลและถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้(เพียง 2 อย่าง คือ ที่ดินที่ใช้เป็นวัดโรงเรือนตึกรามวัดบาดหลวง. และที่ดินเพื่อทำประโยชน์ให้แก่มิซซัง).
ลักษณะสายการปกครองของมิซซัง ได้กำหนดไว้เป็นชั้นๆ ให้มีอำนาจปกครองลดหลั่นกันมาภายในขอบเขตที่กำหนด. โดยมีสังฆราชมิซซังโรมันคาธอลิคกรุงเทพฯผู้ได้รับแต่งตั้งจากโป๊ปเป็นใหญ่ควบคุมทั้งหมด. สังฆราชมอบอำนาจให้บิชอพภาคจันทบุรี บิชอพภาคจันทบุรีตั้งเจ้าอาวาสวัดบางปลาสร้อยให้มีอำนาจดูแลที่ดินของวัดได้. การที่เจ้าอาวาสวัดบางปลาสร้อยทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่ดินของวัด. จึงเป็นการทำแทนสังฆราชมิซซังโรมันคาธอลิคกรุงเทพฯ รวมตลอดถึงการบอกเลิกสัญญาเช่าด้วย.
ลักษณะสายการปกครองของมิซซัง ได้กำหนดไว้เป็นชั้นๆ ให้มีอำนาจปกครองลดหลั่นกันมาภายในขอบเขตที่กำหนด. โดยมีสังฆราชมิซซังโรมันคาธอลิคกรุงเทพฯผู้ได้รับแต่งตั้งจากโป๊ปเป็นใหญ่ควบคุมทั้งหมด. สังฆราชมอบอำนาจให้บิชอพภาคจันทบุรี บิชอพภาคจันทบุรีตั้งเจ้าอาวาสวัดบางปลาสร้อยให้มีอำนาจดูแลที่ดินของวัดได้. การที่เจ้าอาวาสวัดบางปลาสร้อยทำสัญญาให้จำเลยเช่าที่ดินของวัด. จึงเป็นการทำแทนสังฆราชมิซซังโรมันคาธอลิคกรุงเทพฯ รวมตลอดถึงการบอกเลิกสัญญาเช่าด้วย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 760/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญาและการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้การฟ้องไม่มีอำนาจ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 162 ที่ว่า'ถ้าฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว..........ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ให้ไต่สวนมูลฟ้อง ฯลฯ นั้นหมายความว่าเมื่อโจทก์ฟ้องถูกต้องตามกฎหมายแล้ว แต่ยังไม่มีการกระทำแสดงออกให้เป็นการยืนยันหรือสนับสนุนคำฟ้องนั้นจึงให้ศาลทำการไต่สวนมูลฟ้องเสียก่อน. และถ้าศาลเห็นว่าเท่าที่พยานโจทก์เบิกความชั้นไต่สวนมูลฟ้อง จะเป็นพยานกี่คนก็ตาม ทำให้คดีพอวินิจฉัยได้แล้ว. ศาลก็อาจสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่เหลืออยู่เสียก็ได้.
โจทก์ยื่นฟ้องแล้ว ศาลสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องเมื่อถึงวันนัด โจทก์แถลงต่อศาล. ศาลจดข้อแถลงรับของโจทก์ไว้แล้วสั่งว่าคดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดสืบพยานโจทก์เสีย. เช่นนี้ก็เท่ากับว่าที่โจทก์แถลงต่อศาล ศาลจดคำแถลงของโจทก์ไว้นั้น เป็นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ศาลพอจะยกขึ้นวินิจฉัยแล้ว. แล้ววินิจฉัยและพิพากษาคดีของโจทก์ไป จึงไม่เป็นการขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา162(1).
ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 6(พ.ศ.2506)ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ข้อ 6 กำหนดไว้ว่า. 'ในกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อยู่. และไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ชั่วครั้งคราว. ให้เจ้าอาวาสสั่งแต่งตั้งรองเจ้าอาวาสผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่เห็นสมควร เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส'. นั้นหมายถึงกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อยู่. และไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ชั่วครั้งคราวเท่านั้น.ถ้าเจ้าอาวาสยังอยู่ประจำที่วัด. เจ้าอาวาสก็ไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส. และในกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง. ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 6 ข้อ 5 เป็นอำนาจเจ้าคณะตำบลที่จะแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส. การที่เจ้าอาวาสตั้งผู้รักษาการแทนเสียเอง จึงไม่ชอบ. ผู้ที่เจ้าอาวาสแต่งตั้ง.จึงไม่มีสิทธิและอำนาจหรือหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย. และไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนเจ้าอาวาส.
อำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย. ศาลหยิบยกขึ้นพิจารณาเองได้.
โจทก์ยื่นฟ้องแล้ว ศาลสั่งนัดไต่สวนมูลฟ้องเมื่อถึงวันนัด โจทก์แถลงต่อศาล. ศาลจดข้อแถลงรับของโจทก์ไว้แล้วสั่งว่าคดีพอวินิจฉัยได้ ให้งดสืบพยานโจทก์เสีย. เช่นนี้ก็เท่ากับว่าที่โจทก์แถลงต่อศาล ศาลจดคำแถลงของโจทก์ไว้นั้น เป็นข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งที่ศาลพอจะยกขึ้นวินิจฉัยแล้ว. แล้ววินิจฉัยและพิพากษาคดีของโจทก์ไป จึงไม่เป็นการขัดต่อบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา162(1).
ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 6(พ.ศ.2506)ว่าด้วยการแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส ข้อ 6 กำหนดไว้ว่า. 'ในกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อยู่. และไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ชั่วครั้งคราว. ให้เจ้าอาวาสสั่งแต่งตั้งรองเจ้าอาวาสผู้ช่วยเจ้าอาวาส หรือพระภิกษุรูปใดรูปหนึ่งที่เห็นสมควร เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส'. นั้นหมายถึงกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อยู่. และไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ชั่วครั้งคราวเท่านั้น.ถ้าเจ้าอาวาสยังอยู่ประจำที่วัด. เจ้าอาวาสก็ไม่มีอำนาจที่จะแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส. และในกรณีที่เจ้าอาวาสไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้เพราะเหตุใดเหตุหนึ่ง. ตามกฎมหาเถรสมาคมฉบับที่ 6 ข้อ 5 เป็นอำนาจเจ้าคณะตำบลที่จะแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาส. การที่เจ้าอาวาสตั้งผู้รักษาการแทนเสียเอง จึงไม่ชอบ. ผู้ที่เจ้าอาวาสแต่งตั้ง.จึงไม่มีสิทธิและอำนาจหรือหน้าที่โดยชอบด้วยกฎหมาย. และไม่มีอำนาจฟ้องคดีแทนเจ้าอาวาส.
อำนาจฟ้องเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย. ศาลหยิบยกขึ้นพิจารณาเองได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลียนเครื่องหมายการค้า: พิจารณาความคล้ายคลึงโดยรวมและเจตนาของผู้ใช้เครื่องหมาย
จำเลยใช้ชื่อเครื่องหมายการค้า SANDREX ผิดกับของโจทก์ซึ่งใช้ANDREX เพียงอักษรตัวหน้าตัวเดียว. ซึ่งหากผู้พูดหรือฟังไม่ชัดอาจเข้าใจผิดหลงง่าย.ทั้งรูปรอยประดิษฐ์ สีก็คล้ายคลึงกัน. การวินิจฉัยว่าเลียนแบบหรือไม่. ไม่ถือหลักว่าต้องใช้ความสังเกตอย่างละเอียดเสียก่อน. เมื่อสินค้าโจทก์เป็นที่นิยมแพร่หลาย. การเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ย่อมแสดงเจตนาไม่สุจริตของจำเลย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 121/2511
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำฟ้องคดีฆ่าสัตว์ การระบุประเภทสัตว์ที่ไม่ใช่สัตว์ป่าในคำฟ้อง
คำฟ้องที่บรรยายว่า จำเลยกับพวกได้ร่วมกันฆ่ากระบือโดยมิได้รับอนุญาตและมิได้เสียอากรฆ่าสัตว์ตามพระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และจำหน่ายเนื้อสัตว์ พ.ศ.2502 มาตรา 6,18 นั้น. ย่อมเป็นการแสดงว่ามุ่งหมายถึงสัตว์ซึ่งมิใช่สัตว์ป่าอยู่ในตัว.ไม่จำเป็นต้องกล่าวว่าเป็นสัตว์บ้านหรือสัตว์เลี้ยงแต่อย่างใด. จึงถือว่าฟ้องของโจทก์ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุม.