คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 ม. 3

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4265/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องคดีเช็ค: วันที่ลงเช็คเป็นวันกระทำผิด ธนาคารทราบความผิดทันที
จำเลยออกเช็คลงวันที่ 5 เมษายน 2526 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์เพื่อชำระหนี้ เมื่อถึงกำหนดวันที่ระบุในเช็ค ผู้รับมอบอำนาจโจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารสาขาของโจทก์นำเช็คพิพาทและบัญชี ของจำเลยมาตรวจดู ปรากฏว่าจำเลยมีเงินในบัญชีไม่พอจ่ายเช่นนี้ถือว่าธนาคารโจทก์ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คในวันที่ที่ลงในเช็ค แล้ว วันที่ที่ลงในเช็คจึงเป็นวันที่จำเลยกระทำผิดโจทก์ไม่ได้ร้องทุกข์และฟ้องจำเลยเมื่อเกิน 3 เดือนนับแต่นั้น คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การออกเช็คโดยผู้อื่น และเจตนาไม่ให้ใช้เงิน ถือเป็นผู้ออกเช็คตามกฎหมาย
จำเลยมอบให้ ป. บุตรชายจำเลยเป็นผู้เขียนชื่อจำเลยในช่องผู้สั่งจ่ายในเช็ค แล้วจำเลยนำเช็คไปมอบและแสดงแก่โจทก์ร่วมว่าเป็นเช็คที่จำเลยออกเพื่อชำระหนี้กู้ยืม โดยจำเลยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค ต้องถือว่าจำเลยเป็นผู้ออกเช็ค แม้จำเลยมิได้เป็นผู้ลงลายมือชื่อในเช็คด้วยตนเองจำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3978/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความไม่ถือเป็นร้องทุกข์หากยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวน ทำให้คดีขาดอายุความ
ผู้แทนโจทก์แจ้งต่อพนักงานตำรวจว่า "จึงให้ผู้แจ้งมา ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทนิติสิทธิ์ จำกัด โดยนายวรนิติส่งสวัสดิ์และนายสิทธิพงษ์สุขะวิมลาภ ทั้งทางนิติบุคคลและส่วนตัว ข้อหาออกเช็คโดยมีเจตนามิให้มีการใช้เงินตามเช็คจนคดีถึงที่สุด แต่ผู้แจ้งขอรับเช็คดังกล่าวไปดำเนินการอีกทางหนึ่งก่อน ยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใด" คำของผู้แทนโจทก์ที่ว่ายังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใดนั้นไม่ต้องกับลักษณะการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7) คำแจ้งความดังกล่าวจึงไม่เป็นการร้องทุกข์ โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดโดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3978/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแจ้งความที่ไม่ถือเป็นการร้องทุกข์ทำให้คดีขาดอายุความ
ผู้แทนโจทก์แจ้งต่อพนักงานตำรวจว่า "จึงให้ผู้แจ้งมา ร้องทุกข์ดำเนินคดีกับบริษัทนิติสิทธิ์ จำกัด โดยนายวรนิติส่งสวัสดิ์และนายสิทธิพงษ์สุขะวิมลาภ ทั้งทางนิติบุคคลและส่วนตัว ข้อหาออกเช็คโดยมีเจตนามิให้มีการใช้เงินตามเช็คจนคดีถึงที่สุด แต่ผู้แจ้งขอรับเช็คดังกล่าวไปดำเนินการอีกทางหนึ่งก่อน ยังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใด" คำของผู้แทนโจทก์ที่ว่ายังไม่มอบคดีให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีแต่อย่างใดนั้นไม่ต้องกับลักษณะการร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(7) คำแจ้งความดังกล่าวจึงไม่เป็นการร้องทุกข์ โจทก์ฟ้องคดีตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ซึ่งเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อพ้นกำหนด 3 เดือน นับแต่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิดโดยมิได้ร้องทุกข์กล่าวโทษจำเลยไว้ คดีโจทก์จึงขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คทำให้เช็คเดิมเป็นโมฆะ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้ผู้เสียหาย ต่อมา ม. ได้ตกลงกับผู้เสียหายไม่ให้นำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินในวันที่เช็คถึงกำหนดโดยผู้เสียหายได้ยอมรับเอาเช็คของ ม. ซึ่งมีจำนวนเงินเท่ากันไว้แทนเช็คของจำเลย และเมื่อเช็คถึงกำหนดผู้เสียหายก็นำเช็คของ ม. ไปขึ้นเงินจากธนาคาร แสดงว่าผู้เสียหายได้ตกลงเปลี่ยนตัวลูกหนี้และยอมรับเอาเช็คของม. แทนเช็คของจำเลยแล้วเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350 เช็คของจำเลยจึงถูกยกเลิกไป แม้ต่อมาผู้เสียหายนำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินและธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยก็ไม่มีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากากรใช้เช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนตัวลูกหนี้และการแปลงหนี้ใหม่ ทำให้เช็คฉบับเดิมหมดผลผูกพัน
เมื่อ ม. กับผู้เสียหายตกลงกันไม่นำเช็คพิพาทซึ่งจำเลยเป็นผู้ลงลายมือชื่อสั่งจ่าย ไปขึ้นเงินในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนดชำระโดยผู้เสียหายรับเอาเช็คฉบับของ ม. ไว้แทนเช็คพิพาทซึ่งมีจำนวนเงินเท่ากันและเมื่อถึงกำหนดผู้เสียหายก็นำเช็คของ ม. ไปขึ้นเงินจากธนาคาร ดังนี้ แสดงว่า ผู้เสียหายได้ตกลงเปลี่ยนตัวลูกหนี้และยอมรับเอาเช็คของ ม. แทนเช็คพิพาท อันเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คด้วย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 350เช็คพิพาทจึงถูกยกเลิกไป แม้ผู้เสียหายจะนำเช็คพิพาทไปขึ้นเงินและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ไม่มีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คฯ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแปลงหนี้ด้วยการเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็ค ทำให้เช็คเดิมเป็นโมฆะ ผู้สั่งจ่ายไม่ต้องรับผิด
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ให้ผู้เสียหาย ต่อมา ม. ได้ตกลงกับผู้เสียหายไม่ให้นำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินในวันที่เช็คถึงกำหนดโดยผู้เสียหายได้ยอมรับเอาเช็คของ ม. ซึ่งมีจำนวนเงินเท่ากันไว้แทนเช็คของจำเลย และเมื่อเช็คถึงกำหนดผู้เสียหายก็นำเช็คของ ม. ไปขึ้นเงินจากธนาคาร แสดงว่าผู้เสียหายได้ตกลงเปลี่ยนตัวลูกหนี้และยอมรับเอาเช็คของ ม. แทนเช็คของจำเลยแล้วเป็นการแปลงหนี้ใหม่ด้วยเปลี่ยนตัวลูกหนี้และเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 350 เช็คของจำเลยจึงถูกยกเลิกไป แม้ต่อมาผู้เสียหายนำเช็คของจำเลยไปขึ้นเงินและธนาคารตามเช็คได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยก็ไม่มีความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากากรใช้เช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3743/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็ค - รถเสีย - สิทธิระงับการจ่ายเช็ค - เงินพอจ่าย - ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยเช่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์ร่วม โดยชำระค่าเช่าซื้อส่วนหนึ่งในวันทำสัญญา และออกเช็คล่วงหน้าเพื่อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างจำนวน 2 ฉบับ ตั้งแต่จำเลยรับรถแทรกเตอร์ไปจากโจทก์ร่วม รถเสียไม่สามารถใช้ทำงานได้ตลอดมาจำเลยได้ขอคืนรถแก่โจทก์ร่วมและขอรับเช็คทั้งสองฉบับที่สั่งจ่ายมอบให้โจทก์ร่วมคืนโจทก์ร่วมก็ไม่ยอมคืนให้ พฤติการณ์เช่นนี้มีเหตุสมควรที่จำเลยจะมีคำสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คได้ การที่จำเลยมีคำสั่งห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คดังกล่าวจึงไม่มีเจตนาทุจริต ทั้งจำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคารในวงเงิน 100,000 บาท แม้ในวันสั่งจ่ายเช็ค จำเลยจะเป็นหนี้ธนาคารเกินกว่าวงเงินดังกล่าว แต่ผู้จัดการธนาคารตามเช็คยืนยันว่า ถ้าจำเลยร้องขอมาล่วงหน้าธนาคารจะจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวให้ แสดงว่าจำเลยมีเงินพอจ่ายตามเช็คทั้งสองฉบับ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3743/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็ค - การระงับการจ่ายเช็ค - ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค - พยานยืนยันความสามารถชำระหนี้
จำเลยเช่าซื้อรถแทรกเตอร์จากโจทก์ร่วม โดยชำระค่าเช่าซื้อส่วนหนึ่งในวันทำสัญญา และออกเช็คล่วงหน้าเพื่อชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างจำนวน 2 ฉบับตั้งแต่จำเลยรับรถแทรกเตอร์ไปจากโจทก์ร่วม รถเสียไม่สามารถใช้ทำงานได้ตลอดมาจำเลยได้ขอคืนรถแก่โจทก์ร่วมและขอรับเช็คทั้งสองฉบับที่สั่งจ่ายมอบให้โจทก์ร่วมคืนโจทก์ร่วมก็ไม่ยอมคืนให้ พฤติการณ์เช่นนี้มีเหตุสมควรที่จำเลยจะมีคำสั่งให้ธนาคารระงับการจ่ายเงินตามเช็คได้ การที่จำเลยมีคำสั่งห้ามธนาคารมิให้ใช้เงินตามเช็คดังกล่าวจึงไม่มีเจตนาทุจริต ทั้งจำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคารในวงเงิน 100,000บาท แม้ในวันสั่งจ่ายเช็ค จำเลยจะเป็นหนี้ธนาคารเกินกว่าวงเงินดังกล่าว แต่ผู้จัดการธนาคารตามเช็คยืนยันว่า ถ้าจำเลยร้องขอมาล่วงหน้าธนาคารจะจ่ายเงินตามเช็คดังกล่าวให้ แสดงว่าจำเลยมีเงินพอจ่ายตามเช็คทั้งสองฉบับ การกระทำของจำเลยไม่เป็นการออกเช็คโดยมีเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3664/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาการลงลายมือชื่อหลังเช็ค: ผู้สลักหลัง (อาวัล) ไม่ใช่ตัวการร่วม
โจทก์ฝากเงินไว้กับจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนิติบุคคล จำเลยที่ 1ออกเช็คล่วงหน้าให้แก่โจทก์ โดยจำเลยที่ 3 และที่ 4 ลงลายมือชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายเช็คพิพาท จำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการของจำเลยที่ 1 ลงลายมือชื่อด้าน หลังเช็คพิพาทและประทับตราจำเลยที่ 1 การปฏิบัติเช่นนี้เป็นไปตามปกติในการรับฝากเงินอันเป็นกิจการของจำเลยที่ 1 แสดงว่าจำเลยที่ 2 มีเจตนาเพียงเพื่อกระทำการแทนจำเลยที่ 1 เท่านั้น ซึ่งมีความหมายว่าเป็นผู้สลักหลังย่อมเป็นเพียงประกัน (อาวัล) สำหรับผู้สั่งจ่าย จึงจะฟังว่าจำเลยที่ 2เป็นตัวการร่วมในการออกเช็คพิพาทไม่ได้.
of 78