พบผลลัพธ์ทั้งหมด 9 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1472/2506 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมกันในละเมิด: การร่วมกันกระทำละเมิดทำให้ต้องรับผิดชอบร่วมกันทั้งหมด แม้แยกแยะความเสียหายไม่ได้
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยรับผิดร่วมในผลที่บุตรผู้เยาว์ของจำเลยกระทำละเมิดจำเลยไม่อุทธรณ์ในข้อนี้ ทั้งยังแก้อุทธรณ์ยอมรับว่าศาลชั้นต้นพิพากษาชอบแล้ว จำเลยฎีกาในข้อนี้ไม่ได้
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดชอบ ระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรค + บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่า ต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ ถึงกระนั้น ลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำ ก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่า แยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์มาตรา 432
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 432 วรรคท้าย เป็นบทบัญญัติสำหรับแยกความรับผิดชอบ ระหว่างผู้ละเมิดด้วยกัน มิใช่ว่ารับผิดต่อเจ้าหนี้ ซึ่งมีวรรค + บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่า ต้องร่วมกันรับผิดใช้ คำว่า "ร่วมกันใช้มีความหมายว่า แต่ละคนจำต้องชำระหนี้สิ้นเชิง แต่เจ้าหนี้จะเรียกชำระหนี้จากคนใดทั้งหมดหรือบางส่วนก็ได้ ถึงกระนั้น ลูกหนี้ทั้งหมดก็ยังคงต้องผูกพันอยู่ทั่วทุกคนจนกว่าหนี้นั้นจะได้ชำระสิ้นเชิงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 291
การทำให้ทรัพย์เขาเสียหายโดยผิดกฎหมายเป็นละเมิด เมื่อร่วมกันกระทำ ก็เป็นการร่วมกันทำละเมิด และต้องร่วมกันรับผิด กฎหมายมุ่งหมายถึงการกระทำ มิใช่ดูผลของความเสียหายว่า แยกกันได้หรือไม่ แม้จะไม่รู้ตัวว่าคนไหนก่อให้เกิดเสียหาย แต่ถ้าเป็นพวกที่ทำละเมิดร่วมกันแล้ว ก็ต้องรับผิดร่วมกันทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์มาตรา 432
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954-957/2501
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่ที่ดินเช่า: สิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างเป็นประเด็นแยกจากคำพิพากษาขับไล่
ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ซึ่งให้จำเลยเช่า จำเลยและบริวารก็ต้องออกไปจากที่ดินนั้น ข้อที่จำเลยโต้เถียงในชั้นบังคับคดีว่าบ้านเรือนที่ปลูกในที่ดินนั้นเป็นของจำเลยและจำเลยประสงค์จะรื้อเอาไปด้วย ฝ่ายโจทก์คัดค้านว่าบ้านเรือนตกเป็นของโจทก์แล้ว ไม่ยอมให้จำเลยรื้อไป เช่นนี้ ในชั้นบังคับคดีไม่มีประเด็นพิพาทกันว่าบ้านเรือนนั้นเป็นของโจทก์หรือของจำเลย จึงไม่เกี่ยวกับการที่จะบังคับจำเลยตามคำพิพากษาดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954-957/2501 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบังคับคดีขับไล่และการโต้แย้งกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้าง ศาลยืนตามศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีได้
ศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยและบริวารออกจากที่ดินของโจทก์ซึ่งให้จำเลยเช่า จำเลยและบริวารก็ต้องออกไปจากที่ดินนั้น ข้อที่จำเลยโต้เถียงในชั้นบังคับคดีว่าบ้านเรือนที่ปลูกในที่ดินนั้นเป็นของจำเลยและจำเลยประสงค์จะรื้อเอาไปด้วย ฝ่ายโจทก์คัดค้านว่าบ้านเรือนตกเป็นของโจทก์แล้ว ไม่ยอมให้จำเลยรื้อไป เช่นนี้ ในชั้นบังคับคดีไม่มีประเด็นพิพาทกันว่าบ้านเรือนนั้นเป็นของโจทก์หรือของจำเลย จึงไม่เกี่ยวกับการที่จะบังคับจำเลยตามคำพิพากษาดังกล่าว