พบผลลัพธ์ทั้งหมด 172 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่านายหน้าจากการชี้ช่องให้ทำสัญญาซื้อขาย แม้เป็นการประมูลราคาสำเร็จ ก็ยังต้องจ่ายค่านายหน้า
จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค 3 คัน เมื่อขายได้แล้วจะให้ค่านายหน้า 5% โจทก์ได้ติดต่อกับผู้ซื้อซึ่งเป็นหน่วยราชการซึ่งจัดการซื้อรถยนต์ดังกล่าวโดยวิธีประกวดราคา ในการประกวดราคาโจทก์ก็ได้ช่วยเหลือจำเลย จนในที่สุดจำเลยประมูลขายรถยนต์ดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อเป็นผลสำเร็จ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาหรือจัดการให้จำเลยได้ทำสัญญา จำเลยต้องจ่ายค่านายหน้าให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าบำเหน็จนายหน้า: การชี้ช่องซื้อขายสำเร็จ แม้ผู้ขายติดต่อเองภายหลัง ก็ยังมีสิทธิรับค่าบำเหน็จ
ครั้งแรกจำเลยให้โจทก์บอกขายที่ดินในราคาไร่ละ 80,000 บาท โจทก์เสนอขายต่อจำเลยร่วม จำเลยร่วมต่อรองราคาให้เหลือไร่ละ 70,000 บาท จำเลยไม่ยอม หลังจากนั้น 2-3 เดือน จำเลยร่วมตกลงจะซื้อและให้โจทก์ไปตกลงเงื่อนไขในการทำสัญญา โจทก์บอกให้จำเลยทราบ จำเลยขอผัดอ้างว่าติดทำบุญ ต่อมาจำเลยกลับบอกโจทก์ว่าจะขายในราคาไร่ละ 100,000 บาท โจทก์แจ้งให้จำเลยร่วมทราบ ครั้งจำเลยร่วมตกลงจะซื้อ จำเลยก็ขอขึ้นราคาที่ดินอีก จึงยังตกลงซื้อขายกันไม่ได้ ผลที่สุด ร. บุตรจำเลยติดต่อขายที่ดินทั้งสองโฉนดรวมเนื้อที่ 8 ไร่ ให้แก่จำเลยร่วมได้ในราคา 800,000 บาท แม้ ร. จะเป็นผู้ติดต่อขายที่ดินสำเร็จในภายหลัง แต่ก็คงขายให้แก่จำเลยร่วมซึ่งโจทก์ติดต่อไว้ก่อน ราคาที่ขายก็มิได้สูงกว่าที่จำเลยร่วมตกลงจะซื้อจากโจทก์ การที่ ร.ติดต่อขายที่ดินให้จำเลยร่วม พฤติการณ์แสดงว่าได้ทราบจากจำเลยแล้วว่าจำเลยร่วมเป็นผู้จะซื้อตามที่จำเลยทราบจากโจทก์ เป็นกรณีร่วมกันจำเลยถือเอาประโยชน์จากการที่โจทก์เป็นผู้ติดต่อบอกขายที่ดินให้จำเลยร่วมมาตั้งแต่ต้น ถือได้ว่าการซื้อขายที่ดินรายนี้ได้ทำสำเร็จเนื่องแต่ผลแห่งการที่โจทก์ได้ชี้ช่องจัดการแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จนายหน้าตามข้อตกลง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2610/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่านายหน้าซื้อขายที่ดิน: การถือเอาประโยชน์จากผลการชี้ช่องของนายหน้าทำให้มีสิทธิได้รับค่าบำเหน็จ
จำเลยตกลงให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดิน ค่านายหน้าร้อยละ5 โจทก์เสนอขายให้ ส. ราคาตามที่จำเลยกำหนด จำเลยไม่ขาย บุตรของจำเลยติดต่อกับ ส. คราวนี้จำเลยขายในราคาเดียวกัน ดังนี้ เป็นการที่บุตรจำเลยกับจำเลยร่วมกันถือเอาประโยชน์จากการที่โจทก์ติดต่อกับ ส. ไว้ การซื้อขายสำเร็จเนื่องแต่การชี้ช่องของโจทก์ โจทก์มีสิทธิได้ค่านายหน้าจากจำเลยส่วน ส. ไม่มีสัญญานายหน้า ไม่มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 256/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่านายหน้าจากการชี้ช่องให้ทำสัญญา แม้เป็นการประมูลราคาสำเร็จ ก็ต้องจ่ายค่านายหน้าตามตกลง
จำเลยที่ 1 ตกลงให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อขายรถยนต์ดัมทรัค 3 คัน เมื่อขายได้แล้วจะให้ค่านายหน้า 5% โจทก์ได้ติดต่อกับผู้ซื้อซึ่งเป็นหน่วยราชการซึ่งจัดการซื้อรถยนต์ดังกล่าวโดยวิธีประกวดราคา ในการประกวดราคาโจทก์ก็ได้ช่วยเหลือจำเลย จนในที่สุดจำเลยประมูลขายรถยนต์ดังกล่าวให้แก่ผู้ซื้อเป็นผลสำเร็จ พฤติการณ์ดังกล่าวถือได้ว่าโจทก์เป็นผู้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาหรือจัดการให้จำเลยได้ทำสัญญา จำเลยต้องจ่ายค่านายหน้าให้แก่โจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการค้าข้าวส่งออก: โจทก์เป็นนายหน้าหรือผู้ขายเอง การประเมินภาษีค่านายหน้า
ห้างโจทก์มีวัตถุประสงค์จำหนายข้าวสาร และเป็นนายหน้าและตัวแทนต่างในกิจการทุกประเภท ในการติดต่อขายข้าวให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศ ทางห้างโจทก์เสนอราคาขายข้าวโดยบวกค่าระวางบรรทุก ค่าประกันภัยและค่านายหน้ารวมเข้าไปด้วย แต่โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งข้าวออกไปขายต่างประเทศ และไม่ได้ขออนุญาตต่อทางราชการได้ความว่าโรงสีเป็นผู้ขออนุญาตส่งข้าวไปขายต่างประเทศ เป็นผู้ขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศเท่าราคาข้าวที่ขายเข้ามาในประเทศ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติตามพิธีการส่งออกของกรมศุลกากร เสียภาษีศุลกากร ค่าพรีเมี่ยม และภาษีการค้าข้าว กระสอบบรรจุข้าวส่งไปขายต่างประเทศก็มีตราของผู้ซื้อประทับอยู่ แสดงว่าโรงสีรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ซื้อตัวจริงในต่างประเทศโจทก์อ้างว่าโรงสีขายข้าวให้โจทก์ แต่การซื้อขายไม่มีการวางมัดจำหรือทำสัญญาซื้อขายข้าวกัน โจทก์ไม่มีโกดังเก็บข้าวเอง เมื่อโรงสีส่งมอบข้าวแล้วโจทก์ยังไม่ชำระเงินค่าข้าวประกอบกับเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ผู้ซื้อในต่างประเทศส่งมาชำระค่าข้าวนั้นโจทก์จะรับเอาทั้งหมดไม่ได้ คงรับได้เฉพาะส่วนที่เป็นผลประโยชน์ของโจทก์เองเท่านั้น พฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ทำการเป็นนายหน้าหรือตัวแทน หรือรับจัดธุรกิจจัดการให้โรงสีและผู้ซื้อในต่างประเทศของโจทก์ก็เข้าลักษณะเป็นการประกอบการค้าประเภทนายหน้าตามประมวลรัษฎากรหาใช่โจทก์เป็นผู้ขายข้าวส่งต่างประเทศเองไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1388/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 897/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกอบการค้าข้าวส่งออก: นายหน้า vs. ผู้ขาย การประเมินภาษีค่านายหน้า
ห้างโจทก์มีวัตถุประสงค์จำหน่ายข้าวสารและเป็นนายหน้าและตัวแทนค้าต่างในกิจการทุกประเภทในการติดต่อขายข้าวให้กับผู้ซื้อในต่างประเทศทางห้างโจทก์เสนอราคาขายข้าวโดยบวกค่าระวางบรรทุก ค่าประกันและค่านายหน้ารวมเข้าไปด้วย แต่โจทก์ไม่ได้จดทะเบียนเป็นผู้ส่งข้าวออกไปขายต่างประเทศ และไม่ได้ขออนุญาตต่อทางราชการได้ความว่าโรงสีเป็นผู้ขออนุญาตส่งข้าวไปขายต่างประเทศเป็นผู้ขออนุญาตนำเงินตราต่างประเทศเท่าราคาข้าวที่ขายเข้ามาในประเทศ ทั้งเป็นผู้ปฏิบัติตามพิธีการส่งออกของกรมศุลกากร เสียภาษีศุลกากร ค่าพรีเมี่ยม และภาษีการค้าข้าว กระสอบบรรจุข้าวส่งไปขายต่างประเทศก็มีตราของผู้ซื้อประทับอยู่ แสดงว่าโรงสีรู้อยู่แล้วว่ามีผู้ซื้อตัวจริงในต่างประเทศโจทก์อ้างว่าโรงสีขายข้าวให้โจทก์ แต่การซื้อขายไม่มีการวางมัดจำหรือทำสัญญาซื้อขายข้าวกันโจทก์ไม่มีโกดังเก็บข้าวเองเมื่อโรงสีส่งมอบข้าวแล้วโจทก์ยังไม่ชำระเงินค่าข้าวประกอบกับเลตเตอร์ออฟเครดิตที่ผู้ซื้อในต่างประเทศส่งมาชำระค่าข้าวนั้นโจทก์จะรับเอาทั้งหมดไม่ได้คงรับได้เฉพาะส่วนที่เป็นผลประโยชน์ของโจทก์เองเท่านั้นพฤติการณ์เหล่านี้แสดงว่าโจทก์เพียงแต่ทำการเป็นนายหน้าหรือตัวแทน หรือรับจัดธุรกิจจัดการให้โรงสีและผู้ซื้อในต่างประเทศได้ซื้อขายกันแม้บางเดือนมีการขาดทุนเพราะคำนวณค่าใช้จ่ายผิดพลาดบ้างการกระทำของโจทก์ก็เข้าลักษณะเป็นการประกอบการค้าประเภทนายหน้าตามประมวลรัษฎากรหาใช่โจทก์เป็นผู้ขายข้าวส่งต่างประเทศเองไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1388/2509)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม – การบรรยายรายละเอียดสภาพแห่งข้อหาไม่ชัดเจน ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าบำเหน็จจากจำเลย โดยบรรยายว่า โจทก์ทำการเป็นตัวแทนนายหน้าขายรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์เป็นเงินสด 628,512 บาท ซึ่งจำเลยจะต้องจ่ายค่าบำเหน็จให้โจทก์ร้อยละ 12 เป็นเงิน 75,421.64 บาท และโจทก์เป็นนายหน้าจัดหาผู้เช่าซื้อเข้าทำสัญญาเช่าซื้อรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์จากจำเลยหลายรายรวมเป็นค่าเช่าซื้อ 316,759.60 บาท รวมค่าบำเหน็จนายหน้าทั้งสิ้น 392,181.24 บาท จำเลยชำระให้บ้างแล้วยังค้างอยู่อีก 265,149.64 บาท มิได้บรรยายรายละเอียดโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาว่า โจทก์ได้กระทำการเป็นตัวแทนขายให้แก่จำเลยตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน โจทก์ได้จัดการชี้ช่องให้ผู้ใดมาเป็นผู้เช่าซื้อรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์ ทำสัญญากันเมื่อใด จำนวนรถกี่คัน ราคาคันละเท่าใด บุคคลใดเป็นผู้เช่าซื้อด้วยราคาเท่าใดและโจทก์ได้เก็บเงินค่าเช่าซื้อส่งมอบให้แก่จำเลยแล้วเท่าใด ทำให้จำเลยเสียเปรียบและต่อสู้คดีได้ไม่ถูกต้องและครบถ้วน เป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 56/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องเคลือบคลุม – การบรรยายรายละเอียดสภาพแห่งข้อหาไม่ชัดเจน ทำให้จำเลยเสียเปรียบในการต่อสู้คดี
โจทก์ฟ้องเรียกเงินค่าบำเหน็จจากจำเลยโดยบรรยายว่าโจทก์ทำการเป็นตัวแทนนายหน้าขายรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์เป็นเงินสด 628,512 บาทซึ่งจำเลยจะต้องจ่ายค่าบำเหน็จให้โจทก์ร้อยละ 12 เป็นเงิน 75,421.64 บาทและโจทก์เป็นนายหน้าจัดหาผู้เช่าซื้อเข้าทำสัญญาเช่าซื้อรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์จากจำเลยหลายรายรวมเป็นค่าเช่าซื้อ 316,759.60 บาท รวมค่าบำเหน็จนายหน้าทั้งสิ้น 392,181.24 บาท จำเลยชำระให้บ้างแล้วยังค้างอยู่อีก 265,149.64 บาท มิได้บรรยายรายละเอียดโดยชัดแจ้งซึ่งสภาพแห่งข้อหาว่า โจทก์ได้กระทำการเป็นตัวแทนขายให้แก่จำเลยตั้งแต่วันไหนถึงวันไหน ขายรถให้ใครกี่คัน ราคาคันละเท่าใดผู้ซื้อได้ชำระราคาให้แก่จำเลยครบถ้วนแล้วหรือไม่ โจทก์ได้จัดการชี้ช่องให้ผู้ใดมาเป็นผู้เช่าซื้อรถแทร็คเตอร์และอุปกรณ์ ทำสัญญากันเมื่อใด จำนวนรถกี่คัน ราคาคันละเท่าใดบุคคลใดเป็นผู้เช่าซื้อด้วยราคาเท่าใดและโจทก์ได้เก็บเงินค่าเช่าซื้อส่งมอบให้แก่จำเลยแล้วเท่าใด ทำให้จำเลยเสียเปรียบและต่อสู้คดีได้ไม่ถูกต้องและครบถ้วนเป็นฟ้องเคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2173/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิเรียกร้องค่านายหน้าเกิดเมื่อมีสัญญาซื้อขายที่สมบูรณ์
โจทก์จะเรียกค่านายหน้าได้ก็ต่อเมื่อจำเลยกับผู้ซื้อได้ทำสัญญาซื้อขายกันเสร็จเนื่องจากผลของการที่โจทก์ชี้ช่องหรือจัดการ เมื่อสัญญาซื้อขายที่ดินระหว่างจำเลยกับผู้ซื้อยังไม่ได้กระทำกัน โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ศาลยกขึ้นวินิจฉัยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชี้ช่องให้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินและการรับค่าบำเหน็จนายหน้า ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๘๔๕
ว.สนใจอยากจะได้ที่ดิน ได้ไปหา พ. พ.ได้เขียนชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินให้ ต่อมา ว. ได้ติดต่อกับจำเลยจนได้ทำสัญญาซื้อขายที่ดินกันสำเร็จ หลังจากนั้น ว. จึงทราบว่า พ.ว่า ชื่อและตำบลที่อยู่ของจำเลยที่ พ.จดให้นั้นได้มาจากโจทก์ โดยจำเลยเคยแจ้งให้โจทก์หาผู้ซื้อที่ดินหรือจัดหานายหน้า หวังจะให้โจทก์ได้รับประโยชน์ร่วมกับนายหน้า ฉะนั้น การที่ ว.สามารถติดต่อกับจำเลยได้โดยตรงก็เป็นผลสืบเนื่องมาจากการที่โจทก์ได้บอกชื่อ และตำบลที่อยู่ของจำเลยไว้กับ พ. การกระทำของโจทก์จึงเป็นการชี้ช่อง หรือจัดการให้ทำสัญญาสำเร็จตามความหมายแพ่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 845 แล้ว