พบผลลัพธ์ทั้งหมด 7 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4096/2539
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์หลังเจ้าหนี้เพิกเฉยบังคับคดี: ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ยังคงมีสิทธิบังคับคดีได้
กรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึดทรัพย์สินสละสิทธิในการบังคับคดีหรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนดประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา295ทวิบัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ศาลสั่งถอนการบังคับคดีนั้นเสียส่วนมาตรา290วรรคแปดบัญญัติให้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ตามวรรคแรกมีสิทธิขอให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไปเมื่อใจความทั้งสองมาตราหาได้กำหนดไว้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกับผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์จะต้องร้องขอภายในกำหนดเวลาหรือเงื่อนไขอย่างไรศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่2กุมภาพันธ์2536ให้ถอนการบังคับคดีจึงย่อมมีผลโดยตรงเฉพาะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ขอให้ศาลบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา271โดยไม่อาจบังคับคดีต่อไปได้เท่านั้นแต่ไม่กระทบถึงสิทธิของผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เมื่อวันที่4และ5สิงหาคม2524ตามลำดับโดยชอบที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไปเพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องทั้งสองซึ่งจำต้องร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เพราะไม่อาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินซ้ำตามมาตรา290วรรคแรกได้ เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหมายนัดเมื่อวันที่25มีนาคม2536ถึงผู้ร้องทั้งสองแจ้งว่าถ้าหากประสงค์จะสวมสิทธิบังคับคดีแทนโจทก์ให้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน7วันผู้ร้องทั้งสองได้แถลงแจ้งความประสงค์ในวันดังกล่าวแล้วแม้จะกระทำในเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีก็ย่อมมีผลให้ผู้ร้องทั้งสองสามารถดำเนินการบังคับคดีต่อไปโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา290วรรคแปดโดยไม่จำต้องให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4096/2539 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบังคับคดีของผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์หลังเจ้าหนี้สละสิทธิ/เพิกเฉยการบังคับคดี
กรณีที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาผู้ยึดทรัพย์สินสละสิทธิในการบังคับคดีหรือเพิกเฉยไม่ดำเนินการบังคับคดีภายในเวลาที่เจ้าพนักงานบังคับคดีกำหนด ป.วิ.พ.มาตรา 295 ทวิ บัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีขอให้ศาลสั่งถอนการบังคับคดีนั้นเสียส่วนมาตรา 290 วรรคแปด บัญญัติให้ผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์ตามวรรคแรกมีสิทธิขอให้ดำเนินการบังคับคดีต่อไป เมื่อใจความทั้งสองมาตราหาได้กำหนดไว้ว่าเจ้าพนักงานบังคับคดีกับผู้ขอเฉลี่ยทรัพย์จะต้องร้องขอภายในกำหนดเวลา หรือเงื่อนไขอย่างไรศาลชั้นต้นมีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2536 ให้ถอนการบังคับคดี จึงย่อมมีผลโดยตรงเฉพาะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่ขอให้ศาลบังคับคดีตาม ป.วิ.พ.มาตรา 271 โดยไม่อาจบังคับคดีต่อไปได้เท่านั้น แต่ไม่กระทบถึงสิทธิของผู้ร้องทั้งสองซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา ที่ได้ยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เมื่อวันที่ 4 และ 5สิงหาคม 2524 ตามลำดับโดยชอบที่จะดำเนินการบังคับคดีต่อไป เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ผู้ร้องทั้งสองซึ่งจำต้องร้องขอเฉลี่ยทรัพย์เพราะไม่อาจยึดหรืออายัดทรัพย์สินซ้ำตามมาตรา 290 วรรคแรก ได้
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหมายนัดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม2536 ถึงผู้ร้องทั้งสองแจ้งว่าถ้าหากประสงค์จะสวมสิทธิบังคับคดีแทนโจทก์ ให้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 7 วัน ผู้ร้องทั้งสองได้แถลงแจ้งความประสงค์ในวันดังกล่าวแล้ว แม้จะกระทำในเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีก็ย่อมมีผลให้ผู้ร้องทั้งสองสามารถดำเนินการบังคับคดีต่อไปโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 290 วรรคแปด โดยไม่จำต้องให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตอีก
เมื่อเจ้าพนักงานบังคับคดีมีหมายนัดเมื่อวันที่ 25 มีนาคม2536 ถึงผู้ร้องทั้งสองแจ้งว่าถ้าหากประสงค์จะสวมสิทธิบังคับคดีแทนโจทก์ ให้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีภายใน 7 วัน ผู้ร้องทั้งสองได้แถลงแจ้งความประสงค์ในวันดังกล่าวแล้ว แม้จะกระทำในเวลาภายหลังที่ศาลมีคำสั่งให้ถอนการบังคับคดีก็ย่อมมีผลให้ผู้ร้องทั้งสองสามารถดำเนินการบังคับคดีต่อไปโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 290 วรรคแปด โดยไม่จำต้องให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอนุญาตอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3074/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดเงินชั่วคราวก่อนพิพากษาและการขอเฉลี่ยทรัพย์ตามคำพิพากษา โดยมีข้อจำกัดด้านระยะเวลา
การที่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งอายัดเงินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนพิพากษา ต่อมาศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงินตามฟ้อง คำสั่งอายัดเงินชั่วคราวก่อนพิพากษายังคงมีผลต่อไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 260(2) การที่บุคคลภายนอกส่งเงินมาตามคำสั่งอายัดชั่วคราวภายหลังที่ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ชนะคดี เมื่อโจทก์ได้ขอออกคำบังคับและขอหมายบังคับคดีถึงที่สุดแล้วจึงมีผลเท่ากับเจ้าพนักงานบังคับคดีได้อายัดทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคแรก ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเฉลี่ยทรัพย์รายนี้หลังจากสิ้นระยะเวลาสิบสี่วันนับแต่วันที่บุคคลภายนอกชำระเงินตามที่อายัดไว้ ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคห้า จึงไม่มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5154/2533 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์สินก่อนมีคำพิพากษา ไม่ถือเป็นการอายัดแทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์มีสิทธิขออายัดบังคับคดีได้
คดีเดิมซึ่งผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไปยัง อ. และเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลได้อายัดเงินของจำเลยไว้นั้น เป็นการอายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวในขณะที่จำเลยยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาถือไม่ได้ว่าเป็นการอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้จึงมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีกรมบังคับคดีอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา (จำเลย) จาก อ.เพื่อบังคับคดีได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5154/2533
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอายัดทรัพย์ก่อนมีคำพิพากษา ไม่ถือเป็นการอายัดแทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา โจทก์มีสิทธิขออายัดเพื่อบังคับคดีได้
คดีเดิมซึ่งผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ศาลได้ออกหมายอายัดเงินของจำเลยไว้ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาไปยัง อ. และเจ้าพนักงานบังคับคดีของศาลได้อายัดเงินของจำเลยไว้นั้น เป็นการอายัดทรัพย์สินของจำเลยไว้ชั่วคราวในขณะที่จำเลยยังไม่ได้เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาถือไม่ได้ว่าเป็นการอายัดทรัพย์สินของลูกหนี้ตามคำพิพากษาไว้แทนเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเพื่อบังคับคดีตามคำพิพากษา โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาคดีนี้จึงมีสิทธิขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีกรมบังคับคดีอายัดเงินของลูกหนี้ตามคำพิพากษา (จำเลย) จาก อ.เพื่อบังคับคดีได้ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 290 วรรคแรก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3799/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเฉลี่ยทรัพย์ของกรมแรงงาน แม้มิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษา จากอำนาจตามประกาศคณะปฏิวัติ
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 290 วรรคแรกที่บัญญัติให้เจ้าหนี้เป็นผู้มีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ของลูกหนี้ตามคำพิพากษานั้น หมายถึงเจ้าหนี้ผู้ไม่มีอำนาจเหนือทรัพย์สินของลูกหนี้เท่านั้น ส่วนกรณีตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 103 ข้อ 10 ที่ได้กำหนดไว้เป็นพิเศษให้อธบดีกรมแรงงานมีอำนาจออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ยึด อายัด และขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ไม่จ่ายเงินสมทบ และหรือเงินเพิ่มได้ กรมแรงงานผู้ร้องจึงเป็นบุคคลผู้มีอำนาจดังกล่าวด้วยโดยมีสิทธิจะบังคับเหนือทรัพย์สินของจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 287 แม้ผู้ร้องจะไม่ได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก็ตาม ผู้ร้องจึงมีสิทธิขอเฉลี่ยทรัพย์ของจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 118/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในการขอเฉลี่ยหนี้จากการขายทอดตลาด: ผู้ร้องต้องเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาก่อน
เมื่อผู้ร้องยังมิได้เป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาจึงยังไม่มีสิทธิที่จะร้องขอให้กักเงินที่ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยที่เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาอื่นนำยึด ไว้เฉลี่ยให้ผู้ร้องได้