พบผลลัพธ์ทั้งหมด 470 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1700/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความสมบูรณ์ของคำฟ้องอาญา และการใช้เช็คปลอมโดยรู้เท่าทัน
หน้าฟ้องลงข้อหาว่า "ปลอมหนังสือ ใช้หนังสือปลอม"คำบรรยายฟ้องก็ชัดเช่นนั้น ส่วนคำขอท้ายฟ้องพิมพ์ไว้แต่เพียงว่าขอให้ลงโทษตามมาตรา 264, 265, 266, 268 โดยมิได้อ้างชื่อกฎหมายแห่งมาตรานั้น ๆ ว่าเป็นกฎหมายอะไรก็จริงอยู่แต่เมื่อประมวลแล้วทราบได้ว่ากฎหมายที่ขอให้ลงโทษนั้นคือประมวลกฎหมายอาญา ทั้งมาตราที่พิมพ์ไว้ในคำขอท้ายฟ้องตรงกับมาตราที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายอาญาในหมวดว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับเอกสาร คำฟ้องของโจทก์คดีนี้ขาดตกบกพร่องเพียง แต่มิได้ระบุชื่อของกฎหมาย แต่ก็มีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าเป็นกฎหมายอะไร เช่นนี้ หาเพียงพอที่จะถือว่าคำฟ้องนั้นเป็นคำฟ้องที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 158(6) แต่อย่างใดไม่ ฟ้องโจทก์จึงสมบูรณ์
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2514)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 25/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664-1665/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ในที่ดิน: การครอบครองแทนเจ้าของไม่ทำให้ได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ หากไม่ได้แจ้งเปลี่ยนเจตนา
ฉ. เข้าครอบครองที่ดินจัดหาผลประโยชน์แทนจำเลยที่ 2 หาใช่จัดทำในฐานะตนเองเป็นเจ้าของไม่ แม้จะนานสักปานใดก็ตาม หาทำให้ได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ไม่เว้นแต่จะได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือ โดยบอกกล่าวไปยังเจ้าของว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์แทนเจ้าของต่อไป
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1664-1665/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์ต้องเป็นการครอบครองในฐานะเจ้าของ มิใช่แทนเจ้าของ การยกที่ดินของผู้อื่นให้โจทก์ไม่มีผลผูกพัน
ฉ. เข้าครอบครองที่ดินจัดหาผลประโยชน์แทนจำเลยที่ 2 หาใช่จัดทำในฐานะตนเองเป็นเจ้าของไม่ แม้จะนานสักปานใดก็ตาม หาทำให้ได้กรรมสิทธิ์ทางปรปักษ์ไม่เว้นแต่จะได้เปลี่ยนลักษณะแห่งการยึดถือโดยบอกกล่าวไปยังเจ้าของ ว่าไม่มีเจตนายึดถือทรัพย์แทนเจ้าของต่อไป
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
เมื่อที่ดินพิพาทเป็นของจำเลยที่ 2 ฉ. ย่อมไม่มีสิทธิที่จะยกที่ดินพิพาทซึ่งไม่ใช่ของตนให้แก่ผู้อื่น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องร้องและการถอนฟ้องของเด็กผู้เยาว์ที่แต่งทนายเอง ผู้แทนโดยชอบธรรมมีอำนาจจำกัด
โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เยาว์ ลงชื่อแต่งทนายให้ดำเนินกระบวนพิจารณาและอุทธรณ์ฎีกามาโดยลำพังไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมดำเนินคดีแทนอุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ร่วม ย่อมเป็นอุทธรณ์และฎีกาที่ไม่ชอบ
คำแจ้งความที่เพียงแต่แจ้งให้พนักงานตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐานมิได้ขอให้ดำเนินคดีกับจำเลย ย่อมไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
คำให้การของผู้เสียหายที่พนักงานสอบสวนได้จดบันทึกไว้ในตอนท้าย มีข้อความว่า "ในวันนี้....ทางข้าฯ และมารดาข้าฯ จึงมาร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไทดำเนินคดีกับนายเอสวูดดี้ในข้อหากระทำอนาจาร ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1(7), 123 แล้ว
เมื่อผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาและบิดายังมีชีวิตอยู่มารดาของผู้เยาว์จึงไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เยาว์ได้
คำแจ้งความที่เพียงแต่แจ้งให้พนักงานตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐานมิได้ขอให้ดำเนินคดีกับจำเลย ย่อมไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
คำให้การของผู้เสียหายที่พนักงานสอบสวนได้จดบันทึกไว้ในตอนท้าย มีข้อความว่า "ในวันนี้....ทางข้าฯ และมารดาข้าฯ จึงมาร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไทดำเนินคดีกับนายเอสวูดดี้ในข้อหากระทำอนาจาร ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1(7), 123 แล้ว
เมื่อผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาและบิดายังมีชีวิตอยู่มารดาของผู้เยาว์จึงไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เยาว์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1641/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้เยาว์ร้องทุกข์-ถอนคำร้องทุกข์: อำนาจผู้แทนโดยชอบธรรม & ผลของการแต่งทนายโดยลำพัง
โจทก์ร่วมซึ่งเป็นผู้เยาว์ ลงชื่อแต่งทนายให้ดำเนินกระบวนพิจารณาและอุทธรณ์ฎีกา มาโดยลำพังไม่มีผู้แทนโดยชอบธรรมดำเนินคดีแทน อุทธรณ์และฎีกาของโจทก์ร่วม ย่อมเป็นอุทธรณ์และฎีกาที่ไม่ชอบ
คำแจ้งความที่เพียงแต่แจ้งให้พนักงานตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐานมิได้ขอให้ดำเนินคดีกับจำเลย ย่อมไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
คำให้การของผู้เสียหายที่พนักงานสอบสวนได้จดบันทึกไว้ในตอนท้ายมีข้อความว่า "ในวันนี้ทางข้าฯ และมารดาข้าฯ จึงมาร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไทดำเนินคดีกับนายเอสวูดดี้ในข้อหากระทำอนาจาร ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1(7), 123 แล้ว
เมื่อผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาและบิดายังมีชีวิตอยู่มารดาของผู้เยาว์จึงไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เยาว์ได้
คำแจ้งความที่เพียงแต่แจ้งให้พนักงานตำรวจทราบไว้เป็นหลักฐานมิได้ขอให้ดำเนินคดีกับจำเลย ย่อมไม่เป็นคำร้องทุกข์ตามกฎหมาย
คำให้การของผู้เสียหายที่พนักงานสอบสวนได้จดบันทึกไว้ในตอนท้ายมีข้อความว่า "ในวันนี้ทางข้าฯ และมารดาข้าฯ จึงมาร้องทุกข์มอบคดีให้พนักงานสอบสวน สน.พญาไทดำเนินคดีกับนายเอสวูดดี้ในข้อหากระทำอนาจาร ดังนี้ ถือได้ว่าเป็นคำร้องทุกข์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 1(7), 123 แล้ว
เมื่อผู้เยาว์เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของบิดาและบิดายังมีชีวิตอยู่มารดาของผู้เยาว์จึงไม่ใช่ผู้แทนโดยชอบธรรมของผู้เยาว์ จึงไม่มีอำนาจถอนคำร้องทุกข์แทนผู้เยาว์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างอาคารตามใบอนุญาต แม้ไม่เป็นไปตามเทศบัญญัติทั้งหมด ศาลไม่อำนาจบังคับให้แก้ไข
จำเลยปลูกสร้างอาคารตามที่โจทก์ฟ้องโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคือโจทก์แล้ว ทั้งมิได้ปลูกสร้างผิดแผกจากแผนผังแบบก่อสร้างหรือรายการที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุไว้ในใบอนุญาต หากแต่ว่าจำเลยเว้นทางเดินหลังอาคารไว้หลังแนวเขตที่ดินเพียง 80 เซนติเมตร ไม่ถึง 200 เซนติเมตรผิดเทศบัญญัติควบคุมการก่อสร้างที่โจทก์อนุญาตไปโดยสำคัญผิดกรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมายที่จะให้อำนาจโจทก์มาฟ้องบังคับให้จำเลยร่นหรือถอนอาคารดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1496/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การก่อสร้างอาคารตามใบอนุญาต แม้ไม่เป็นไปตามเทศบัญญัติที่อนุญาตโดยสำคัญผิด เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่มีอำนาจบังคับรื้อถอน
จำเลยปลูกสร้างอาคารตามที่โจทก์ฟ้องโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นคือโจทก์แล้ว ทั้งมิได้ปลูกสร้างผิดแผกจากแผนผังแบบก่อสร้างหรือรายการที่ได้รับอนุญาต หรือไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุไว้ในใบอนุญาต หากแต่ว่าจำเลยเว้นทางเดินหลังอาคารไว้หลังแนวเขตที่ดินเพียง 80 เซนติเมตร ไม่ถึง 200 เซนติเมตร ผิดเทศบัญญัติควบคุมการก่อสร้างที่โจทก์อนุญาตไปโดยสำคัญผิดกรณีจึงไม่ต้องด้วยบทบัญญัติของกฎหมายที่จะให้อำนาจโจทก์มาฟ้องบังคับให้จำเลยร่นหรือถอนอาคารดังกล่าวได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินร่วมไม่กระทบสิทธิภารจำยอมเดิม
เจ้าของที่ดินที่ซึ่งมีทางภารจำยอมโดยอายุความอยู่ก่อนแล้ว โอนขายที่ดินบางส่วนให้แก่ผู้ซื้อโดยเติมผู้ซื้อลงในโฉนดร่วมกับตน ดังนี้ ไม่เป็นเหตุทำให้การจำยอมซึ่งมีอยู่แต่เดิมสิ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1426/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนขายที่ดินบางส่วนไม่ทำให้ภารจำยอมเดิมสิ้นสุดลง หากยังถือครองกรรมสิทธิ์ร่วมกัน
เจ้าของที่ดินซึ่งมีทางภารจำยอมโดยอายุความอยู่ก่อนแล้วโอนขายที่ดินบางส่วนให้แก่ผู้ซื้อโดยเติมชื่อผู้ซื้อลงในโฉนดร่วมกับตนดังนี้ ไม่เป็นเหตุทำให้ภารจำยอมซึ่งมีอยู่แต่เดิมสิ้นไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมศาลในคดีล้มละลาย: การโต้แย้งสิทธิในทรัพย์สินที่ถูกยึดถือเป็นคดีธรรมดาต้องเสียค่าธรรมเนียม
คำร้องขอต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สั่งไม่ให้ถอนการยึดทรัพย์สินตามมาตรา 158 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายนั้น ผู้ร้องจะต้องเสียค่าธรรมเนียมศาล