พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเช็ค: วันที่กระทำผิดต้องหลังวันที่ออกเช็ค การบรรยายฟ้องไม่ชัดเจนทำให้ศาลยกฟ้อง
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยออกเช็คพิพาทให้ผู้เสียหายเมื่อเดือนธันวาคม 2528 สั่งจ่ายเงินในวันที่ 15 มกราคม 2528 และผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปเบิกเงินจากธนาคารตามเช็คในวันที่4 เมษายน 2528 ในวันเดียวกันเวลากลางวัน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค วันที่ความผิดเกิดก็คือวันที่ 4 เมษายน 2528ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันที่ย้อนหลังจากวันที่จำเลยมอบเช็คให้ผู้เสียหาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่วันที่กระทำผิดจะเกิดก่อนวันที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจึงไม่เป็นความผิด กรณีเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลพิพากษายกฟ้องได้โดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานในสำนวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3179/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดเช็ค: วันที่กระทำผิดต้องหลังวันที่ออกเช็ค ศาลอุทธรณ์มีอำนาจวินิจฉัยได้เอง
ฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยออกเช็คพิพาทให้ผู้เสียหายเมื่อเดือนธันวาคม 2528 สั่งจ่ายเงินในวันที่ 15 มกราคม 2528 และผู้เสียหายนำเช็คพิพาทไปเบิกเงินจากธนาคารตามเช็คในวันที่ 4เมษายน 2528 ในวันเดียวกันเวลากลางวัน ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค วันที่ความผิดเกิดก็คือวันที่ 4 เมษายน 2528 ที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินซึ่งเป็นวันที่ย้อนหลังจากวันที่จำเลยมอบเช็คให้ผู้เสียหาย จึงเป็นไปไม่ได้ที่วันที่กระทำผิดจะเกิดก่อนวันที่จำเลยมอบเช็คพิพาทให้ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยที่โจทก์บรรยายมาในฟ้องจึงไม่เป็นความผิด กรณีเป็นข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยศาลพิพากษายกฟ้องได้โดยไม่จำต้องวินิจฉัยพยานหลักฐานในสำนวน.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็ค: การปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรกเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ แม้ไม่มีลายลักษณ์อักษร
โจทก์มอบเช็คพิพาทให้ธนาคารตรวจสอบบัญชีของจำเลย เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2527 เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบแล้วบอกว่าไม่มีเงินจึงคืนเช็คให้โจทก์ ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม 2527 โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินใหม่ เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์แสดงความจำนงขอรับเงินตามเช็คจากธนาคารในวันที่ 26 มกราคม 2527นั้นแล้ว แม้ธนาคารจะมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นลายลักษณ์อักษรก็ต้องถือว่าความผิดตามพ.ร.บ.เช็คฯ พ.ศ. 2497มาตรา 3 ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์ไว้แต่มาฟ้องคดีเกินกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินคดีโจทก์จึงขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2897/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็ค: การปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งแรกเป็นจุดเริ่มต้นนับอายุความ แม้จะนำเช็คไปเรียกเก็บเงินใหม่
โจทก์มอบเช็คพิพาทให้ธนาคารตรวจสอบบัญชีของจำเลย เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2527 เจ้าหน้าที่ธนาคารตรวจสอบแล้วบอกว่าไม่มีเงินจึงคืนเช็คให้โจทก์ ต่อมาวันที่ 26 กรกฎาคม 2527 โจทก์นำเช็คไปเรียกเก็บเงินใหม่ เช่นนี้ถือได้ว่าโจทก์แสดงความจำนง ขอรับเงินตามเช็คจากธนาคารในวันที่ 26 มกราคม 2527 นั้นแล้ว แม้ธนาคารจะมิได้ปฏิเสธการจ่ายเงินเป็นลายลักษณ์อักษรก็ต้องถือว่าความผิดตาม พ.ร.บ. เช็คฯ พ.ศ. 2497 มาตรา 3 ได้เกิดขึ้นแล้ว เมื่อโจทก์มิได้ร้องทุกข์ไว้แต่มาฟ้องคดีเกินกว่าสามเดือนนับแต่วันที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน คดีโจทก์จึงขาดอายุความ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2491/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ฐานะผู้เสียหายในคดีเช็ค: ความสุจริตและเจตนาในการรับเช็ค
โจทก์ฟ้องจำเลยในคดีความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค จำเลยนำสืบต่อสู้ว่า เป็นเช็คที่ออกเพื่อประกันหนี้เงินที่จำเลยกู้ยืมจาก บ.เมื่อโจทก์มิได้นำสืบตัวโจทก์ทั้งในชั้นไต่สวนมูลฟ้องและชั้นพิจารณาคดี ทั้งปรากฏว่าเช็คพิพาทที่อ้างว่าโจทก์รับแลกเงินสดจาก บ.ไม่มีการสลักหลังของ บ. ประกอบกับโจทก์และจำเลยไม่เคยรู้จักกันมาก่อน โจทก์ย่อมไม่มีทางทราบฐานะของจำเลยอันมีผลไปถึงความเชื่อ ถือในการรับเช็คดังกล่าว กรณีเป็นการผิดปกติและมีข้อพิรุธแสดงว่าโจทก์ไม่ใช่ผู้ทรงเช็คพิพาทโดยสุจริต โจทก์จึงไม่เป็นผู้เสียหาย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การออกเช็คหลายฉบับถือเป็นความผิดหลายกรรม และฟ้องไม่เคลือบคลุมหากระบุเจตนาชำระหนี้
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 3 ฉบับเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์แม้ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างกันได้การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรม ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทหลายฉบับ: การลงโทษตามกรรมต่างกัน & ฟ้องไม่เคลือบคลุม
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 3 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์แม้ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างกันได้การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรม ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่มีเงินเพียงพอ แต่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชี และยินยอมจ่ายเงิน หากเรียกเก็บในวันออกเช็ค ถือไม่ผิด พ.ร.บ.เช็ค
จำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคาร และออกเช็คลงวันที่ 20 มกราคม 2527 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ ในวันที่เช็คถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ถึง จ. ผู้จัดการธนาคารตามเช็ค ขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาท จ. ตกลงจะจ่ายให้ ถือได้ว่าในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนด จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้ การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 30 มกราคม 2527 และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(เทียบนัยฎีกาที่ 1875/2527)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1979/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่มีเงินในบัญชี แต่มีสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีและเจตนาให้ใช้เงินได้ ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยทำสัญญาเบิกเงินเกินบัญชีไว้กับธนาคาร และออกเช็คลงวันที่ 20 มกราคม 2527 สั่งจ่ายเงินให้โจทก์ ในวันที่เช็คถึงกำหนดจำเลยโทรศัพท์ถึง จ. ผู้จัดการธนาคารตามเช็ค ขอให้จ่ายเงินตามเช็คพิพาท จ. ตกลงจะจ่ายให้ ถือได้ว่าในวันที่เช็คพิพาทถึงกำหนด จำเลยมีเงินในบัญชีพอจ่ายตามเช็คพิพาทได้การที่โจทก์นำเช็คพิพาทไปเรียกเก็บเงินในวันที่ 30 มกราคม2527 และธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3(เทียบนัยฎีกาที่ 1875/2527).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงและการออกเช็คเด้งเป็นความผิดต่างกรรมกัน โจทก์ฎีกาฟังขึ้น ศาลนับโทษเฉพาะคดีที่มีคำพิพากษาแล้ว
จำเลยหลอกลวงและได้ไปซึ่งทรัพย์ตามที่หลอกลวงจากผู้เสียหายอันเป็นความผิดสำเร็จฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341 แล้ว ในวันต่อมาจึงได้ออกเช็คมอบให้ผู้เสียหายเพื่อเป็นการชำระหนี้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำต่างหากจากการกระทำอันเป็นความผิดฐานฉ้อโกงในตอนต้น เมื่อธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยจึงมีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 อีกกรรมหนึ่ง
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.
ส่วนที่จำเลยฎีกาว่าโจทก์บรรยายฟ้องกำกวมก็ดี จำเลยไม่มีความผิดฐานฉ้อโกงก็ดี เมื่อฎีกาของจำเลยไม่มีสาระว่าฟ้องโจทก์ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)อย่างไร ทั้งจำเลยก็รับสารภาพตามฟ้อง ศาลฎีกาจึงไม่วินิจฉัยให้
โจทก์ขอให้นับโทษต่อจากคดีอื่นของศาลชั้นต้นหลายคดี แต่ปรากฏจากคำร้องของโจทก์ว่าศาลพิพากษาลงโทษจำเลยแล้วเพียงคดีเดียว จึงนับโทษต่อได้เฉพาะคดีดังกล่าวเท่านั้น.