คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อัศนี เกาไศยนันท์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 304 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1698/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิ่มโทษอาญาตามกระทงความผิด แม้ไม่เข้าเกณฑ์มาตรา 93 ก็เพิ่มโทษตามมาตรา 92 ได้
เมื่อศาลพิพากษาเรียงกระทงลงโทษและความผิดแต่ละกระทงที่ลงโทษเข้าเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษได้ ย่อมเพิ่มโทษได้ทุกกระทงความผิดที่ลงโทษนั้น
โจทก์ขอให้เพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93เมื่อไม่เข้าเกณฑ์ที่จะเพิ่มโทษตามมาตรา 93 แต่เข้าเกณฑ์เพิ่มโทษตามมาตรา 92 ได้ ศาลย่อมเพิ่มโทษตามมาตรา 92 ซึ่งเป็นบทที่เบากว่าให้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติไม่ใช่ นิติบุคคล จึงฟ้องร้องไม่ได้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติซึ่งจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติไม่ใช่ นิติบุคคล ไม่อาจเป็นจำเลยในคดีได้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติซึ่งจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่สาธารณะ - การรบกวนการครอบครอง - อำนาจฟ้อง - ไม่เป็นฟ้องซ้ำ
ฟ้องของโจทก์คดีก่อน โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทโดยซื้อได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วให้จำเลยเช่า จำเลยผิดสัญญาเช่า จึงขอให้ขับไล่จำเลย ศาลฎีกาฟังว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะโจทก์ไม่มีสิทธิเอาไปให้จำเลยเช่า พิพากษายกฟ้องโจทก์ ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นผู้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทอันเป็นที่สาธารณะนี้อยู่ตั้งแต่จำเลยแพ้คดีโจทก์ในชั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ครั้นเมื่อจำเลยชนะคดีในชั้นศาลฎีกา จำเลยจึงได้บุกรุกเข้ามาปลูกต้นมะพร้าวอันเป็นการโต้แย้งรบกวนสิทธิของโจทก์ ดังนี้ แม้ที่พิพาทจะเป็นแปลงเดียวกัน คู่ความเดียวกัน แต่สิทธิที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเป็นคนละอย่างคนละประเด็น การกระทำที่โจทก์อ้างว่าจำเลยรบกวนสิทธิของโจทก์เป็นคนละวาระและมิได้ต่อเนื่องกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้ที่พิพาทจะเป็นที่สาธารณประโยชน์ของแผ่นดินซึ่งพลเมืองมีสิทธิใช้ร่วมกัน แต่เมื่อโจทก์ครอบครองใช้ประโยชน์อยู่ก่อนแล้วจำเลยเข้าไปแย่งการครอบครองซ้อน ในระหว่างโจทก์จำเลยสิทธิเหนือที่พิพาทจึงดีกว่าจำเลย การที่จำเลยนำต้นมะพร้าวเข้าไปปลูกในที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ จึงเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนสิทธิของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1608/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินสาธารณะ การรบกวนการครอบครอง และอำนาจฟ้อง
ฟ้องของโจทก์คดีก่อน โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นเจ้าของที่พิพาทโดยซื้อได้จากการขายทอดตลาดของศาล แล้วให้จำเลยเช่า จำเลยผิดสัญญาเช่า จึงขอให้ขับไล่จำเลย ศาลฎีกาฟังว่าที่พิพาทเป็นที่สาธารณะโจทก์ไม่มีสิทธิเอาไปให้จำเลยเช่า พิพากษายกฟ้องโจทก์ ส่วนคดีนี้โจทก์อ้างว่าโจทก์เป็นผู้ใช้สิทธิครอบครองที่พิพาทอันเป็นที่สาธารณะนี้อยู่ตั้งแต่จำเลยแพ้คดีโจทก์ในชั้นศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ครั้นเมื่อจำเลยชนะคดีในชั้นศาลฎีกา จำเลยจึงได้บุกรุกเข้ามาปลูกต้นมะพร้าวอันเป็นการโต้แย้งรบกวนสิทธิของโจทก์ ดังนี้ แม้ที่พิพาทจะเป็นแปลงเดียวกันคู่ความเดียวกัน แต่สิทธิที่โจทก์อ้างมาในฟ้องเป็นคนละอย่างคนละประเด็น การกระทำที่โจทก์อ้างว่าจำเลยรบกวนสิทธิของโจทก์เป็นคนละวาระและมิได้ต่อเนื่องกัน ฟ้องของโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
แม้ที่พิพาทจะเป็นที่สาธารณประโยชน์ของแผ่นดินซึ่งพลเมืองมีสิทธิใช้ร่วมกัน แต่เมื่อโจทก์ครอบครองใช้ประโยชน์อยู่ก่อนแล้วจำเลยเข้าไปแย่งการครอบครองซ้อน ในระหว่างโจทก์จำเลยสิทธิเหนือที่พิพาทจึงดีกว่าจำเลย การที่จำเลยนำต้นมะพร้าวเข้าไปปลูกในที่พิพาทซึ่งโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ จึงเป็นการรบกวนสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องเพื่อปลดเปลื้องการรบกวนสิทธิของโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์เช่าซื้อ - เจ้าของรถมีสิทธิขอคืนได้หากไม่รู้เห็นการกระทำผิด
รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ให้ ต. เช่าซื้อไป และ ต.ยังชำระเงินราคาค่าเช่าซื้อให้ผู้ร้องไม่ครบ รถยนต์ของกลางจึงยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1567/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์เช่าซื้อ - เจ้าของมิได้รู้เห็นการกระทำผิด - สิทธิเรียกร้องคืน
รถยนต์ของกลางเป็นของผู้ร้อง ผู้ร้องได้ให้ ต. เช่าซื้อไป และ ต.ยังชำระเงินราคาค่าเช่าซื้อให้ผู้ร้องไม่ครบ รถยนต์ของกลางจึงยังคงเป็นของผู้ร้องอยู่ ผู้ร้องซึ่งเป็นเจ้าของที่แท้จริงมิได้รู้เห็นเป็นใจด้วยในการกระทำความผิดของจำเลย จึงมีสิทธิร้องขอให้ศาลสั่งคืนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีฟ้องขับไล่ผู้เช่า: ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงที่ต้องห้ามอุทธรณ์ และเห็นว่าฟ้องของโจทก์สมบูรณ์
ในคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์ อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละสองพันบาท ซึ่งเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติดกัน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์มาแต่ชั้นศาลอุทธรณ์ แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ก็ต้องถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
การบรรยายฟ้องให้เป็นที่เข้าใจว่าโจทก์มุ่งประสงค์อย่างใดนั้นไม่จำต้องใช้ศัพท์ให้ตรงตามกฎหมายเสมอไป
ฟ้องของโจทก์เมื่ออ่านรวมกันมาตั้งแต่ต้น ย่อมบ่งให้เห็นว่าจำเลยผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติด ๆ กันแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1526/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีขับไล่ผู้เช่า: ศาลฎีกายืนฟ้องสมบูรณ์ แม้ไม่ใช้ศัพท์กฎหมายตรงตามตัว เพราะเนื้อหาฟ้องบ่งชี้ชัดเจนถึงการผิดนัดชำระค่าเช่า
ในคดีฟ้องขับไล่ผู้เช่าออกจากอสังหาริมทรัพย์อันมีค่าเช่าไม่เกินเดือนละสองพันบาทซึ่งเป็นคดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงนั้นข้อที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติดกัน จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้อุทธรณ์มาแต่ชั้นศาลอุทธรณ์แม้ศาลอุทธรณ์จะวินิจฉัยให้ ก็ต้องถือว่าเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแต่ชั้นอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 249ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
การบรรยายฟ้องให้เป็นที่เข้าใจว่าโจทก์มุ่งประสงค์อย่างใดนั้นไม่จำต้องใช้ศัพท์ให้ตรงตามกฎหมายเสมอไป
ฟ้องของโจทก์เมื่ออ่านรวมกันมาตั้งแต่ต้น ย่อมบ่งให้เห็นว่าจำเลยผิดนัดชำระค่าเช่า 2 คราวติด ๆ กันแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1512/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนที่ดินมือเปล่าต้องมีการประกาศขายก่อน หากจำเลยอ้างเหตุไม่สมเหตุผล ศาลถือว่าจำเลยผิดสัญญา
ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เจ้าพนักงานจะรับจดทะเบียนโอนให้แก่คู่กรณีได้ต่อเมื่อได้มีการประกาศขายมีกำหนด 30 วัน ตามกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2497) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 ข้อ 5 เสียก่อน ฉะนั้น การที่โจทก์จำเลยได้ไปอำเภอในวันที่ 1 สิงหาคม 2510 ตามสัญญา ก็เพื่อจะดำเนินการประกาศขายดังกล่าวข้างต้น แต่จำเลยกลับไม่ยอมประกาศขายโดยอ้างเหตุว่าโจทก์มีเงินสดชำระเพียง 20,000 บาท ส่วนอีก 37,500 บาทโจทก์จะขอจ่ายเป็นเช็คลงวันล่วงหน้าในเมื่อครบประกาศแล้วหนึ่งเดือนข้ออ้างดังกล่าวของจำเลยฟังไม่ขึ้นเพราะเหตุว่าในวันนั้นโจทก์ซึ่งเป็นฝ่ายผู้ซื้อยังไม่มีหน้าที่ต้องชำระเงินค่าที่ดินให้กับจำเลยซึ่งเป็นฝ่ายผู้ขายแต่อย่างใดเลย
of 31