คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารปฏิเสธจ่ายเช็ค: โจทก์ไม่ต้องพิสูจน์เงินในบัญชี หากธนาคารอ้างเงินไม่พอจ่าย
ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันเดียวกับวันออกเช็คว่า'โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย' หรือ 'ยังรอเรียกเก็บอยู่ โปรดนำมายื่นใหม่'ซึ่งอาศัยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 991(1)คือเงินในบัญชีไม่พอจ่ายในวันที่ออกเช็ค กรณีเช่นนี้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องนำสืบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินในบัญชีของจำเลยอีก.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ธนาคารปฏิเสธจ่ายเช็ค อ้างเงินในบัญชีไม่พอ โจทก์ไม่ต้องพิสูจน์ยอดเงินในบัญชีจำเลย
ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันเดียวกับวันออกเช็คว่า "โปรดติดต่อผู้สั่งจ่าย" หรือ "ยังรอเรียกเก็บอยู่ โปรดนำมายื่นใหม่" ซึ่งอาศัยข้อยกเว้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 991(1) คือเงินในบัญชีไม่พอจ่ายในวันที่ออกเช็ค กรณีเช่นนี้ในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง โจทก์ไม่จำต้องนำสืบถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเงินในบัญชีของจำเลย คดีโจทก์ก็มีมูล

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิ/การชำระหนี้ด้วยเช็คใหม่ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดตามเช็คเดิม
จำเลยออกเช็ค ชำระหนี้แก่ภริยาโจทก์ 3 ฉบับ ฉบับละ 40,000 บาทธนาคารปฏิเสธการจ่ายแล้ว 2 ฉบับ ส่วนอีก 1 ฉบับ คือเช็ค พิพาทยังไม่ถึงกำหนดใช้ เงิน ต่อมาจำเลยชำระเงินสด 12,000 บาท และชำระด้วย เช็ค ที่ ด. ออกและจำเลยสลักหลังจำนวน 108,000 บาท ตาม เช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนเช็ค 3 ฉบับ เดิม แล้วขอเช็ค 3 ฉบับ เดิม คืนภริยาโจทก์ยอมคืนให้ 2 ฉบับ ส่วนเช็ค พิพาทไม่ยอมคืนให้ ต่อมาภริยาโจทก์นำเช็ค เอกสารหมาย จ.8 ไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ภริยาโจทก์นำเช็ค เอกสารหมาย จ.8 ไปดำเนินคดี อาญาตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค แก่ ด.และจำเลยแล้ว พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าภริยาโจทก์ตกลง เข้าถือเอาสิทธิตาม เช็ค เอกสารหมาย จ.8 แทนสิทธิที่มีอยู่ตาม เช็ค พิพาทเป็นการสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็ค พิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดี อาญาแก่จำเลย หากธนาคารปฏิเสธการใช้ เงินตาม เช็ค พิพาทด้วย โจทก์ซึ่ง ทราบข้อตกลงระหว่างภรรยาโจทก์กับจำเลยดังกล่าวดี ได้ นำเช็ค พิพาทไปเรียกเก็บเงิน แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิเรียกร้องเช็คและการชำระหนี้ใหม่ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดตามกฎหมายเช็ค
จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่ภริยาโจทก์ 3 ฉบับ ฉบับละ 40,000 บาทธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินแล้ว 2 ฉบับ ส่วนอีก 1 ฉบับคือเช็คพิพาทยังไม่ถึงกำหนดใช้เงิน ต่อมาจำเลยชำระเงินสด 12,000 บาท และชำระด้วยเช็คที่ ด.ออกและจำเลยสลักหลัง จำนวน 108,000 บาท ตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนเช็ค 3 ฉบับเดิมแล้วขอเช็ค 3 ฉบับเดิมคืนภริยาโจทก์ยอมคืนให้ 2 ฉบับ ส่วนเช็คพิพาทไม่ยอมคืนให้ ต่อมาภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปเรียกเก็บเงิน ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค แก่ ด.และจำเลยแล้ว พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าภริยาโจทก์ตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนสิทธิที่มีอยู่ตามเช็คพิพาท เป็นการสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คพิพาทอีกต่อไปรวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยหากธนาคารปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คพิพาทด้วย โจทก์ซึ่งทราบข้อตกลงระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยดังกล่าวดี ได้นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงิน แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 595/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิเรียกร้องเช็คเดิมหลังตกลงรับชำระหนี้ด้วยเช็คใหม่ ทำให้จำเลยไม่ต้องรับผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยออกเช็คชำระหนี้แก่ภริยาโจทก์ 3 ฉบับ ฉบับละ40,000 บาท ธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายแล้ว 2 ฉบับ ส่วนอีก 1 ฉบับคือเช็คพิพาทยังไม่ถึงกำหนดใช้เงินต่อมาจำเลยชำระเงินสด 12,000 บาท และชำระด้วยเช็คที่ ด. ออกและจำเลยสลักหลังจำนวน 108,000 บาท ตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนเช็ค 3ฉบับเดิมแล้วขอเช็ค 3 ฉบับเดิมคืน ภริยาโจทก์ยอมคืนให้ 2ฉบับ ส่วนเช็คพิพาทไม่ยอมคืนให้ ต่อมาภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปเรียกเก็บเงินธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายเงินภริยาโจทก์นำเช็คเอกสารหมาย จ.8 ไปดำเนินคดีอาญาพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ แก่ ด. และจำเลยแล้วพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าภริยาโจทก์ตกลงเข้าถือเอาสิทธิตามเช็คเอกสารหมาย จ.8 แทนสิทธิที่มีอยู่ตามเช็คพิพาทเป็นการสละสิทธิหรือไม่ยึดถือสิทธิใด ๆ ที่มีอยู่ในเช็คพิพาทอีกต่อไป รวมทั้งสิทธิที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยหากธนาคาร ปฏิเสธการใช้เงินตามเช็คพิพาทด้วย โจทก์ซึ่งทราบข้อตกลงระหว่างภริยาโจทก์กับจำเลยดังกล่าวดี ได้นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงิน แม้ธนาคาร ปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระงับหนี้เช็คจากการชำระหนี้เดิม
จำเลยออกเช็ค ตาม ฟ้องให้แก่บริษัท บ. เพื่อเป็นประกันหนี้การขายลดเช็คของ ส. ผู้ที่จำเลยนำมาติดต่อ กับบริษัท บ. แต่เมื่อหนี้ตามเช็ค ของ ส. ได้ มีการชำระหมดสิ้นไปแล้ว หนี้ตาม เช็คที่โจทก์นำมาฟ้องจึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คประกันการซื้อขายลดเช็ค: เมื่อหนี้เดิมระงับ หนี้ตามเช็คก็ระงับตามไปด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยออกเช็คตามฟ้องให้แก่บริษัท ป. เพื่อเป็นประกันหนี้การขายลดเช็คของ ส. ผู้ที่จำเลยนำมาติดต่อกับบริษัท ป. แต่เมื่อหนี้ตามเช็คของ ส. ได้มีการชำระหมดสิ้นไปแล้ว หนี้ตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องจึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 594/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คประกันหนี้ - การระงับหนี้ - อำนาจฟ้อง - ผู้เสียหาย
จำเลยออกเช็คตามฟ้องให้แก่บริษัท บ.เพื่อเป็นประกันหนี้การขายลดเช็คของ ส. ผู้ที่จำเลยนำมาติดต่อกับบริษัท บ.แต่เมื่อหนี้ตามเช็คของ ส.ได้มีการชำระหมดสิ้นไปแล้ว หนี้ตามเช็คที่โจทก์นำมาฟ้องจึงเป็นอันระงับสิ้นไปด้วย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยหลายกรรมต่างกัน และการรับสารภาพของจำเลยที่เป็นนิติบุคคล
โจทก์ได้บรรยายฟ้องแจ้งชัดว่าจำเลยออกเช็ค 2 ฉบับ เมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามเช็คแต่ละฉบับ ศาลย่อมลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 แม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตราดังกล่าวมาในคำขอท้ายฟ้องก็จะถือว่าศาลลงโทษเกินคำขอหาได้ไม่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(6) เพียงแต่บัญญัติให้โจทก์อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่าการกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 กรรมการร่วมกันออกเช็คอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จำเลยที่ 1โดย ธ.และร. กรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันจำเลยที่ 1ได้ตั้งทนายความก่อนมีการไต่สวนมูลฟ้อง ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1ได้เข้ามาในคดีนี้แล้วนับตั้งแต่วันที่ตั้งทนายความ เมื่อจำเลยที่ 3 ในนามของจำเลยที่ 1 และในฐานะส่วนตัวให้การรับสารภาพโดยจำเลยที่ 3 กับทนายจำเลยผู้นั้นลงลายมือชื่อท้ายคำให้การและรายงานกระบวนพิจารณา การดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จึงชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 172

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 349/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยหลายกรรม และการรับสารภาพของนิติบุคคลผ่านผู้มีอำนาจ
โจทก์ได้บรรยายฟ้องแจ้งชัดว่าจำเลยออกเช็ค 2 ฉบับเมื่อปรากฏว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกันตามเช็คแต่ละฉบับ ศาลย่อมลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดได้ตาม ป.อ. มาตรา 91 แม้โจทก์ไม่ได้อ้างบทมาตราดังกล่าวมาในคำขอท้ายฟ้อง ก็จะถือว่าศาลลงโทษเกินคำขอหาได้ไม่ ป.วิ.อ. มาตรา 158(6) เพียงแต่บัญญัติให้โจทก์อ้างมาตราในกฎหมายซึ่งบัญญัติว่า การกระทำเช่นนั้นเป็นความผิดเท่านั้น.
โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคลประเภทบริษัทจำกัดกับจำเลยที่ 2 ที่ 3 กรรมการร่วมกันออกเช็คอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯจำเลยที่ 1 โดย ธ.และร. กรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพันจำเลยที่ 1 ได้ตั้งทนายความก่อนมีการไต่สวนมูลฟ้อง ย่อมถือได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้เข้ามาในคดีนี้แล้ว นับตั้งแต่วันที่ตั้งทนายความ เมื่อจำเลย ที่ 3 ในนามของจำเลยที่ 1และในฐานะส่วนตัวให้การ รับสารภาพโดยจำเลยที่ 3 กับทนายจำเลยผู้นั้นลงลายมือชื่อท้ายคำให้การและรายงานกระบวนพิจารณาการดำเนินกระบวนพิจารณาของศาลที่พิพากษาลงโทษปรับจำเลยที่ 1 จึงชอบด้วย ป.วิ.อ. มาตรา 172.
of 78