พบผลลัพธ์ทั้งหมด 771 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2242/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีเช็ค - ผู้ทรงเช็คที่แท้จริง - ผู้จัดการบริษัท
จำเลยสั่งจ่ายเช็คชำระหนี้ให้แก่บริษัท ก.ซึ่งมีโจทก์เป็นผู้จัดการ บริษัท ก.จึงเป็นผู้ทรงเช็ค โจทก์ในฐานะส่วนตัวไม่ใช่ผู้ทรงเช็ค. เมื่อธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงิน โจทก์จึงมิใช่ผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2139/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่มีวันที่ออก ไม่ถือเป็นความผิดอาญาตาม พ.ร.บ. เช็ค แม้มีการลงวันที่ภายหลัง
การที่จำเลยออกเช็คโดยไม่ลงวันที่เดือนปีที่ออกเช็ค ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด แม้ต่อมา ฮ. ผู้ทรงเช็คในขณะนั้นได้นำเช็คพิพาทไปให้ ส. บุตรสาวของจำเลยลงวันที่ในเช็คโดยจำเลยบอกให้ลง ก็มีผลเพียงให้เช็คพิพาทมีรายการสมบูรณ์ฟ้องร้องบังคับคดีได้ในทางแพ่งเท่านั้น หามีผลที่จะปรับเป็นความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 251/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2139/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่มีวันที่ออก ไม่ถือเป็นความผิดอาญา แม้ภายหลังมีการลงวันที่เพื่อใช้ในการฟ้องร้องทางแพ่ง
การที่จำเลยออกเช็คโดยไม่ลงวันที่เดือนปีที่ออกเช็ค ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำผิด แม้ต่อมา ฮ. ผู้ทรงเช็คในขณะนั้นได้นำเช็คพิพาทไปให้ ส. บุตรสาวของจำเลยลงวันที่ในเช็คโดยจำเลยบอกให้ลง ก็มีผลเพียงให้เช็คพิพาทมีรายการสมบูรณ์ฟ้องร้องบังคับคดีได้ในทางแพ่งเท่านั้น หามีผลที่จะปรับเป็นความผิดทางอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 251/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมการบริษัทออกเช็คโดยไม่มีเงินในบัญชี และสั่งห้ามจ่ายเงิน ถือเป็นตัวการออกเช็คโดยเจตนาทุจริต ฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
จำเลยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัท ธ. การที่จำเลยออกเช็คโดยลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายและประทับตราของบริษัทให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ของบริษัท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเพราะจำเลยมีคำสั่งห้ามธนาคารใช้เงินตามเช็ค และไม่มีเงินในบัญชีเงินฝากของบริษัท อันเป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ก็ถือว่าจำเลยร่วมกับบริษัทออกเช็ครายนี้ และมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วยโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2523 ซึ่งแตกต่างกับที่ปรากฏในการพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2522 ข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิด ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปนั้นมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2523 ซึ่งแตกต่างกับที่ปรากฏในการพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2522 ข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิด ซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปนั้นมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2000/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมการบริษัทออกเช็คโดยเจตนาทุจริต มีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกับบริษัท
จำเลยเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัท ธ. การที่จำเลยออกเช็คโดยลงชื่อเป็นผู้สั่งจ่ายและประทับตราของบริษัทให้แก่ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้ของบริษัท เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเพราะจำเลยมีคำสั่งห้ามธนาคารใช้เงินตามเช็คและไม่มีเงินในบัญชีเงินฝากของบริษัท อันเป็นการออกเช็คโดยเจตนาจะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คซึ่งเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ก็ถือว่าจำเลยร่วมกับบริษัทออกเช็ครายนี้ และมีความผิดฐานเป็นตัวการด้วยโจทก์ย่อมฟ้องจำเลยในฐานะส่วนตัวได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2523ซึ่งแตกต่างกับที่ปรากฏในการพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2522 ข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปนั้นมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2523ซึ่งแตกต่างกับที่ปรากฏในการพิจารณาว่าจำเลยกระทำผิดเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2522 ข้อแตกต่างดังกล่าวเป็นข้อแตกต่างในรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 มิให้ถือว่าต่างกันในข้อสาระสำคัญ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าการที่โจทก์ฟ้องผิดไปนั้นมิได้เป็นเหตุให้จำเลยหลงต่อสู้ศาลย่อมลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่ลงวันที่และการยินยอมภายหลัง ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ลงวันที่ ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำความผิดแม้ต่อมาจำเลยจะไม่ตอบโจทก์แจ้งขัดข้องในการที่โจทก์จะกรอกวันที่ลงในเช็คเสียเอง โจทก์จึงลงวันที่ในเช็คตามที่แจ้งแก่จำเลยไว้โดยถือว่าจำเลยอนุญาต ก็มีผลเพียงให้เช็คพิพาทมีรายการสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้นหามีผลที่จะปรับเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่251/2524)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่251/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1884/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่ลงวันที่และการยินยอมภายหลัง ไม่ถือเป็นความผิดอาญาตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คพิพาทโดยไม่ลงวันที่ ย่อมถือได้ว่าไม่มีวันที่ผู้ออกเช็คกระทำความผิด แม้ต่อมาจำเลยจะไม่ตอบโจทก์แจ้งขัดข้องในการที่โจทก์จะกรอกวันที่ลงในเช็คเสียเอง โจทก์จึงลงวันที่ในเช็คตามที่แจ้งแก่จำเลยไว้โดยถือว่าจำเลยอนุญาต ก็มีผลเพียงให้เช็คพิพาทมีรายการสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์เท่านั้น หามีผลที่จะปรับเป็นความผิดอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คได้ไม่
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 251/2524)
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 251/2524)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การปฏิเสธเช็คก่อนกำหนดและผลต่อความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเมื่อผู้ทรงนำเช็คไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินนั้น จะต้องเป็นการปฏิเสธเนื่องจากมีการยื่นให้ใช้เงินโดยชอบเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระแล้ว เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงนำเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้ออกเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คก่อนวันที่ลงในเช็ค ย่อมเป็นการยื่นให้ใช้เงินโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 989 ประกอบด้วยมาตรา 914 แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยถูกปิดมาก่อนที่จะมีการออกเช็ค ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่เช็คถึงกำหนด การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2525)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1261/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยื่นเช็คก่อนกำหนดและการปฏิเสธการจ่ายเงิน: ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
การที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็คเมื่อผู้ทรงนำเช็คไปเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินนั้น จะต้องเป็นการปฏิเสธเนื่องจากมีการยื่นให้ใช้เงินโดยชอบเมื่อเช็คถึงกำหนดชำระแล้ว เมื่อโจทก์ซึ่งเป็นผู้ทรงนำเช็คซึ่งจำเลยเป็นผู้ออกเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินตามเช็คก่อนวันที่ลงในเช็คย่อมเป็นการยื่นให้ใช้เงินโดยไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 989 ประกอบด้วยมาตรา 914 แม้ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเพราะบัญชีของจำเลยถูกปิดมาก่อนที่จะมีการออกเช็คก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นการปฏิเสธการจ่ายเงินในวันที่เช็คถึงกำหนด การกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ.2497 มาตรา 3 (ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2525)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1241/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์และการระงับสิทธิฟ้องคดีอาญา แม้ใช้คำผิดพลาด
แม้ว่าในคำร้องของผู้เสียหายจะบรรยายว่าขอถอนฟ้องก็ตาม แต่ในคำร้องก็ระบุข้อความชัดเจนว่า เนื่องจากผู้เสียหายและจำเลยตกลงกันได้แล้ว ผู้เสียหายจึงไม่มีความประสงค์ที่จะดำเนินคดีอาญาแก่จำเลยต่อไป แสดงว่าผู้เสียหายไม่ติดใจว่ากล่าวเอาความแก่จำเลยและประสงค์จะขอถอนคำร้องทุกข์นั่นเอง แต่ใช้ข้อความผิดไปเป็นถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2)