คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 845

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 172 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าทายพยาน: ศาลวินิจฉัยตามพยานที่ตกลงกัน ห้ามนำพยานนอกเหนือมาโต้แย้ง
คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้สืบพยาน 2 ปาก ถือเป็นข้อแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากพยาน 2 ปากนี้ว่าเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริงจำเลยยอมแพ้ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อพยาน 2 ปากให้การสมฝ่ายโจทก์ จำเลยจะขอให้นำเอกสารอื่นมาวินิจฉัยหักล้างมิได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงท้าทายสืบพยานจำกัดขอบเขต ศาลต้องวินิจฉัยเฉพาะจากพยานที่ตกลงกันไว้
คดีที่คู่ความตกลงท้ากันให้สืบพยาน 2 ปากถือเป็นข้อแพ้ชนะ โดยให้ศาลวินิจฉัยจากพยาน 2 ปากนี้ว่าเป็นจริงดังที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ ถ้าได้ความทางวินิจฉัยของศาลว่าจริง จำเลยยอมแพ้ ถ้าไม่ได้ความดังกล่าว โจทก์ยอมแพ้ ดังนี้ เมื่อพยาน 2 ปากให้การสมฝ่ายโจทก์ จำเลยจะขอให้นำเอกสารอื่นมาวินิจฉัยหักล้างมิได้ เพราะเป็นพยานนอกเหนือจากที่ตกลงกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของสามีภริยาในสัญญาค่านายหน้า โดยมีการยินยอมและรับผลประโยชน์ร่วมกัน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมจะต้องรับผิดในกิจการที่ได้กระทำร่วมกัน การที่จำเลยที่ 2 ไปติดต่อขอให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียว โดยจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมและยอมรับเอาผลตามที่จำเลยที่ 2 ไปติดต่อให้โจทก์เป็นนายหน้า จนในที่สุดจำเลยที่ 1 ก็ได้ขายที่ดินให้บุคคลอื่นสมดังความตั้งใจ ทั้งนี้ ก็เนื่องจากผลแห่งการที่โจทก์เป็นผู้ติดต่อชี้ช่องให้ได้ทำสัญญากันนั่นเอง ฉะนั้น จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 575/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดร่วมกันของสามีภริยาในคดีนายหน้าซื้อขายที่ดิน
จำเลยที่ 1 ที่ 2 เป็นสามีภริยากันโดยชอบด้วยกฎหมายย่อมจะต้องรับผิดในกิจการที่ได้กระทำร่วมกันการที่จำเลยที่ 2 ไปติดต่อขอให้โจทก์เป็นนายหน้าขายที่ดินซึ่งมีชื่อจำเลยที่ 1 เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์แต่ผู้เดียวโดยจำเลยที่ 1 รู้เห็นยินยอมและยอมรับเอาผลตามที่จำเลยที่ 2 ไปติดต่อให้โจทก์เป็นนายหน้าจนในที่สุดจำเลยที่1 ก็ได้ขายที่ดินให้บุคคลอื่นสมดังความตั้งใจ ทั้งนี้ก็เนื่องจากผลแห่งการที่โจทก์เป็นผู้ติดต่อชี้ช่องให้ได้ทำสัญญากันนั่นเองฉะนั้น จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชอบต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1249/2506

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวแทนจำหน่ายสินค้า: หน้าที่, ความรับผิด, อายุความ และขอบเขตการฟ้องเรียกทรัพย์สิน
(1) องค์การสรรพาหารเป็นราชการไม่ต้องปิดอากรแสตมป์ ไม่ว่าเป็นเอกสารประเภทใด (2) กรณีที่จำเลยมิใช่แต่เพียงเป็นสื่อกลางให้เขาทำสัญญากัน หากแต่จำเลยยังรับสินค้าไปจำหน่าย และชำระเงินค่าสินค้าคืนให้ตัวการโดยจำเลยได้รับบำเหน็จเป็นผลประโยชน์ และจำเลยยังมีอำนาจครอบครองสินค้า แล้วส่งมอบแก่ผู้ซื้อเรียกและรับเงินค่าสินค้า ทั้งหนังสือก็ยังระบุว่าหนังสือสัญญารับเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า อนึ่งการจัดหาระวางเรือโดยจำเลยตกลงกับผู้รับผลแทน โดยองค์การสรรพาหารเสียค่าระวางเองนั้น ย่อมเป็นการที่จำเลยทำในฐานเป็นตัวแทน มิใช่เป็นนายหน้าส่วนการที่จำเลยรับสินค้าไป แม้จะมีผู้ควบคุมโดยต้องตกลงราคากับผู้ควบคุมก่อนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องทำตามคำสั่งขององค์การ(ตัวการ) (3) การส่งสินค้า เมื่อมีข้อผูกพันอย่างใดก็ต้องเป็นไปตามข้อตกลงแม้บริษัทจำเลยจะมีวัตถุประสงค์ทำกิจการเช่นนั้นหรือไม่ก็ตาม เมื่อจำเลยรับสินค้าไปขายแล้ว หักเอาบำเหน็จออกจากเงินที่ขายสินค้าไว้แล้วก็ต้องคืนเงินค่าสินค้าที่รับไปจำเลยจะยกเรื่องวัตถุประสงค์ของบริษัทมาสู้ เพื่อไม่ต้องคืนค่าสินค้าให้เขาหาได้ไม่
อนึ่ง เป็นการมิชอบในการที่จะอ้างว่าองค์การตั้งขึ้นไม่ชอบ ได้เงินมาไม่ชอบ เพราะถึงอย่างไรก็ต้องคืนเงินที่ตนรับไปในฐานตัวแทนให้แก่ตัวการตามกฎหมาย
(4) เมื่อองค์การสรรพาหารเป็นราชการในสังกัดสำนักคณะรัฐมนตรี โจทก์ โจทก์ ก็มีอำนาจฟ้องเรียกทรัพย์สินที่ยังตกอยู่แก่จำเลยซึ่งเป็นตัวแทนได้ (5) ถึงแม้โจทก์จะกล่าวในฟ้องว่า จำเลยละเมิดสัญญาตัวแทน คือ ไม่ปฏิบัติตามสัญญาแต่โจทก์มิได้เรียกค่าเสียหายเนื่องจากตัวแทนทำให้เกิดขึ้นแก่ตัวการหากแต่เรียกเอาเงินที่จำเลยหักไว้เกินคืน คือ เรียกเอาทรัพย์ของตนซึ่งอยู่ที่จำเลยนั่นเองคืน นั้น คดีมีอายุความ 10 ปี (6) ถึงแม้เอกสารที่โจทก์อ้างท้ายฟ้องปรากฏว่าจำเลยมิได้เป็นผู้รับสินค้าและการส่งสินค้าออกก็ทำในนามขององค์การสรรพาหาร โจทก์ก็ย่อมนำสืบถึงหน้าที่และความรับผิดของตัวแทนตามสัญญาได้ ไม่ใช่เป็นการสืบแก้ไขเอกสาร (7) การที่บริษัทขนส่งยอมรับสินค้าของจำเลยที่ 1 บรรทุกเพิ่มเติมลงไปอีก ก็เป็นเรื่องระหว่างจำเลยที่ 1 กับบริษัทรับขน ส่วนองค์การสรรพาหารมิใช่ผู้รับขน จะเรียกเอาค่าระวางจากจำเลยที่ 1 ไม่ได้ถึงแม้องค์การสรรพาหารจะเถียงว่าเป็นผู้เหมาลำเป็นเจ้าของระวางคนอื่นไม่มีสิทธิบรรทุกก็ตาม ทั้งนี้ก็เพราะมิได้มีสัญญารับขนกับจำเลยที่ 1 จึงเป็นเรื่องที่บริษัทรับขนจะต้องรับผิดต่อองค์การสรรพาหารเอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2505 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค่านายหน้า: ต้องมีสัญญาชัดแจ้งหรือโดยปริยาย จึงจะเรียกร้องค่าบำเหน็จได้
นายหน้าที่จะได้รับบำเหน็จหรือค่านายหน้านั้น ในเบื้องต้นจะต้องมีสัญญาต่อกันโดยชัดแจ้ง หรือโดยปริยาย ฉะนั้น ผู้ใดจะอ้างตนเป็นนายหน้าฝ่ายเดียวเรียกร้องเอาค่าบำเหน็จโดยอีกฝ่ายหนึ่งมิได้มีสัญญาด้วยแต่อย่างหนึ่งอย่างใดเลย นั้น จึงหามีกฎหมายสนับสนุนให้เรียกร้องได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 138/2502

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความคดีนายหน้า: หากเป็นงานชั่วคราว ไม่ถือเป็นผู้ค้า ใช้อายุความ 10 ปี
โจทก์ใช้เวลาว่างจากการงานประจำมาทำการเป็นนายหน้าหารายได้ชั่วครั้งชั่วคราวไม่ทำให้โจทก์เป็นผู้ค้าในการนั้นการฟ้องเรียกค่านายหน้าในกรณีเช่นว่านี้ มีอายุความ 10 ปี ไม่ใช่ 2 ปี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายหน้าชี้ช่องทำสัญญา คดีนายหน้าได้ค่าตอบแทน แม้มีนายหน้าอื่น
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ได้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาปลูกสร้างตึกแถวสำเร็จโดยหวังค่านายหน้า
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จ เพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้ว จำเลย (คู่สัญญา) ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1975/2500

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายหน้าชี้ช่องทำสัญญา & สิทธิเรียกร้องค่านายหน้า แม้มีนายหน้าอื่น
พฤติการณ์ที่ถือว่าโจทก์ได้ชี้ช่องให้จำเลยได้เข้าทำสัญญาปลูกสร้างตึกแถวสำเร็จโดยหวังค่านายหน้า
กรณีที่แสดงว่านิติสัมพันธ์ระหว่างโจทก์และจำเลยในเรื่องนายหน้ายังมีอยู่
เมื่อกิจการสำเร็จเพราะโจทก์ซึ่งเป็นนายหน้าแล้วจำเลย(คู่สัญญา)ต้องจ่ายค่านายหน้าตามข้อตกลง การที่จำเลยต้องเสียค่านายหน้าแก่ผู้อื่นอีกนั้นไม่กระทบกระเทือนต่อสิทธิ์ของโจทก์ที่จะเรียกร้องเอาค่านายหน้าจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 544/2500 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ระเบียบจ่ายค่านายหน้าของบริษัท ถือเป็นสัญญาผูกพันลูกจ้าง แม้ไม่มีข้อตกลงเป็นพิเศษ
ผู้อำนวยการบริษัทจำกัดได้มีหนังสือแจ้งถึงพนักงานขายของของบริษัทว่าจะให้ค่านายหน้าแก่พนักงานซึ่งขายของได้ตามหลักเกณฑ์ที่ระบุไว้ในหนังสือเช่นนี้ ไม่ใช่เป็นสัญญาให้ตาม ป.พ.พ. ม.521 พนักงานย่อมอาศัยหนังสือนี้ฟ้องร้องบริษัทให้จ่ายค่านายหน้าขายของได้ ไม่ต้องรอให้มีการส่งมอบตาม ป.พ.พ. ม.523.
of 18