คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 1382

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,662 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4607/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องเกิดขึ้นบนที่ดินของผู้อื่น มิใช่ที่ดินของตนเอง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเข้าไปก่อสร้างรั้วกำแพงคอนกรีต สิ่งปลูกสร้างและปลูกต้นไม้ในที่ดินโจทก์ ขอให้รื้อถอนออกไป จำเลยให้การว่าจำเลยมิได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยกระทำลงบนที่ดินของจำเลยที่ซื้อมา หลังจากซื้อมาแล้วจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้วดังนั้น รูปคดีตามที่โจทก์ฟ้องและจำเลยให้การไม่มีประเด็นเรื่องการครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382 เพราะการครอบครองปรปักษ์จะมีได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2540)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4607/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทที่ดิน: การรุกล้ำที่ดิน vs. การครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย การวินิจฉัยประเด็นการครอบครองปรปักษ์ที่ไม่ถูกต้อง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเข้าไปก่อสร้างรั้วกำแพงคอนกรีต สิ่งปลูกสร้างและปลูกต้นไม้ในที่ดินโจทก์ ขอให้รื้อถอนออกไป จำเลยให้การว่าจำเลยมิได้รุกล้ำที่ดินของโจทก์ แต่จำเลยกระทำลงบนที่ดินของจำเลยที่ซื้อมา เมื่อซื้อมาแล้วจำเลยได้ครอบครองโดยความสงบและโดยเปิดเผยด้วยเจตนาเป็นเจ้าของเกินกว่า 10 ปีแล้ว เห็นได้ว่ารูปคดีตามที่โจทก์ฟ้องและจำเลยให้การนั้นไม่มีประเด็นเรื่องการครอบครองปรปักษ์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เพราะการครอบครองปรปักษ์จะมีได้ก็แต่ในที่ดินของผู้อื่นเท่านั้น การที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกประเด็นดังกล่าวขึ้นวินิจฉัยแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4545/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องซ้ำในคดีแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินเมื่อศาลเคยมีคำสั่งถึงที่สุดแล้ว
ที่ดินพิพาทที่ผู้ร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์คดีนี้เป็นส่วนหนึ่งของที่ดินที่ผู้ร้องเคยร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในคดีก่อน เมื่อปรากฏว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งในคดีก่อนให้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่ดินโดยระบุชัดว่าป็นที่ดินส่วนใต้สุดมุมตะวันตก ซึ่งเป็นการรับรองว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่ดินเฉพาะส่วนซึ่งมีเนื้อที่ประมาณ 200 ตารางวา และจำนวนเนื้อที่ตามที่ศาลชั้นต้นระบุนั้นเป็นเพียงการกะประมาณเท่านั้น ต่อมาปรากฏจากการรังวัดว่าที่ดินที่ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองนั้น มีเนื้อที่ถึง 240ตารางวา ดังนี้ผู้ร้องย่อมได้กรรมสิทธิ์ที่ดินดังกล่าวทั้งหมดซึ่งรวมถึงที่ดินพิพาท40 ตารางวานี้ด้วย ชอบที่ผู้ร้องต้องไปดำเนินการบังคับเกี่ยวกับที่ดินพิพาทเนื้อที่ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าวในคดีก่อนได้ การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทในจำนวนเนื้อที่ที่เพิ่มขึ้นเป็นคดีนี้เพื่อให้ศาลวินิจฉัยโดยอาศัยเหตุอย่างเดียวกันกับคดีก่อนซึ่งศาลได้มีคำสั่งถึงที่สุดแล้ว ถือว่าเป็นฟ้องซ้ำตาม ป.วิ.พ.มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3148/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์เป็นโมฆะ หากได้มาโดยเจตนาทุจริต ปกปิดข้อเท็จจริงว่าที่ดินเป็นป่าช้า
ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทที่ชาวจีนฮกเกี้ยนได้ช่วยกันออกเงินซื้อที่ดินโดยให้ ล.เป็นผู้จัดการ ขณะร่วมกันออกเงินซื้อที่พิพาทซึ่งยังไม่มีใบสำคัญสำหรับที่ดินเพื่อทำเป็นป่าช้าฝังศพ โดยตั้งเป็นทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าและให้ ล. เป็นทรัสตี ต่อมา ล.ได้ไปดำเนินการออกโฉนดที่พิพาทและเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในฐานะเป็นทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋า อันเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการออกโฉนดที่ดิน ฉบับที่ 2พ.ศ. 2459 มาตรา 8 การตั้งทรัสต์และทรัสตีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1686 แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้มีการจดทะเบียนกันไว้หรือไม่ก็มีผลบังคับได้ ลักษณะของป่าช้าจีนบ้าบ๋าไม่ใช่สถานีที่ฝังศพสำหรับเฉพาะคนในตระกูลหรือกลุ่มพวกพ้องของ ล. เท่านั้น แต่ใช้เป็นที่ฝังศพของชาวจีนฮกเกี้ยนที่มาจากประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนมาก โดยไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นใครถือได้ว่าทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ฝังศพและบำเพ็ญกุศลให้ผู้ตายอันเป็นประโยชน์ต่อชาวจีนฮกเกี้ยนทั่วไปลักษณะของทรัสต์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นทรัสต์เพื่อการกุศลหรือทรัสต์มหาชน จึงเป็นทรัสต์ถาวรไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดไปเองดังเช่นทรัสต์เอกชนทั่วไป แม้ต่อมา ล. ได้ถึงแก่กรรมที่ประเทศสิงคโปร์แล้วก็ตาม แต่ทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าก็ไม่ได้เลิกหรือสิ้นสภาพไป ผู้มีส่วนได้เสียของทรัสต์ดังกล่าวหรือพนักงานอัยการอาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งทรัสตีคนใหม่แทนได้ แม้ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของ ล. คนในบังคับอังกฤษ ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์และศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ตาม แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นบังคับคดีว่าที่พิพาทเป็นของ ล. ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋า ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ล. ดังที่ผู้ร้องอ้างในคำร้องขอ ทั้งตามลักษณะที่พิพาทในขณะนั้นก็ยังเป็นป่าช้าฝังศพของชาวจีนอยู่ และที่พิพาทส่วนใหญ่เป็นที่ฝังศพก่อปูนซีเมนต์มีรูปแบบเป็นฮวงซุ้ยของชาวจีนทั่วไปจากสภาพของป่าช้าดังกล่าวย่อมไม่มีบุคคลใดเข้าไปยึดถือเพื่อตน ทั้งตามพฤติการณ์ของผู้ร้องตั้งแต่ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทและนำสืบพยานผู้ร้องในชั้นไต่สวนคำร้องเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ร้องมีเจตนาปกปิดไม่ให้ศาลทราบความจริงว่าที่พิพาทเป็นป่าช้าฝังศพ เนื่องจากผู้ร้องเกรงว่าจะเป็นสาเหตุให้ศาลทราบว่าผู้ร้องไม่ได้เข้าไปครอบครองที่พิพาทอย่างเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามที่ผู้ร้องอ้าง การดำเนินคดีของผู้ร้องดังกล่าวมาทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 5 ไม่สมควรที่ผู้ร้องจะได้รับประโยชน์จากการกระทำอันไม่สุจริตของตน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์จึงไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3148/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองปรปักษ์เป็นโมฆะ หากได้มาจากการปกปิดข้อเท็จจริงว่าที่ดินเป็นป่าช้าและกระทำการไม่สุจริต
ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาทที่ชาวจีนฮกเกี้ยนได้ช่วยกันออกเงินซื้อที่ดินโดยให้ล.เป็นผู้จัดการขณะร่วมกันออกเงินซื้อที่พิพาทซึ่งยังไม่มีใบสำคัญสำหรับที่ดินเพื่อทำเป็นป่าช้าฝังศพโดยตั้งเป็นทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าและให้ล. เป็นทรัสตีต่อมาล.ได้ไปดำเนินการออกโฉนดที่พิพาทและเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในฐานะเป็นทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าอันเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติการออกโฉนดที่ดินฉบับที่2พ.ศ.2459มาตรา8การตั้งทรัสต์และทรัสตีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันใช้ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1686แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้มีการจดทะเบียนกันไว้หรือไม่ก็มีผลบังคับได้ ลักษณะของป่าช้าจีนบ้าบ๋าไม่ใช่สถานีที่ฝังศพสำหรับเฉพาะคนในตระกูลหรือกลุ่มพวกพ้องของล. เท่านั้นแต่ใช้เป็นที่ฝังศพของชาวจีนฮกเกี้ยนที่มาจากประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนมากโดยไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นใครถือได้ว่าทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ฝังศพและบำเพ็ญกุศลให้ผู้ตายอันเป็นประโยชน์ต่อชาวจีนฮกเกี้ยนทั่วไปลักษณะของทรัสต์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นทรัสต์เพื่อการกุศลหรือทรัสต์มหาชนจึงเป็นทรัสต์ถาวรไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดไปเองดังเช่นทรัสต์เอกชนทั่วไปแม้ต่อมาล. ได้ถึงแก่กรรมที่ประเทศสิงคโปร์แล้วก็ตามแต่ทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าก็ไม่ได้เลิกหรือสิ้นสภาพไปผู้มีส่วนได้เสียของทรัสต์ดังกล่าวหรือพนักงานอัยการอาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งทรัสตีคนใหม่แทนได้ แม้ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของล. คนในบังคับอังกฤษผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์และศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ตามแต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นบังคับคดีว่าที่พิพาทเป็นของล. ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของล. ดังที่ผู้ร้องอ้างในคำร้องขอทั้งตามลักษณะที่พิพาทในขณะนั้นก็ยังเป็นป่าช้าฝังศพของชาวจีนอยู่และที่พิพาทส่วนใหญ่เป็นที่ฝังศพก่อปูนซีเมนต์มีรูปแบบเป็นฮวงซุ้ยของชาวจีนทั่วไปจากสภาพของป่าช้าดังกล่าวย่อมไม่มีบุคคลใดเข้าไปยึดถือเพื่อตนทั้งตามพฤติการณ์ของผู้ร้องตั้งแต่ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทและนำสืบพยานผู้ร้องในชั้นไต่สวนคำร้องเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ร้องมีเจตนาปกปิดไม่ให้ศาลทราบความจริงว่าที่พิพาทเป็นป่าช้าฝังศพเนื่องจากผู้ร้องเกรงว่าจะเป็นสาเหตุให้ศาลทราบว่าผู้ร้องไม่ได้เข้าไปครอบครองที่พิพาทอย่างเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามที่ผู้ร้องอ้างการดำเนินคดีของผู้ร้องดังกล่าวมาทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่สุจริตขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา5ไม่สมควรที่ผู้ร้องจะได้รับประโยชน์จากการกระทำอันไม่สุจริตของตนคำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์จึงไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3148/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในที่ดินป่าช้า: ทรัสต์เพื่อการกุศลและการครอบครองปรปักษ์ที่ไม่สุจริต
ป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในโฉนดที่ดินพิพาท ที่ชาวจีนฮกเกี้ยนได้ช่วยกันออกเงินซื้อที่ดินโดยให้ ล.เป็นผู้จัดการ ขณะร่วมกันออกเงินซื้อที่พิพาทซึ่งยังไม่มีใบสำคัญสำหรับที่ดินเพื่อทำเป็นป่าช้าฝังศพ โดยตั้งเป็นทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าและให้ ล.เป็นทรัสตี ต่อมา ล.ได้ไปดำเนินการออกโฉนดที่พิพาทและเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ในฐานะเป็นทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋า อันเป็นการกระทำที่สอดคล้องกับ พ.ร.บ.การออกโฉนดที่ดิน ฉบับที่ 2 พ.ศ.2459 มาตรา 8 การตั้งทรัสต์และทรัสตีดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนวันใช้ ป.พ.พ.มาตรา 1686 แม้จะไม่ปรากฏหลักฐานว่าได้มีการจดทะเบียนกันไว้หรือไม่ก็มีผลบังคับได้
ลักษณะของป่าช้าจีนบ้าบ๋าไม่ใช่สถานที่ฝังศพสำหรับเฉพาะคนในตระกูลหรือกลุ่มพวกพ้องของ ล.เท่านั้น แต่ใช้เป็นที่ฝังศพของชาวจีนฮกเกี้ยนที่มาจากประเทศสิงคโปร์ซึ่งเป็นกลุ่มคนจำนวนมาก โดยไม่มีข้อจำกัดว่าเป็นใคร ถือได้ว่าทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าตั้งขึ้นเพื่อใช้เป็นที่ฝังศพและบำเพ็ญกุศลให้ผู้ตายอันเป็นประโยชน์ต่อชาวจีนฮกเกี้ยนทั่วไป ลักษณะของทรัสต์ดังกล่าวถือได้ว่าเป็นทรัสต์เพื่อการกุศลหรือทรัสต์มหาชน จึงเป็นทรัสต์ถาวรไม่มีกำหนดระยะเวลาสิ้นสุดไปเองดังเช่นทรัสต์เอกชนทั่วไป แม้ต่อมา ล.ได้ถึงแก่กรรมที่ประเทศสิงคโปร์แล้วก็ตาม แต่ทรัสต์ป่าช้าจีนบ้าบ๋าก็ไม่ได้เลิกหรือสิ้นสภาพไป ผู้มีส่วนได้เสียของทรัสต์ดังกล่าวหรือพนักงานอัยการอาจร้องขอต่อศาลให้ตั้งทรัสตีคนใหม่แทนได้
แม้ผู้ร้องจะยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยอ้างว่าที่พิพาทเป็นของ ล.คนในบังคับอังกฤษ ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทมาโดยการครอบครองปรปักษ์และศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องแล้วมีคำสั่งว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ตาม แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงในชั้นบังคับคดีว่าที่พิพาทเป็นของ ล.ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋า ไม่ใช่เป็นกรรมสิทธิ์ของ ล.ดังที่ผู้ร้องอ้างในคำร้องขอ ทั้งตามลักษณะที่พิพาทในขณะนั้นก็ยังเป็นป่าช้าฝังศพของชาวจีนอยู่ และที่พิพาทส่วนใหญ่เป็นที่ฝังศพก่อปูนซีเมนต์มีรูปแบบเป็นฮวงซุ้ยของชาวจีนทั่วไป จากสภาพของป่าช้าดังกล่าวย่อมไม่มีบุคคลใดเข้าไปยึดถือเพื่อตน ทั้งตามพฤติการณ์ของผู้ร้องตั้งแต่ยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่พิพาทและนำสืบพยานผู้ร้องในชั้นไต่สวนคำร้องเห็นได้อย่างชัดเจนว่าผู้ร้องมีเจตนาปกปิดไม่ให้ศาลทราบความจริงว่าที่พิพาทเป็นป่าช้าฝังศพเนื่องจากผู้ร้องเกรงว่าจะเป็นสาเหตุให้ศาลทราบว่าผู้ร้องไม่ได้เข้าไปครอบครองที่พิพาทอย่างเปิดเผยและด้วยเจตนาเป็นเจ้าของตามที่ผู้ร้องอ้าง การดำเนินคดีของผู้ร้องดังกล่าวมาทั้งหมดเป็นการกระทำที่ไม่สุจริต ขัดต่อ ป.พ.พ.มาตรา 5ไม่สมควรที่ผู้ร้องจะได้รับประโยชน์จากการกระทำอันไม่สุจริตของตน คำสั่งของศาลชั้นต้นที่ว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ที่พิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์จึงไม่อาจบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งนั้นได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3147/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: สัญญาจะซื้อขาย, การครอบครองแทน, และการครอบครองปรปักษ์
จ. บิดาโจทก์ได้ตกลงซื้อที่ดินพิพาทจากล.ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นเงิน125,000บาทแต่ชำระราคากันไว้เพียง25,000บาทยังไม่ครบถ้วนราคาที่ดินและมีข้อตกลงในสัญญาด้วยว่าล. จะไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้บิดาโจทก์เมื่อล. กลับจากต่างประเทศและให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบเขตที่ดินเสียก่อนด้วยข้อสัญญาดังกล่าวจึงเป็นลักษณะสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแม้ล. จะมอบที่ดินพิพาทให้บิดาโจทก์ครอบครองและบิดาโจทก์ได้มอบให้โจทก์ครอบครองแทนต่อมาก็ตามกรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทยังคงเป็นของล. การที่บิดาโจทก์และโจทก์เข้าครอบครองที่ดินพิพาทดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทนล.ดังนี้การร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทของอ. และจำเลยที่4ต่อศาลชั้นต้นก็ดีการกระทำของอ. กับจำเลยที่4ดังกล่าวรวมทั้งที่จำเลยที่2ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแต่งตั้งจำเลยที่3เป็นผู้จัดการมรดกของอ. จนเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าที่ดินพิพาทเป็นของอ. กับจำเลยที่4และมีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่3เป็นผู้จัดการมรดกของอ. ก็ดีจึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่2ที่3และที่4 ตามคำฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่าโจทก์ได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของทั้งไม่ได้ขอให้ศาลพิพากษาว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องเพียงว่าขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่1ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาที่ทำไว้แก่โจทก์และรับเงินราคาที่โจทก์วางไว้ต่อสำนักงานวางทรัพย์ตลอดจนสอบแนวเขตที่ดินแก่โจทก์ด้วยเห็นได้ชัดแจ้งว่าโจทก์มุ่งประสงค์ฟ้องบังคับให้จำเลยที่1ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินโดยตรงโดยมิได้มีเจตนากล่าวถึงเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ศาลจึงวินิจฉัยประเด็นที่ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1382ให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3147/2540 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาจะซื้อขาย, ครอบครองแทน, สิทธิในที่ดิน, การฟ้องบังคับตามสัญญา, ครอบครองปรปักษ์ (ไม่ได้)
จ.บิดาโจทก์ได้ตกลงซื้อที่ดินพิพาทจาก ล.ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นเงิน 125,000 บาท แต่ชำระราคากันไว้เพียง 25,000 บาท ยังไม่ครบถ้วนราคาที่ดิน และมีข้อตกลงในสัญญาด้วยว่า ล.จะไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้บิดาโจทก์เมื่อ ล.กลับจากต่างประเทศ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบเขตที่ดินเสียก่อนด้วย ข้อสัญญาดังกล่าวจึงเป็นลักษณะสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแม้ ล.จะมอบที่ดินพิพาทให้บิดาโจทก์ครอบครอง และบิดาโจทก์ได้มอบให้โจทก์ครอบครองแทนต่อมาก็ตาม กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทยังคงเป็นของ ล. การที่บิดาโจทก์และโจทก์เข้าครอบครองที่ดินพิพาทดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทน ล.ดังนี้ การร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทของ อ.และจำเลยที่ 4 ต่อศาลชั้นต้นก็ดีการกระทำของ อ.กับจำเลยที่ 4 ดังกล่าว รวมทั้งที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแต่งตั้งจำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกของ อ.จนเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าที่ดินพิพาทเป็นของ อ.กับจำเลยที่ 4 และมีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่ 3เป็นผู้จัดการมรดกของ อ.ก็ดีจึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4
ตามคำฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่า โจทก์ได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ทั้งไม่ได้ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องเพียงว่า ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาที่ทำไว้แก่โจทก์และรับเงินราคาที่โจทก์วางไว้ต่อสำนักงานวางทรัพย์ตลอดจนสอบแนวเขตที่ดินแก่โจทก์ด้วย เห็นได้ชัดแจ้งว่าโจทก์มุ่งประสงค์ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินโดยตรง โดยมิได้มีเจตนากล่าวถึงเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ศาลจึงวินิจฉัยประเด็นที่ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1382 ให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3147/2540 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ที่ดิน: สัญญาจะซื้อขาย, การครอบครองแทน, และการครอบครองปรปักษ์
จ. บิดาโจทก์ได้ตกลงซื้อที่ดินพิพาทจาก ล.ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าเป็นเงิน 125,000 บาท แต่ชำระราคากันไว้เพียง 25,000 บาท ยังไม่ครบถ้วนราคาที่ดินและมีข้อตกลงในสัญญาด้วยว่า ล. จะไปโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้บิดาโจทก์เมื่อ ล. กลับจากต่างประเทศ และให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบเขตที่ดินเสียก่อนด้วย ข้อสัญญาดังกล่าวจึงเป็นลักษณะสัญญาจะซื้อขายไม่ใช่สัญญาซื้อขายเสร็จเด็ดขาดแม้ ล. จะมอบที่ดินพิพาทให้บิดาโจทก์ครอบครอง และบิดาโจทก์ได้มอบให้โจทก์ครอบครองแทนต่อมาก็ตาม กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทยังคงเป็นของ ล. การที่บิดาโจทก์และโจทก์เข้าครอบครองที่ดินพิพาทดังกล่าวถือได้ว่าเป็นการครอบครองแทน ล.ดังนี้ การร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทของ อ. และจำเลยที่ 4 ต่อศาลชั้นต้นก็ดีการกระทำของ อ. กับจำเลยที่ 4ดังกล่าว รวมทั้งที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นแต่งตั้งจำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกของ อ. จนเป็นเหตุให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าที่ดินพิพาทเป็นของ อ. กับจำเลยที่ 4และมีคำสั่งแต่งตั้งให้จำเลยที่ 3 เป็นผู้จัดการมรดกของอ. ก็ดีจึงไม่เป็นการโต้แย้งสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิฟ้องจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ตามคำฟ้องโจทก์ไม่ได้บรรยายว่า โจทก์ได้ครอบครองที่ดินพิพาทด้วยเจตนาเป็นเจ้าของ ทั้งไม่ได้ขอให้ศาลพิพากษาว่า โจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ โจทก์มีคำขอท้ายฟ้องเพียงว่า ขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยที่ 1 ในหน้าที่ทรัสตีป่าช้าจีนบ้าบ๋าจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินตามสัญญาที่ทำไว้แก่โจทก์และรับเงินราคาที่โจทก์วางไว้ต่อสำนักงานวางทรัพย์ตลอดจนสอบแนวเขตที่ดินแก่โจทก์ด้วย เห็นได้ชัดแจ้งว่าโจทก์มุ่งประสงค์ฟ้องบังคับให้จำเลยที่ 1 ปฏิบัติตามสัญญาซื้อขายที่ดินโดยตรงโดยมิได้มีเจตนากล่าวถึงเรื่องการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ ศาลจึงวินิจฉัยประเด็นที่ว่าโจทก์ได้กรรมสิทธิ์ที่ดินพิพาทโดยการครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 ให้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2540

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์โดยการครอบครอง: ไม่จำเป็นต้องสุจริตในการเริ่มครอบครอง
การได้กรรมสิทธิ์โดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1382 ไม่จำเป็นว่าผู้ครอบครองจะต้องไม่รู้ว่าทรัพย์สินที่ตนครอบครองเป็นของผู้อื่น
of 167