พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,662 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1518/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ส.ค.1 ไม่สร้างสิทธิในที่ดิน หากไม่ได้มีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายอยู่ก่อน
การแจ้งการครอบครองที่ดินตามแบบ ส.ค. 1 นั้น ไม่ก่อให้เกิดสิทธิแก่ผู้แจ้งประการใด เว้นแต่ผู้แจ้งจะได้สิทธิครอบครองอยู่แล้ว โดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความและการจดทะเบียน: การรับโอนกรรมสิทธิ์โดยสุจริตไม่กระทบสิทธิภารจำยอมที่เกิดขึ้นแล้ว
จำเลยจะยกการรับโอนกรรมสิทธิ์โดยสุจริตขึ้นเป็นข้อสู้เพื่อให้ภารจำยอมที่มีอยู่ในที่ดินนั้นต้องสิ้นไปเพราะเหตุมิ ได้จดทะเบียน - ภารจำยอมหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 800/2502 ซึ่งตัดสินโดยที่ประชุมใหญ่)
นับแต่แต่ พ.ศ. 2485 มารดาโจทก์เข้าอยู่ในที่ดิน ของโจทก์และได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางสัญจรจำหรับรถ 3 ล้อเข้าออกบ้านสู่ถนนดินสอและเมื่อสามีโจทก์และโจทก์รับช่วงเป็นเจ้าของที่ดิน มารดาโจทก์ สามีโจทก์และโจทก์ ก็ได้ใช้ทางพิพาทนี้สำหรับรถ 3 ล้อ สัญจรเข้าออกบ้านโจทก์สืบต่อกันตลอดมาไม่ขาดสาย จนถึงปี พ.ศ. 2499 ซึ่งพิพาทกันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ย่อมได้สิทธิในการจำยอมเหนือทางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยยาวตลอดตรอกพิพาทโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1385, 1387 และ 1401 จำเลยจะปิดกั้นตรอกพิพาทแม้เฉพาะในส่วนที่ดินอยู่ในหน้าโฉนดของจำเลยหาได้ไม่ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390) การที่จำเลยปิดกั้นตรอกพิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในสิทธิภารจำยอมไม่ได้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420)
นับแต่แต่ พ.ศ. 2485 มารดาโจทก์เข้าอยู่ในที่ดิน ของโจทก์และได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางสัญจรจำหรับรถ 3 ล้อเข้าออกบ้านสู่ถนนดินสอและเมื่อสามีโจทก์และโจทก์รับช่วงเป็นเจ้าของที่ดิน มารดาโจทก์ สามีโจทก์และโจทก์ ก็ได้ใช้ทางพิพาทนี้สำหรับรถ 3 ล้อ สัญจรเข้าออกบ้านโจทก์สืบต่อกันตลอดมาไม่ขาดสาย จนถึงปี พ.ศ. 2499 ซึ่งพิพาทกันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ย่อมได้สิทธิในการจำยอมเหนือทางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยยาวตลอดตรอกพิพาทโดยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382, 1385, 1387 และ 1401 จำเลยจะปิดกั้นตรอกพิพาทแม้เฉพาะในส่วนที่ดินอยู่ในหน้าโฉนดของจำเลยหาได้ไม่ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390) การที่จำเลยปิดกั้นตรอกพิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในสิทธิภารจำยอมไม่ได้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1470/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอมโดยอายุความและการปิดกั้นทางสัญจร
จำเลยจะยกการรับโอนกรรมสิทธิ์โดยสุจริตขึ้นเป็นข้อต่อสู้เพื่อให้ภารจำยอมที่มีอยู่ในที่ดินนั้นต้องสิ้นไปเพราะเหตุมิได้จดทะเบียนภารจำยอมหาได้ไม่ (อ้างฎีกาที่ 800/2502 ซึ่งตัดสินโดยที่ประชุมใหญ่)
นับตั้งแต่ พ.ศ.2485 มารดาโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินของโจทก์และได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางสัญจรสำหรับรถ 3 ล้อเข้าออกบ้านสู่ถนนดินสอ และเมื่อสามีโจทก์และโจทก์รับช่วงเป็นเจ้าของที่ดิน มารดาโจทก์ สามีโจทก์และโจทก์ก็ได้ใช้ทางพิพาทนี้สำหรับรถ 3 ล้อ สัญจรเข้าออกบ้านโจทก์สืบต่อกันตลอดมาไม่ขาดสาย จนถึงปี พ.ศ.2499 ซึ่งพิพาทกันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ย่อมได้สิทธิในภารจำยอมเหนือทางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยยาวตลอดตรอกพิพาทโดยทางอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382,1385,1387 และ 1401 จำเลยจะปิดกั้นตรอกพิพาทแม้เฉพาะในส่วนที่ดินอยู่ในหน้าโฉนดของจำเลยหาได้ไม่ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390) การที่จำเลยปิดกั้นตรอกพิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในสิทธิภารจำยอมไม่ได้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
นับตั้งแต่ พ.ศ.2485 มารดาโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินของโจทก์และได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางสัญจรสำหรับรถ 3 ล้อเข้าออกบ้านสู่ถนนดินสอ และเมื่อสามีโจทก์และโจทก์รับช่วงเป็นเจ้าของที่ดิน มารดาโจทก์ สามีโจทก์และโจทก์ก็ได้ใช้ทางพิพาทนี้สำหรับรถ 3 ล้อ สัญจรเข้าออกบ้านโจทก์สืบต่อกันตลอดมาไม่ขาดสาย จนถึงปี พ.ศ.2499 ซึ่งพิพาทกันเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าว ย่อมได้สิทธิในภารจำยอมเหนือทางพิพาทซึ่งเป็นที่ดินของจำเลยยาวตลอดตรอกพิพาทโดยทางอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382,1385,1387 และ 1401 จำเลยจะปิดกั้นตรอกพิพาทแม้เฉพาะในส่วนที่ดินอยู่ในหน้าโฉนดของจำเลยหาได้ไม่ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1390) การที่จำเลยปิดกั้นตรอกพิพาทเป็นเหตุให้โจทก์ใช้ประโยชน์ในสิทธิภารจำยอมไม่ได้ ย่อมเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยจะต้องรับผิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอม: ผู้เช่าที่ดินไม่มีสิทธิเรียกร้องภารจำยอมโดยตรง อายุความยังไม่ครบ 10 ปี
ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอยู่ในที่ดินที่เช่า ไม่ใช่เจ้าของสามยทรัพย์ที่จะอ้างได้สิทธิภารจำยอมในทางเดิน ภารจำยอมเป็นทรัพยสิทธิ ผู้เช่าจะกล่าวอ้างได้ก็ต้องเป็นกรณีที่มีผู้ละเมิดต่อสิทธิในการใช้ทางเดินของผู้เช่าเท่านั้น
เจ้าของสามยทรัพย์ซึ่งใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านเข้าออกนั้น ถ้าใช้ยังไม่ถึง 10 ปี ย่อมไม่ได้สิทธิภารจำยอมในทางอายุความ
เจ้าของสามยทรัพย์ซึ่งใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านเข้าออกนั้น ถ้าใช้ยังไม่ถึง 10 ปี ย่อมไม่ได้สิทธิภารจำยอมในทางอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิภารจำยอม: ผู้เช่าที่ดินไม่มีสิทธิเรียกร้องภารจำยอมเอง ต้องรอการละเมิดสิทธิ หรืออายุความ 10 ปี
ผู้เช่าที่ดินปลูกบ้านอยู่ในที่ดินที่เช่าไม่ใช่เจ้าของสามยทรัพย์ที่จะอ้างได้สิทธิภารจำยอมในทางเดินภารจำยอมเป็นทรัพยสิทธิ ผู้เช่าจะกล่าวอ้างได้ก็ต้องเป็นกรณีที่มีผู้ละเมิดต่อสิทธิในการใช้ทางเดินของผู้เช่าเท่านั้น
เจ้าของสามยทรัพย์ซึ่งใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านเข้าออกนั้นถ้าใช้ยังไม่ถึง 10 ปี ย่อมไม่ได้สิทธิภารจำยอมในทางอายุความ
เจ้าของสามยทรัพย์ซึ่งใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินผ่านเข้าออกนั้นถ้าใช้ยังไม่ถึง 10 ปี ย่อมไม่ได้สิทธิภารจำยอมในทางอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินงอกใหม่: การครอบครองปรปักษ์เริ่มต้นเมื่อใด?
ก่อนเป็นที่งอก ที่พิพาทเป็นที่น้ำท่วมถึงเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน ต่อมาที่พิพาทเริ่มเป็นของจำเลยโดยเป็นที่งอกหน้าที่ดินของจำเลยตาม ป.พ.พ. มาตรา 1308 เมื่อ 3 ปีมานี้ การที่โจทก์ครอบครองปรปักษ์ ต่อที่ดินของจำเลยดั่งกล่าวนี้เพียง 3 ปี โจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินงอกริมตลิ่ง: การครอบครองปรปักษ์ต้องเริ่มนับเมื่อที่ดินนั้นเป็นของเอกชนแล้ว
ก่อนเป็นที่งอก ที่พิพาท เป็นที่น้ำท่วมถึงเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินต่อมาที่พิพาทเริ่มเป็นของจำเลยโดยเป็นที่งอกหน้าที่ดินของจำเลยตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1308เมื่อ 3 ปีมานี้ การที่โจทก์ครอบครองปรปักษ์ต่อที่ดินของจำเลยดังกล่าวนี้เพียง 3 ปีโจทก์ย่อมไม่ได้กรรมสิทธิ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยมิได้จดทะเบียนและการซื้อโดยสุจริตของผู้รับโอน
แม้จะฟังเป็นความจริงดังจำเลย อ้างว่าบิดาได้ยกที่พิพาทมีโฉนดให้จำเลยจำเลยเข้าครอบครองติดต่อกันมา 19 ปี ก็ดี แต่เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสิทธิที่ได้มานั้น ก็ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้ และจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับโอนมาด้วยการซื้อโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทน ทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริง เป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราว กับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไป ศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้ โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้น การพิจารณาของศาลต่อจากนั้น ย่อมไม่เสียไป
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริง เป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบ เพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราว กับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไป ศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้ โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้น การพิจารณาของศาลต่อจากนั้น ย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 621/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิในที่ดินโดยมิได้จดทะเบียนและการคุ้มครองผู้ซื้อโดยสุจริต
แม้จะฟังเป็นความจริงดังจำเลยอ้างว่าบิดาได้ยกที่พิพาทมีโฉนดให้จำเลย จำเลยเข้าครอบครองติดต่อกันมา 19 ปี ก็ดี แต่เมื่อจำเลยไม่ได้จดทะเบียนสิทธิที่ได้มานั้นก็ย่อมจะมีการเปลี่ยนแปลงทางทะเบียนไม่ได้และจำเลยจะยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกผู้ได้รับโอนมาด้วยการซื้อโดยสุจริตและเสียค่าตอบแทนทั้งได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วหาได้ไม่
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริงเป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบเพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราวกับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไปศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้นการพิจารณาของศาลต่อจากนั้นย่อมไม่เสียไป
โจทก์ขอแก้ฟ้องเฉพาะเลขที่ของโฉนด และจำนวนเนื้อที่ดินเพื่อให้ถูกต้องกับความจริงเป็นการแก้เพียงเล็กน้อยและขอแก้ก่อนมีการชี้สองสถาน ทั้งมิได้ทำให้จำเลยเสียเปรียบเพราะจำเลยก็ยังคงมีข้อต่อสู้เช่นเมื่อก่อนแก้ เช่นนี้ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องได้
การที่ศาลต้องรอการพิจารณามานานโดยจำเลยขอให้รอฟังผลของคณะกรรมการจัดสรรที่ดินและสั่งจำหน่ายคดีเสียชั่วคราวกับสั่งว่าหากปรากฏผลประการใดก็ให้คู่ความแถลงให้ศาลทราบเพื่อดำเนินการต่อไปนั้น มีผลเป็นคำสั่งให้รอคดีไว้ชั่วคราว หาใช่จำหน่ายคดีออกจากสารบบความเสียทีเดียวไม่ต่อมาเมื่อโจทก์ร้องขอให้พิจารณาต่อไปศาลก็นัดพิจารณาใหม่ได้โดยมิต้องมีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งจำหน่ายคดีชั่วคราวนั้นการพิจารณาของศาลต่อจากนั้นย่อมไม่เสียไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087-1090/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับโอนที่ดินโดยสุจริตและจดทะเบียน ย่อมมีสิทธิเหนือผู้ครอบครองปรปักษ์ แม้ครอบครองก่อนนานกว่า 10 ปี หากการโอนต่อๆ มาไม่ถึง 10 ปี
ผู้รับโอนที่ดินมีโฉนดไว้โดยเสียค่าตอบแทนและโดยสุจริตและได้จดทะเบียนสิทธิโดยสุจริตแล้วย่อมมีสิทธิดีกว่าผู้ที่ครอบครองที่ดินนั้นมาโดยปรปักษ์กว่า 10 ปี ถ้ามีผู้รับโอนทางทะเบียนต่อมาเป็นทอดๆ อีกไม่ถึง 10 ปีนับแต่วันโอนครั้งแรก ผู้รับโอนต่อๆ มานี้จะรู้หรือไม่รู้ถึงการครอบครองโดยปรปักษ์ ก็มีสิทธิดีกว่าผู้ครอบครอง (อ้างฎีกาที่ 1015/2485)