พบผลลัพธ์ทั้งหมด 283 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่าที่ดินขายฝากเป็นสิทธิแยกต่างหากจากสินไถ่ โจทก์มีสิทธิพิสูจน์ข้อตกลงได้โดยไม่ต้องห้ามตามมาตรา 94
ข้อตกลงของคู่สัญญาขายฝากเกี่ยวกับค่าเช่าทรัพย์สินที่ขายฝากถ้ามิได้จดแจ้งลงไว้ในสัญญาขายฝากเป็นอย่างอื่น คู่สัญญาย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลถึงข้อตกลงในเรื่องนี้ได้ เพราะค่าเช่าซึ่งเป็นดอกผลของทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นเงินต่างก้อนกับสินไถ่ซึ่งเป็นราคาไถ่ถอนที่ดินขายฝาก การนำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับค่าเช่าระหว่างกำหนดเวลาขายฝาก จึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาขายฝากอันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่าทรัพย์ขายฝากเป็นสิทธิแยกต่างหากจากค่าไถ่ การนำสืบข้อตกลงเรื่องค่าเช่าไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา
ข้อตกลงของคู่สัญญาขายฝากเกี่ยวกับค่าเช่าทรัพย์สินที่ขายฝาก ถ้ามิได้จดแจ้งลงไว้ในสัญญาขายฝากเป็นอย่างอื่น คู่สัญญาย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลถึงข้อตกลงในเรื่องนี้ได้ เพราะค่าเช่าซึ่งเป็นดอกผลของทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นเงินต่างก้อนกับสินไถ่ซึ่งเป็นราคาไถ่ถอนที่ดินขายฝาก การนำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับค่าเช่าระหว่างกำหนดเวลาขายฝาก จึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาขายฝากอันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกยิงก่อน การใช้กำลังป้องกันต้องสมเหตุสมผล
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดกระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนและการใช้กำลังตอบโต้
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัด กระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ปี เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญ ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกิดสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาจำกัดเฉพาะประเด็นที่ยกขึ้นว่ากล่าวในชั้นอุทธรณ์ หากศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้รับผิดน้อยลง การฎีกาลดหนี้เพิ่มเติมย่อมไม่อาจทำได้
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 รับผิดเพิ่มขึ้นจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาส่วนจำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์คดีแต่อย่างใด ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาฝ่ายเดียวนั้น ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 รับผิดน้อยลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำดังนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาขอลดจำนวนเงินที่จะต้องรับผิดให้น้อยลงไปอีกได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยมิได้อุทธรณ์ประเด็นลดหนี้ และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดน้อยลงแล้ว
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 รับผิดเพิ่มขึ้นจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาส่วนจำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์คดีแต่อย่างใด ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาฝ่ายเดียวนั้น ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 รับผิดน้อยลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำดังนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาขอลดจำนวนเงินที่จะต้องรับผิดให้น้อยลงไปอีกได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พยานหลักฐานแผนการร่วมกันและคำพูดก่อนลงมือ
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตายชวนผู้ตายพูดคุยด้วยและเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 864/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน: พยานจากแผนการร่วมและการแสดงออกก่อนลงมือ
จำเลยกับพวกไปที่เรือนผู้ตาย ชวนผู้ตายพูดคุยด้วย และเมื่อก่อนจะลงมือฆ่ามีการพูดข้อความประโยคหนึ่ง แล้วจำเลยกับพวกต่างลุกขึ้นพร้อม ๆ กัน ชักปืนสั้นออกมายิงผู้ตาย แสดงว่ามีแผนนัดหมายกันมาก่อนกระทำการ ถือว่าเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างในความเสียหายจากการขับรถละเมิด แม้รถไม่ใช่ของนายจ้าง และการชดใช้ค่าเสียหายสิ้นสุดเมื่อรถซ่อมเสร็จ
คดีที่ฟ้องนายจ้างให้ร่วมรับผิดกับลูกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 425 นั้น รถคันที่ลูกจ้างขับไปกระทำละเมิดนั้นจะเป็นของนายจ้างหรือไม่ไม่สำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปชนรถของโจทก์เสียหายแล้วจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้รับว่าจะซ่อมรถให้โจทก์ แต่แล้วก็ไม่ซ่อมให้ จำเลยที่ 2จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 เพื่อความเสียหาย ที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานด้วยจะอ้างว่าจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดแต่ผู้เดียวหาได้ไม่และการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถนั้นเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดจำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ด้วย จะอ้างว่าโจทก์มีรถหลายคัน ไม่น่าจะขาดรถสำหรับใช้ หรือคาดไม่ถึงว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องให้เช่ารถนั้นด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถตั้งแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ได้ชดใช้ค่าซ่อมรถโจทก์แล้วความเสียหายของรถโจทก์จึงหมดสิ้นไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 2 ชำระค่าเสียหายในส่วนนี้ถึงวันที่จำเลยที่ 3 ชดใช้ให้โจทก์นั้น
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปชนรถของโจทก์เสียหายแล้วจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้รับว่าจะซ่อมรถให้โจทก์ แต่แล้วก็ไม่ซ่อมให้ จำเลยที่ 2จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 เพื่อความเสียหาย ที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานด้วยจะอ้างว่าจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดแต่ผู้เดียวหาได้ไม่และการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถนั้นเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดจำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ด้วย จะอ้างว่าโจทก์มีรถหลายคัน ไม่น่าจะขาดรถสำหรับใช้ หรือคาดไม่ถึงว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องให้เช่ารถนั้นด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถตั้งแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ได้ชดใช้ค่าซ่อมรถโจทก์แล้วความเสียหายของรถโจทก์จึงหมดสิ้นไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 2 ชำระค่าเสียหายในส่วนนี้ถึงวันที่จำเลยที่ 3 ชดใช้ให้โจทก์นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 844/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของนายจ้างต่อละเมิดของลูกจ้าง และค่าเสียหายจากการไม่ได้ใช้รถ
คดีที่ฟ้องนายจ้างให้ร่วมรับผิดกับลูกจ้างตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 425 นั้น รถคันที่ลูกจ้างขับไปกระทำละเมิดนั้นจะเป็นของนายจ้างหรือไม่ไม่สำคัญ
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปชนรถของโจทก์เสียหายแล้วจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้รับว่าจะซ่อมรถให้โจทก์ แต่แล้วก็ไม่ซ่อมให้ จำเลยที่ 2จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 เพื่อความเสียหาย ที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานด้วยจะอ้างว่าจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดแต่ผู้เดียวหาได้ไม่และการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถนั้นเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดจำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ด้วย จะอ้างว่าโจทก์มีรถหลายคัน ไม่น่าจะขาดรถสำหรับใช้ หรือคาดไม่ถึงว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องให้เช่ารถนั้นด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถตั้งแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ได้ชดใช้ค่าซ่อมรถโจทก์แล้วความเสียหายของรถโจทก์จึงหมดสิ้นไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 2 ชำระค่าเสียหายในส่วนนี้ถึงวันที่จำเลยที่ 3ชดใช้ให้โจทก์นั้น
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างขับรถไปในทางการที่จ้างของจำเลยที่ 2เมื่อจำเลยที่ 1 ขับรถไปชนรถของโจทก์เสียหายแล้วจำเลยที่ 3 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัยได้รับว่าจะซ่อมรถให้โจทก์ แต่แล้วก็ไม่ซ่อมให้ จำเลยที่ 2จะต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 1 เพื่อความเสียหาย ที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถเป็นเวลานานด้วยจะอ้างว่าจำเลยที่ 3 ต้องรับผิดแต่ผู้เดียวหาได้ไม่และการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถนั้นเป็นผลโดยตรงจากการละเมิดจำเลยที่ 2 จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ด้วย จะอ้างว่าโจทก์มีรถหลายคัน ไม่น่าจะขาดรถสำหรับใช้ หรือคาดไม่ถึงว่าโจทก์มีหน้าที่ต้องให้เช่ารถนั้นด้วยหาได้ไม่
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ใช้ค่าเสียหายในการที่โจทก์ไม่ได้ใช้รถตั้งแต่วันละเมิดจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ เมื่อปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 3 ได้ชดใช้ค่าซ่อมรถโจทก์แล้วความเสียหายของรถโจทก์จึงหมดสิ้นไปศาลฎีกาย่อมพิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 1 กับที่ 2 ชำระค่าเสียหายในส่วนนี้ถึงวันที่จำเลยที่ 3ชดใช้ให้โจทก์นั้น