พบผลลัพธ์ทั้งหมด 350 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างทำของเพื่อแจ้งความ/ร้องทุกข์ ค่าจ้างรายข้อหาไม่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย/ศีลธรรม
จำเลยจ้างโจทก์ไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ รวบรวมรายละเอียดและหลักฐานเกี่ยวแก่ที่ดินของจำเลยที่ถูกบุกรุกและจ้างโจทก์ดำเนินการเกี่ยวแก่การแจ้งความหรือร้องทุกข์ที่ดินแปลงเดียวกันนี้ โดยยอมให้ค่าจ้างเป็นรายข้อหา สัญญาดังกล่าวเป็นสัญญาจ้างทำของและตามข้อสัญญาก็มิได้เป็นช่องทางให้โจทก์ดำเนินการแจ้งความหรือร้องทุกข์ได้หลายข้อหาเพื่อหวังจะได้ค่าจ้างมากขึ้นตามข้อหาเหล่านั้น เพราะการจะแจ้งความหรือร้องทุกข์กี่ข้อหากี่คดีย่อมแล้วแต่ความประสงค์ของจำเลย ผู้ว่าจ้างจะลงชื่อร้องทุกข์แจ้งความในข้อหาใดหรือไม่ ซึ่งโจทก์กำหนดราคาค่าจ้างให้จำเลยทราบก่อนแล้ว สัญญาดังกล่าวจึงไม่มีลักษณะเป็นสัญญาส่งเสริมให้จำเลยเป็นความกับบุคคลอื่น ไม่ขัดขวางต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน ไม่เป็นโมฆะ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2607/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มีอำนาจฟ้องในคดีเครื่องหมายการค้าเมื่อจำเลยมิได้โต้แย้งสิทธิ และเครื่องหมายการค้าไม่เหมือนกัน
โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่ยอมรับจดทะเบียนให้ โดยอ้างว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือเกือบเหมือนเครื่องหมายการค้าของจำเลยซึ่งขอจดทะเบียนไว้ก่อน โจทก์ก็มิได้ดำเนินการอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้โต้แย้งคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ประการใด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกจำเลยไปทำความตกลงเพราะจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนไว้ก่อนโจทก์ และตามคำฟ้องโจทก์ก็ยอมรับว่าเครื่องหมายการค้าที่โจทก์จำเลยขอจดทะเบียนไม่เหมือนหรือเกือบเหมือนกันที่จำเลยเพิกเฉยเสียไม่มาทำความตกลงกับโจทก์ถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2607/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องขัดขวางการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า จำเลยไม่ต้องตอบรับข้อเสนอทำความตกลง
โจทก์ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า แต่นายทะเบียนเครื่องหมายการค้าไม่ยอมรับจดทะเบียนให้ โดยอ้างว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์เหมือนหรือเกือบเหมือนเครื่องหมายการค้าของจำเลยซึ่งขอจดทะเบียนไว้ก่อน โจทก์ก็มิได้ดำเนินการอย่างใด ทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยได้โต้แย้งคัดค้านการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของโจทก์ประการใด โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกจำเลยไปทำความตกลงเพราะจำเลยยื่นคำขอจดทะเบียนไว้ก่อนโจทก์ และตามคำฟ้องโจทก์ก็ยอมรับว่าเครื่องหมายการค้าที่โจทก์จำเลยขอจดทะเบียนไม่เหมือนหรือเกือบเหมือนกันที่จำเลยเพิกเฉยเสียไม่มาทำความตกลงกับโจทก์ถือไม่ได้ว่าจำเลยโต้แย้งสิทธิของโจทก์ ดังนั้น โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องไม่เคลือบคลุม, อำนาจฟ้อง, เบี้ยปรับสัญญา, ความผิดสัญญา, การกำหนดค่าเสียหาย
โจทก์กับ ส. ผู้ลงนามแทนโจทก์ในสัญญาท้ายฟ้องมีนิติสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างไร เป็นข้อเท็จจริงรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบในทางพิจารณา ไม่จำเป็นต้องบรรยายในฟ้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
เมื่อฟังว่า โจทก์โดย ส. เป็นคู่สัญญากับจำเลย จำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา และได้มีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาได้
เมื่อฟังว่า โจทก์โดย ส. เป็นคู่สัญญากับจำเลย จำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา และได้มีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2529/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและการเรียกร้องเบี้ยปรับ การพิสูจน์ความสัมพันธ์ของคู่สัญญาและอำนาจฟ้อง
โจทก์กับ ส. ผู้ลงนามแทนโจทก์ในสัญญาท้ายฟ้อง มีนิติสัมพันธ์ต่อกันอย่างไรมีอำนาจหน้าที่เกี่ยวเนื่องกันอย่างไร เป็นข้อเท็จจริงรายละเอียดที่โจทก์จะนำสืบในทางพิจารณา ไม่จำเป็นต้องบรรยายในฟ้อง ฟ้องโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
เมื่อฟังว่า โจทก์โดย ส. เป็นคู่สัญญากับจำเลย จำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา และได้มีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาได้
เมื่อฟังว่า โจทก์โดย ส. เป็นคู่สัญญากับจำเลย จำเลยผิดสัญญาโจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
เมื่อจำเลยเป็นฝ่ายผิดสัญญา และได้มีการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในสัญญา โจทก์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเบี้ยปรับตามสัญญาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2489/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองปรปักษ์: การครอบครองโดยอาศัยสิทธิเจ้าของไม่ทำให้เกิดสิทธิในที่ดิน แม้จะครอบครองเป็นเวลานาน
โจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาท แต่ไปรับราชการอยู่ที่อื่นจึงให้ ล. พี่เขยดูแลแทน ล. ให้จำเลยซึ่งเป็นหลานของโจทก์อาศัย จำเลยได้เข้ากรีดยางและปลูกบ้านอยู่ในที่พิพาทซึ่งเป็นการอยู่โดยอาศัยสิทธิโจทก์ แม้จำเลยจะมิได้แบ่งรายได้จากการกรีดยางให้โจทก์หรือ ล. ตามที่ ได้ตกลงไว้กับ ล. และโจทก์มิได้เข้มงวดต่อจำเลยในเรื่องนี้ก็หาพอที่จะฟังว่าจำเลยแย่งการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ไม่ เมื่อจำเลยอยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิโจทก์จำเลยจะอยู่มานานเท่าใดก็ไม่ได้สิทธิในที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2287/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีเนื่องจากความเข้าใจผิดในวันนัด: ศาลอนุญาตให้พิจารณาใหม่ได้
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลจึงสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะโจทก์และทนายโจทก์จดวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไป ดังนี้ เป็นการอ้างว่าโจทก์เข้าใจวันนัดสืบพยานผิดไป ถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังโจทก์อ้าง ย่อมถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2287/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดพิจารณาคดีจากความเข้าใจผิดเรื่องวันนัด: เหตุสมควรให้พิจารณาใหม่ได้
โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ ศาลจึงสั่งว่าโจทก์ขาดนัดพิจารณา แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนและมีคำสั่งให้พิจารณาใหม่ อ้างว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณาเพราะโจทก์และทนายโจทก์จดวันนัดสืบพยานโจทก์ผิดไป ดังนี้ เป็นการอ้างว่าโจทก์เข้าใจวันนัดสืบพยานผิดไปถ้าข้อเท็จจริงฟังได้ดังโจทก์อ้าง ย่อมถือได้ว่าโจทก์มิได้จงใจขาดนัดพิจารณา กรณีมีเหตุสมควรที่จะให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2185/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีละเมิด: การเพิ่มเติมฟ้องจำเลยร่วมถือเป็นการฟ้องใหม่ ทำให้ต้องยื่นภายในอายุความ 1 ปี
ในคดีละเมิด โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลย เท่ากับโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมในวันยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องนั่นเอง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลยพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ถึงตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อจำเลยร่วมยกอายุความขึ้นต่อสู้คดีโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยร่วมย่อมขาดอายุความ
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยร่วมที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนไม่ใช่เป็นการรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยร่วมกระทำต่อโจทก์ ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยร่วมที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนไม่ใช่เป็นการรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยร่วมกระทำต่อโจทก์ ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2185/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องละเมิด: การเพิ่มเติมฟ้องจำเลยร่วมถือเป็นการฟ้องใหม่, คำให้การต่อพนักงานสอบสวนไม่ถือเป็นการรับสภาพหนี้
ในคดีละเมิด โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง ขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลย เท่ากับโจทก์ฟ้องจำเลยร่วมในวันยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้องนั่นเอง โจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลหมายเรียกจำเลยร่วมเข้ามาในคดีในฐานะเป็นจำเลยพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่โจทก์รู้ถึงการละเมิดและรู้ถึงตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทน เมื่อจำเลยร่วมยกอายุความขึ้นต่อสู้คดีโจทก์ที่เกี่ยวกับจำเลยร่วมย่อมขาดอายุความ
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยร่วมที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนไม่ใช่เป็นการรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยร่วมกระทำต่อโจทก์ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้
คำให้การเพิ่มเติมของจำเลยร่วมที่ให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนไม่ใช่เป็นการรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องซึ่งจำเลยร่วมกระทำต่อโจทก์ถือไม่ได้ว่าเป็นการรับสภาพหนี้