คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 220

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5280/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากเจตนาเป็นประมาท ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยหากจำเลยไม่ได้โต้แย้งชัดเจน
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายตาม ป.อ.มาตรา 225 ที่จำเลยฎีกาเพียงว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เป็นฎีกาที่ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างไร ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยมีเจตนาจุดไฟเผากิ่งมะนาวแห้งในสวนมะนาวของบิดาจำเลย จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกลามไหม้โรงเรือนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมทั้งสอง ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 220จำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบต่อสู้ทำนองว่า เหตุที่เกิดเพลิงไหม้โรงเรือนที่อยู่อาศัยของโจทก์ร่วมทั้งสองมิใช่การกระทำของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โรงเรือนที่อยู่อาศัยของผู้เสียหาย แต่เป็นการกระทำโดยประมาท จึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ตาม ป.อ.มาตรา 225 ดังนี้ เป็นกรณีตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192วรรคสาม ซึ่งกฎหมายบัญญัติให้ลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ โดยมิให้ถือว่าต่างกันในสาระสำคัญ ทั้งมิให้ถือว่าข้อที่พิจารณาได้ความนั้นเป็นเรื่องเกินคำขอหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษแล้ว ไม่เข้ากรณีตาม ป.วิ.อ.มาตรา 192วรรคสี่ จำเลยจึงไม่อาจอ้างได้ว่าโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5280/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปลี่ยนแปลงฐานความผิดจากเจตนาเป็นประมาท ศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ได้ตามมาตรา 192 วรรคสาม
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าการกระทำของจำเลยเป็นการกระทำความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 225ที่จำเลยฎีกาเพียงว่า การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง เป็นฎีกาที่ไม่ได้โต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไม่ชัดแจ้งว่าจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาศาลอุทธรณ์อย่างไร ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย คำฟ้องโจทก์บรรยายว่า จำเลยมีเจตนาจุดไฟเผากิ่งมะนาวแห้งในสวนมะนาวของบิดาจำเลย จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกลามไหม้โรงเรือนซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ร่วมทั้งสอง ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 จำเลยให้การปฏิเสธ และนำสืบต่อสู้ทำนองว่า เหตุที่เกิดเพลิงไหม้โรงเรือนที่อยู่อาศัยของโจทก์ร่วมทั้งสองมิใช่การกระทำของจำเลย เมื่อศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยกระทำความผิดตามฟ้อง และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า จำเลยกระทำความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โรงเรือนที่อยู่อาศัยของผู้เสียหาย แต่เป็นการกระทำโดยประมาท จึงลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 225 ดังนี้ เป็นกรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสามซึ่งกฎหมายบัญญัติให้ลงโทษจำเลยตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้ โดยมิให้ถือว่าต่างกันในสาระสำคัญ ทั้งมิให้ถือว่าข้อที่พิจารณาได้ความนั้นเป็นเรื่องเกินคำขอหรือเป็นเรื่องที่โจทก์ไม่ประสงค์ให้ลงโทษแล้ว ไม่เข้ากรณีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสี่จำเลยจึงไม่อาจอ้างได้ว่าโจทก์มิได้ประสงค์ให้ลงโทษจำเลยในความผิดฐานกระทำให้เกิดเพลิงไหม้โดยประมาทเป็นเหตุให้ทรัพย์สินของผู้อื่นเสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเพลิงไหม้ทรัพย์สินของตนเองและผู้อื่น ศาลต้องวินิจฉัยทั้งเจตนาและประมาท
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์ของจำเลยกับภริยาและไหม้ทรัพย์ของบุคคลอื่นด้วย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218,220 จำเลยให้การและนำสืบรับว่าได้ทำให้เกิดเพลิงไหม้จริง แต่เกิดจากความประมาทและข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าเพลิงไหม้ทรัพย์ของบุคคลอื่นด้วยดังนี้ หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา จำเลยย่อมมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคหนึ่งหรือมาตรา 220 วรรคสอง แล้วแต่กรณี แต่หากจำเลยกระทำโดยประมาทก็ย่อมมีความผิดตามมาตรา 225 ซึ่งศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคสามในชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้โต้เถียงเรื่องเพลิงไหม้ทรัพย์ของผู้อื่นด้วยเพียงแต่อ้างว่าเพลิงไหม้เกิดจากความประมาทขอจำเลยเท่านั้น การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาหรือประมาทตามที่จำเลยอุทธรณ์แต่กลับวินิจฉัยเพียงว่า ทรัพย์ที่จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้จำเลยเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย จำเลยจึงไม่มีความผิด โดยไม่ได้วินิจฉัยกรณีที่การกระทำของจำเลยทำให้เพลิงไหม้ทรัพย์ของผู้อื่นด้วยและพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 115/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยความผิดฐานวางเพลิง ต้องพิจารณาเจตนาหรือความประมาท และผลกระทบต่อทรัพย์สินผู้อื่น
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้ทรัพย์ของจำเลยกับภริยาและไหม้ทรัพย์ของบุคคลอื่นด้วย ขอให้ลงโทษตาม ป.อ.มาตรา 218, 220จำเลยให้การและนำสืบรับว่าได้ทำให้เกิดเพลิงไหม้จริง แต่เกิดจากความประมาทและข้อเท็จจริงก็ฟังได้ว่าเพลิงไหม้ทรัพย์ของบุคคลอื่นด้วย ดังนี้ หากข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนา จำเลยย่อมมีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 220วรรคหนึ่ง หรือมาตรา 220 วรรคสอง แล้วแต่กรณี แต่หากจำเลยกระทำโดยประมาทก็ย่อมมีความผิดตามมาตรา 225 ซึ่งศาลก็มีอำนาจลงโทษจำเลยได้ตาม ป.วิ.อ.มาตรา192 วรรคสาม ในชั้นอุทธรณ์จำเลยมิได้โต้เถียงเรื่องเพลิงไหม้ทรัพย์ของผู้อื่นด้วยเพียงแต่อ้างว่าเพลิงไหม้เกิดจากความประมาทของจำเลยเท่านั้น การที่ศาลอุทธรณ์ไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ว่าจำเลยกระทำโดยเจตนาหรือประมาทตามที่จำเลยอุทธรณ์แต่กลับวินิจฉัยเพียงว่า ทรัพย์ที่จำเลยทำให้เกิดเพลิงไหม้จำเลยเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย จำเลยจึงไม่มีความผิด โดยไม่ได้วินิจฉัยกรณีที่การกระทำของจำเลยทำให้เพลิงไหม้ทรัพย์ของผู้อื่นด้วยและพิพากษายกฟ้องโจทก์นั้น จึงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5364/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความบทบัญญัติอาญาต้องเคร่งครัด และองค์ประกอบความผิดต้องครบถ้วน
บทบัญญัติ ป.อ.มาตรา 218 เป็นเหตุฉกรรจ์ของมาตรา 217โดยมาตรา 218 บัญญัติให้ผู้กระทำผิดต่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในมาตรา 218 (1) ถึง (6)ต้องได้รับโทษหนักนั้น ดังนั้น การกระทำอันมิได้เป็นความผิดตามมาตรา 217 แม้กระทำต่อทรัพย์ที่ระบุในมาตรา 218 ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิดเช่นกัน
ป.อ.มาตรา 217 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าการวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นเป็นความผิด ไม่มีข้อความว่า "หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย"ก็เป็นความผิดแล้ว จะตีความคำว่า "ทรัพย์ของผู้อื่น" ให้รวมถึงทรัพย์ที่ผู้อื่นมีส่วนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยมิได้ เพราะการตีความบทกฎหมายที่มีโทษทางอาญาจะต้องตีความโดยเคร่งครัด จะขยายความออกไปถึงกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในตัวบทโดยชัดแจ้งเพื่อให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยมิได้ เพราะขัดต่อหลักความรับผิดของบุคคลในทางอาญาดังที่บัญญัติไว้ใน ป.อ.มาตรา 2
คำฟ้องบรรยายว่า จำเลยวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุว่าการกระทำของจำเลยน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของบุคคลอื่น อันจะทำให้เป็นความผิดตาม ป.อ. มาตรา 220 เป็นคำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158 (5) แม้จำเลยมิได้หลงต่อสู้ก็ลงโทษจำเลยในความผิดตามมาตรานี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5364/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความความผิดฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้เป็นเจ้าของร่วม และองค์ประกอบความผิดฐานก่อให้เกิดอันตราย
บทบัญญัติ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 เป็นเหตุฉกรรจ์ของมาตรา 217 โดยมาตรา 218 บัญญัติให้ผู้กระทำผิดต่อทรัพย์ที่ระบุไว้ในมาตรา 218(1) ถึง (6) ต้องได้รับโทษหนักนั้นดังนั้น การกระทำอันมิได้เป็นความผิดตามมาตรา 217 แม้กระทำต่อทรัพย์ที่ระบุในมาตรา 218 ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิดเช่นกัน ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 บัญญัติไว้โดยชัดแจ้งว่าการวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่นเป็นความผิด ไม่มีข้อความว่า"หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย" ก็เป็นความผิดแล้วจะตีความคำว่า "ทรัพย์ของผู้อื่น" ให้รวมถึงทรัพย์ที่ผู้อื่นมีส่วนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยมิได้ เพราะการตีความบทกฎหมายที่มีโทษทางอาญาจะต้องตีความโดยเคร่งครัด จะขยายความออกไปถึงกรณีที่ไม่ได้ระบุไว้ในตัวบทโดยชัดแจ้งเพื่อให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยมิได้ เพราะขัดต่อหลักความรับผิดของบุคคลในทางอาญาดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 คำฟ้องบรรยายว่า จำเลยวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุว่าการกระทำของจำเลยน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของบุคคลอื่น อันจะทำให้เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 เป็นคำฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แม้จำเลยมิได้หลงต่อสู้ก็ลงโทษจำเลยในความผิดตามมาตรานี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5364/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเพลิงเผาทรัพย์เจ้าของร่วม และความสมบูรณ์ของคำฟ้องอาญา
การวางเพลิงเผาทรัพย์ที่ผู้เสียหายเป็นเจ้าของรวมกับจำเลยไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 218 เพราะความผิดตามมาตรา 218 เป็นบทฉกรรจ์ของมาตรา 217 ดังนั้นถ้าการกระทำมิได้เป็นความผิด ตามมาตรา 217 แล้วแม้กระทำต่อทรัพย์ ตามมาตรา 218ผู้กระทำย่อมไม่มีความผิด ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 217 ไม่มีข้อความว่า "หรือผู้อื่นเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วย" จะตีความคำว่า "ทรัพย์ของผู้อื่น"ให้รวมถึงทรัพย์ที่ผู้อื่นมีส่วนเป็นเจ้าของรวมอยู่ด้วยย่อมมิได้เพราะการตีความกฎหมายที่มีโทษทางอาญาต้องตีความโดยเคร่งครัด โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้เสียหายโดยมิได้ระบุว่าการกระทำของจำเลยน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์ของบุคคลอื่นอันจะเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220ย่อมเป็นฟ้องที่ขาดองค์ประกอบความผิดตาม ป.วิ.อ. มาตรา 158(5)แม้จำเลยมิได้หลงต่อสู้ ก็ลงโทษจำเลยตามมาตรานี้มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเพลิงเผาบ้านตนเอง ต้องพิสูจน์ความน่าจะเป็นอันตรายต่อทรัพย์ผู้อื่น จึงจะมีความผิดตาม ป.อ. มาตรา 220
ความผิดตาม ป.อ. มาตรา 220 นั้น จะต้องน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือของผู้อื่น ปรากฏข้อเท็จจริงเพียงว่าบ้านเกิดเหตุอยู่ห่างจากบ้านของผู้อื่น 15 เมตร โดยไม่ปรากฏว่าเปลวเพลิงได้ลุกลามไปทางบ้านของผู้อื่นแต่อย่างใด เมื่อโจทก์ไม่นำสืบให้ศาลเห็นว่าการวางเพลิงเผาบ้านครั้งนี้น่าจะเป็นอันตรายแก่บ้านเรือนของผู้อื่นอย่างไร เช่นว่า สภาพแวดล้อมของบ้านเกิดเหตุ ทิศทางลมและเปลวเพลิงขณะเกิดเพลิงไหม้เป็นอย่างไร จนน่าจะไหม้ลามไปถึงบ้านเรือนของผู้อื่นที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกันหรือไม่ เป็นต้นการกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 590/2536

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวางเพลิงเผาบ้านตนเอง ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อื่น ไม่เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220
เมื่อพยานหลักฐานของโจทก์ฟังไม่ได้ว่าการที่จำเลยวางเพลิงเผาบ้านของตนเองน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นหรือทรัพย์ของผู้อื่นอันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรกการกระทำของจำเลยย่อมไม่เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 220 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2190/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากเหตุไฟไหม้: การจุดไฟเผาในที่ดินตนเองจนเกิดอันตรายและประมาทเลินเล่อ
จำเลยทั้งสองจุดไฟเผาไม้ในที่ดินของตนจนน่าจะเป็นอันตรายแก่สวนยางพาราของผู้อื่น กับมิได้เตรียมป้องกันมิให้เพลิงลุกลามไปไหม้สวนยางพาราข้างเคียง เพียงใช้ไม้ตีไฟให้ดับเท่านั้น ไม่เป็นการระมัดระวังอย่างเพียงพอ เมื่อดับไฟไม่ได้และไฟได้ลุกลามไปไหม้สวนยางพาราของผู้เสียหาย จึงเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 220 วรรคแรก และ 225 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท
of 2