คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้ใช้เงิน ความผิดย่อมเกิดขึ้นเมื่อเช็คถูกปฏิเสธครั้งแรก การนำเช็คเดิมไปขึ้นเงินอีกไม่ถือเป็นความผิดใหม่
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้องจึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คพิพาท: การแก้ไขวันเดือนปีไม่ทำให้เกิดเช็คฉบับใหม่ ความผิดฐานออกเช็คไม่มีอายุความ
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้อง จึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5955/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลพลเรือนเมื่อปรากฏภายหลังว่าจำเลยเป็นนายทหารประจำการ คดีอยู่ในอำนาจศาลทหาร
ตามคำฟ้องของโจทก์ระบุเพียงยศของจำเลย แม้จะระบุด้วยว่าจำเลยมีอาชีพรับราชการ แต่ก็ยังไม่ปรากฏชัดแจ้งจากคำฟ้องว่า จำเลยรับราชการเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรประจำการเพราะจำเลยมีสิทธิที่จะใช้ยศนำหน้าชื่อของจำเลยได้ แม้จะออกจากราชการหรือโอนไปรับราชการในสังกัดอื่นซึ่งมิใช่เป็นนายทหารประจำการ เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งประทับรับฟ้องซึ่งถือว่าคดีอยู่ในระหว่างพิจารณาแล้ว ความจึงปรากฏจากคำแถลงของโจทก์ว่าจำเลยยังรับราชการทหารอยู่ จึงเป็นการที่ปรากฏตามทางพิจารณาในภายหลังว่าเป็นคดีที่อยู่ในอำนาจของศาลทหาร ศาลพลเรือนย่อมมีอำนาจพิจารณาพิพากษาต่อไปได้ ศาลชั้นต้นชอบที่จะพิจารณาพิพากษาต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5857/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อค้ำประกัน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค หากธนาคารปฏิเสธจ่ายเนื่องจากลายมือชื่อ
การที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3 (1) และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า "ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ " ซึ่งไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีนั้นโจทก์ไม่จำต้องนำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินในบัญชีพอที่จะจ่ายตามเช็คหรือไม่ต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 3 (1) ในกรณีอื่น หรือมาตรา 3 (2) หรือมาตรา 3 (3) และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่ายกรณีเช่นนี้ โจทก์จึงจะต้องนำสืบถึงจำนวนเงินในบัญชีของจำเลยในวันออกเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5857/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อค้ำประกัน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค หากธนาคารปฏิเสธจ่ายด้วยเหตุลายมือชื่อไม่ตรง
การที่โจทก์ฟ้องว่า จำเลยออกเช็คโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(1) และธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินโดยให้เหตุผลว่า "ลายมือชื่อผู้สั่งจ่ายไม่เหมือนตัวอย่างที่ให้ไว้ " ซึ่งไม่เกี่ยวกับจำนวนเงินที่จำเลยมีอยู่ในบัญชีนั้นโจทก์ไม่จำต้องนำสืบว่าในวันออกเช็คจำเลยมีเงินในบัญชีพอที่จะจ่ายตามเช็คหรือไม่ต่างกับการฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา 3(1) ในกรณีอื่น หรือมาตรา 3(2) หรือมาตรา 3(3) และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะเงินในบัญชีไม่พอจ่ายกรณีเช่นนี้ โจทก์จึงจะต้องนำสืบถึงจำนวนเงินในบัญชีของจำเลยในวันออกเช็ค

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4621/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาจากหนังสือมอบอำนาจ: 'ดำเนินคดีอาญา' หมายถึงอำนาจฟ้องได้
โจทก์ฟ้องคดีอาญาโดยมอบอำนาจให้ ช. ดำเนินคดีแทน ในหนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุว่าให้ ช. เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีอาญากับจำเลยโดยให้มีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ เช่นนี้ คำว่า ให้มีอำนาจดำเนินคดีอาญา ย่อมหมายความว่าให้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาลนั่นเอง หาได้มีแต่อำนาจในการร้องทุกข์เพียงเท่านั้นไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4621/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญาจากหนังสือมอบอำนาจ: 'ดำเนินคดีอาญา' ครอบคลุมถึงการฟ้องต่อศาล
โจทก์ฟ้องคดีอาญาโดยมอบอำนาจให้ ช. ดำเนินคดีแทน ในหนังสือมอบอำนาจมีข้อความระบุว่าให้ ช. เป็นผู้มีอำนาจดำเนินคดีอาญากับจำเลยโดยให้มีอำนาจแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนได้ เช่นนี้ คำว่า ให้มีอำนาจดำเนินคดีอาญา ย่อมหมายความว่าให้มีอำนาจฟ้องคดีอาญาต่อศาลนั่นเอง หาได้มีแต่อำนาจในการร้องทุกข์เพียงเท่านั้นไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4554/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของห้างหุ้นส่วนจำกัด: ใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง
ห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นโจทก์ฟ้องคดี แต่ใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีเป็นกรณีที่ น. หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์มอบอำนาจให้ ค. ฟ้องและดำเนินคดีแทนตัว น. เอง ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4554/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีอาญา: ใบมอบอำนาจต้องระบุชัดเจนว่ามอบอำนาจให้ฟ้องแทนโจทก์ ไม่ใช่แทนตัวผู้มอบอำนาจ
ห้างหุ้นส่วนจำกัดเป็นโจทก์ฟ้องคดี แต่ใบมอบอำนาจให้ฟ้องและดำเนินคดีเป็นกรณีที่ น. หุ้นส่วนผู้จัดการของโจทก์มอบอำนาจให้ ค. ฟ้องและดำเนินคดีแทนตัว น. เอง ห้างหุ้นส่วนจำกัดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4399/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้เสียหายโดยนิตินัยในคดีเช็ค: หุ้นส่วนที่รู้ฐานะลูกหนี้ไม่มีเงินชำระหนี้ ย่อมไม่มีอำนาจฟ้อง
โจทก์ จำเลยและ ช. เป็นหุ้นส่วนกันเพื่อขุดทรายขายแต่ห้างหุ้นส่วนไม่มีเงินสดดำเนินกิจการ โจทก์จึงให้จำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อนำไปแลกเงินสด ดังนั้น มูลหนี้ตามเช็คพิพาทเกิดจากกิจการค้าขายของห้างหุ้นส่วนระหว่าง โจทก์ จำเลย และ ช. ผู้เป็นหุ้นส่วนย่อมมีส่วนได้เสียร่วมกันอยู่ในเช็คพิพาท ทั้งโจทก์ทราบฐานะของจำเลยดีอยู่แล้วว่าจำเลยไม่มีเงินในบัญชีพอที่จะนำมาชำระหนี้ตามเช็คพิพาทได้ โจทก์รับเช็คไว้โดยไม่สุจริต จึงไม่ใช่ผู้เสียหายโดยนิตินัย ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4)
of 78