คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชลอ บุปผเวส

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 470 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในทางอาญาของผู้มีจิตบกพร่อง: การพิจารณาตามมาตรา 65 วรรคสอง
จำเลยคลอดบุตรแล้วเป็นโรคบ้าเลือดมีอาการผิดปกติไปจากคนธรรมดาคุ้มดีคุ้มร้าย ซึ่งถือว่าเป็นโรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือนบางขณะไม่มีความรู้สึกผิดชอบเยี่ยงบุคคลธรรมดา แต่ยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง จำเลยจึงต้องรับผิดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 331/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดทางอาญาของผู้มีจิตบกพร่อง: การลดโทษตามมาตรา 65 วรรค 2
จำเลยคลอดบุตรแล้วเป็นโรคบ้าเลือดมีอาการผิดปกติไปจากคนธรรมดาคุ้มดีคุ้มร้าย ซึ่งถือว่าเป็นโรคจิตหรือจิตฟั่นเฟือนบางขณะไม่มีความรู้สึกผิดชอบเยี่ยงบุคคลธรรมดา แต่ยังสามารถรู้ผิดชอบอยู่บ้างหรือยังสามารถบังคับตนเองได้บ้าง จำเลยจึงต้องรับผิดดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรค 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการใช้มาตรา 5 พ.ร.บ.อาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 เฉพาะอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาต
พระราชบัญญัติอาวุธปืน(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิดซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาตเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมายภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้นหมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาตก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 295/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการใช้กฎหมายอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510: เฉพาะอาวุธที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเท่านั้น
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิดซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาต เพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้นหมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 294/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการใช้กฎหมายอาวุธปืนฉบับแก้ไข: การครอบครองอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่น
พระราชบัญญัติอาวุธปืน (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2510 มาตรา 5 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอาวุธปืนบางชนิดซึ่งยังมิได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายมาขอรับอนุญาติเพื่อปฏิบัติการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ภายในกำหนดเวลาโดยไม่ต้องรับโทษนั้น หมายความถึงอาวุธปืนที่ยังไม่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วยกฎหมายเท่านั้น มิได้หมายความรวมถึงอาวุธปืนที่ได้รับอนุญาตโดยชอบด้วย กฎหมายอยู่แล้ว ฉะนั้นเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จำเลยมีอาวุธปืนที่มีทะเบียนของผู้อื่นไว้ในความครอบครองโดยไม่รับอนุญาต ก็ไม่มีเหตุที่จะอ้างว่าจำเลยไม่ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 3/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษาซื้อขาย: จำเลยต้องรังวัดแบ่งแยกที่ดินก่อนโอนให้โจทก์ โจทก์ไม่ผิดสัญญา
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาลศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดและได้มีคำบังคับให้โจทก์จำเลยปฏิบัติตามสัญญานั้นแล้ว
ต่อมาโจทก์จำเลยต่างโต้เถียงกันว่าฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา โดยโจทก์ว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่โอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้ จำเลยว่าโจทก์ไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์ตามนัด ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ได้จะโอนขายให้ผู้อื่นซึ่งให้ราคาสูงกว่า
ตามสัญญาจำเลยจะต้องทำการรังวัดให้ทราบเนื้อที่ให้แน่นอนและมีหน้าที่แบ่งแยกที่ดินพิพาทกับเจ้าของร่วมคนอื่นก่อนแล้วจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ได้ จำเลยยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนี้จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้ โจทก์จึงคงมีสิทธิบังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทตามคำพิพากษาตามยอมได้ บทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 388 เป็นบทใช้กับการเลิกสัญญา แต่กรณีนี้เป็นการบังคับตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 286/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับตามคำพิพากษาตามยอม: จำเลยต้องปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมก่อน แม้จะรังวัดที่ดินแล้ว
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล ศาลได้พิพากษาคดีเสร็จเด็ดขาดและได้มีคำบังคับให้โจทก์จำเลยปฏิบัติสัญญานั้นแล้ว
ต่อมาโจทก์จำเลยต่อโต้เถียงกันว่าฝ่ายหนึ่งผิดสัญญา โดยโจทก์ว่าจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาประนีประนอมยอมความไม่โอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทให้ จำเลยว่าโจทก์ไม่ไปรับโอนกรรมสิทธิ์ตามนัด ถือว่าโจทก์ผิดสัญญา จำเลยจึงไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ได้จะโอนขายให้ผู้อื่นซึ่งให้ราคาสูงกว่า
ตามสัญญาจำเลยจะต้องทำการรังวัดให้ทราบเนื้อที่ให้แน่นอนและมีหน้าที่แบ่งแยกที่ดินพิพาทกับเจ้าของร่วมคนอื่นก่อน แล้วจึงจะโอนกรรมสิทธิ์ให้โจทก์ได้ จำเลยยังไม่ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวนี้ จะถือว่าโจทก์ผิดสัญญาไม่ได้ โจทก์จึงคงมีสิทธิบังคับให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ที่พิพาทตามคำพิพากษาตามยอมได้ บทบัญญัติประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 388 เป็นบทใช้กับการเลิกสัญญา แต่กรณีนี้เป็นการบังคับตามคำพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งเสียและชอบด้วยกฎหมาย การนับคะแนน และการสั่งเลือกตั้งใหม่
บัตรเลือกตั้งที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครแต่เลขไทยหรือเลขอารบิคเพียงเลขใดเลขหนึ่ง ไม่มีลักษณะเป็นบัตรเสียตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511มาตรา 58 แต่มาตรา 49 บัญญัติว่าการลงคะแนนเลือกตั้งให้ใช้วิธีปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง และกฎกระทรวงกำหนดว่าเลขหมายประจำตัวผู้สมัครต้องมีเลขไทยและเลขอารบิคควบคู่กันทั้งสองอย่าง ดังนั้น การที่ใช้เพียงเลขใดเลขหนึ่งย่อมถือว่าเป็นเลขหมายประจำตัวผู้สมัครไม่ได้ เพราะเป็นเลขหมายที่ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง บัตรประเภทนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 49 และใช้นับเป็นคะแนนเลือกตั้งไม่ได้
บัตรที่มีเลขหมายประจำตัวของผู้สมัครบางคนเสียปะปนอยู่ในซองบัตรเลือกตั้งเดียวกันไม่ถือว่าเป็นบัตรเสียทั้งหมด คงเสียเฉพาะเลขหมายที่ไม่ชอบเท่านั้น ส่วนเลขหมายอื่น ๆ ที่ถูกต้องถือว่าเป็นบัตรดี
บัตรที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครคว่ำต้องมองกับแสงสว่างจึงเห็นเงาเลขหมาย ถือว่าเป็นบัตรเสียตามมาตรา 58(2) เพราะอ่านโดยวิธีธรรมดาไม่รู้ว่าเป็นเลขหมายอะไร
แม้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนจะปรากฏว่าในหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งมีบัตรเลือกตั้งในหีบบัตรเกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 500 บัตรเศษซึ่งเป็นการไม่ชอบ แต่หากจะเอาคะแนนของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในหน่วยนี้ออกเสียทั้งหมด ก็ไม่ทำให้ผลของการเลือกตั้งสำหรับผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนเปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด
(ข้อกฎหมายตามวรรคแรกและวรรคสาม วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2-3/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 239/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยบัตรเลือกตั้งที่ผิดพลาดและผลกระทบต่อการเลือกตั้ง สั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่เฉพาะราย
บัตรเลือกตั้งที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครแต่เลขไทยหรือเลขอารบิคเพียงเลขใดเลยหนึ่ง ไม่มีลักษณะเป็นบัตรเสียตามที่บัญญัติไว้ใน พ.ร.บ. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน พ.ศ. 2511 มาตรา 58 แต่มาตรา 49 บัญญัติว่าการลงคะแนนเลือกตั้งให้ใช้วิธีปิดเลขหมายเลขประจำตัวผู้สมัครในบัตรเลือกตั้งตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง และกฎกระทรวงกำหนดว่าเลขหมายประจำตัวผู้สมัครต้องมีเลขไทยและเลขอารบิคควบคู่กันทั้งสองอย่าง ดังนั้น การที่ใช้เพียงเลขใดเลขหนึ่งย่อมถือว่าเป็นเลขหมายประจำตัวผู้สมัครไม่ได้ เพราะเป็นเลขหมายที่ไม่ถูกต้องตามกฎกระทรวง บัตรประเภทนี้จึงเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 49 และใช้นับเป็นคะแนนเลือกตั้งไม่ได้
บัตรที่มีเลขหมายประจำตัวของผู้สมัครบางคนเสียปะปนอยู่ในซองบัตรเลือกตั้งเดียวกัน ไม่ถือว่าเป็นบัตรเสียทั้งหมด คงเสียเฉพาะเลขหมายที่ไม่ชอบเท่านั้น ส่วนเลขหมายอื่น ๆ ที่ถูกต้องถือว่าเป็นบัตรดี
บัตรที่ปิดเลขหมายประจำตัวผู้สมัครคว่ำ ต้องมองกับแสงสว่างจึงเห็นเงาเลขหมาย ถือว่าเป็นบัตรเสียตามมาตรา 58 (2) เพราะอ่านโดยวิธีธรรมดาไม่รู้ว่าเป็นเลขหมายอะไร
แม้การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนจะปรากฏว่าในหน่วยเลือกตั้งแห่งหนึ่งมีบัตรเลือกตั้งในหีบบัตรเกินกว่าจำนวนผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งถึง 500 บัตร เศษซึ่งเป็นการไม่ชอบ แต่หากจะเอาคะแนนของผู้ที่ได้รับเลือกตั้งในหน่วยนี้ออกเสียทั้งหมด ก็ไม่ทำให้ผลของการเลือกตั้งสำหรับผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนเปลี่ยนแปลงไป ย่อมไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ทั้งหมด
(ข้อกฎหมายตามวรรคแรกและวรรคสาม วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2 - 3/2513)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 236/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มเติมฟ้องอาญาเพื่อยืนยันสถานะเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย ไม่เป็นการอ้างกฎหมายใหม่เพื่อเพิ่มโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องแล้วว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้เสียหายซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมายได้รับอันตรายสาหัสเพราะเหตุที่ได้ปฏิบัติการตามหน้าที่ ต่อมาโจทก์ขอเพิ่มเติมฟ้องโดยอ้างพระราชบัญญัติการท่าเรือแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494มาตรา 16 การขอเพิ่มเติมฟ้องนี้ก็เพื่อชี้ให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีกฎหมายรับรองความเป็นเจ้าพนักงานของผู้เสียหาย หาได้เป็นการอ้างกฎหมายขึ้นใหม่เพื่อให้ศาลลงโทษจำเลยหนักขึ้นประการใดไม่ ฉะนั้น การที่ศาลสั่งอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้อง จึงไม่ขัดต่อกฎหมาย
of 47