พบผลลัพธ์ทั้งหมด 167 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตน: ภยันตรายใกล้ตัวและการตอบโต้เพื่อความปลอดภัย
ผู้ตายเดินตามหลังจำเลยไป ห่างกันไม่ถึง 1 วา แล้วใช้เหล็กตะบันหมากยาว 9 นิ้วฟุต ปลายแหลมมีคมแทงทำร้ายจำเลยทางด้านหลัง หากจำเลยหลบไม่ทันอาจถูกแทงถึงแก่ความตายได้ ดังนี้ เป็นภยันตรายที่มีมาถึงตัวจำเลย จำเลยมีสิทธิที่จะป้องกันตนได้ ไม่จำต้องหนีและการที่จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงตอบผู้ตายไปทันทีในขณะนั้น ถูกผู้ตายที่ชายโครงซ้ายแล้วปามีดทิ้งวิ่งหนีไป การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันตนพอสมควรแก่เหตุโดยชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายเปลี่ยนแปลงระหว่างพิจารณาคดี: ผลกระทบต่อความผิดเดิม
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 26 และ 51 ลงโทษผู้นำใบยาแห้งพันธุ์ต่างประเทศตั้งแต่หนึ่งกิโลกรัมขึ้นไปออกนอกเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทบัญญัตินี้ต่อมาระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3)พ.ศ. 2512 ออกใช้บังคับ โดยมาตรา 13 และ 19 บัญญัติให้ยกเลิกมาตรา 26 และ 51 ดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ การกระทำของจำเลยตามฟ้องย่อมไม่เป็นความผิดต่อไป ต้องยกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 109/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กฎหมายเปลี่ยนแปลงกลางคดี: การยกฟ้องเมื่อกฎหมายที่ใช้บังคับถูกยกเลิก
พระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 มาตรา 26 และ 51 ลงโทษผู้นำใบยาแห้งพันธุ์ต่างประเทศตั้งแต่หนึ่งกิโลกรัมขึ้นไป ออกนอกเขตจังหวัดโดยไม่ได้รับอนุญาต โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามบทบัญญัตินี้ ต่อมาระหว่างพิจารณาของศาลฎีกา มีพระราชบัญญัติยาสูบ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2513 ออกใช้บังคับ โดยมาตรา 13 และ 19 บัญญัติให้ยกเลิก มาตรา 26 และ 51 ดังกล่าว เมื่อเป็นเช่นนี้ การกระทำของจำเลยตามฟ้องย่อมไม่เป็นความผิดต่อไป ต้องยกฟ้องโจทก์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบหน้าที่จำเลยต้องพิสูจน์เมื่อรับสภาพการทำสัญญาขายฝาก แต่ต่อมาอ้างว่าเป็นสัญญาลวง
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขายฝากทรัพย์ให้กับโจทก์ แล้วต่อมาจำเลยยังไม่ออกไปจากทรัพย์นั้น ขอให้ขับไล่ จำเลยรับว่าได้ทำสัญญาขายฝากจริงแต่เป็นการทำลวงไว้เท่านั้น เมื่อมีคำรับของจำเลยว่ามีการขายฝากกันจริงและมีข้ออ้างของจำเลยโดยเฉพาะขึ้นใหม่ว่าสมคบกันทำไว้ลวงคนอื่นดังนี้ จำเลยต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1727/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาขายฝากจริงและภาระหน้าที่การส่งมอบทรัพย์ ผู้รับซื้อฝากมีสิทธิขับไล่ผู้ขายฝากออกจากทรัพย์
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขายฝากทรัพย์ให้กับโจทก์ แล้วต่อมาจำเลยยังไม่ออกไปจากทรัพย์นั้น ขอให้ขับไล่ จำเลยรับว่าได้ทำสัญญาขายฝากจริงแต่เป็นการทำลวงไว้เท่านั้น เมื่อมีคำรับของจำเลยว่ามีการขายฝากกันจริงและมีข้ออ้างของจำเลยโดยเฉพาะขึ้นใหม่ว่าสมคบกันทำไว้ลวงคนอื่นดังนี้ จำเลยต้องนำสืบก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิด - ค่าเลี้ยงดูบุตร: ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้หากความเสียหายเกิดจากการกระทำละเมิดโดยตรง
เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายซึ่งเกิดเป็นผลโดยตรงและใกล้ชิดจากการกระทำละเมิดของจำเลย เช่น ต้องจ้างคนใช้เลี้ยงบุตรโจทก์ 3 คน ซึ่งมีอายุ 3,4,5 ขวบตามลำดับ ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ เพราะตัวโจทก์เองไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยตนเองเหมือนปกติ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1721/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดทางละเมิด: ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูบุตรจากความเสียหายโดยตรง
เมื่อโจทก์ได้รับความเสียหายซึ่งเกิดเป็นผลโดยตรงและใกล้ชิดจากการกระทำละเมิดของจำเลย เช่น ต้องจ้างคนใช้เลี้ยงบุตรโจทก์3 คน ซึ่งมีอายุ 3, 4, 5 ขวบตามลำดับ ย่อมเป็นเหตุให้โจทก์มีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลยได้ เพราะตัวโจทก์เองไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูบุตรได้ด้วยตนเองเหมือนปกติ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติไม่ใช่ นิติบุคคล ไม่อาจเป็นจำเลยในคดีได้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติซึ่งจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1662/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติไม่ใช่ นิติบุคคล จึงฟ้องร้องไม่ได้
คณะกรรมการจัดที่ดินแห่งชาติซึ่งจัดตั้งขึ้นตามประมวลกฎหมายที่ดินไม่เป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1656/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญากู้เพื่อค้ำประกัน สิทธิเรียกร้องเกิดจากสัญญากู้จริงเท่านั้น ไม่ใช่สัญญากู้ค้ำประกันที่ไม่มีการรับเงิน
โจทก์ให้จำเลยกู้เงิน 500 บาท โดยให้จำเลยเขียนสัญญากู้ 500 บาทฉบับหนึ่ง แล้วให้เขียนสัญญากู้อีกฉบับหนึ่งว่าจำเลยกู้ 20,000 บาท คือฉบับหมาย จ.1 เพื่อค้ำประกันสัญญากู้ฉบับแรกดังนี้ โจทก์ไม่มีสิทธิที่จะนำสัญญากู้หมาย จ.1 มาเป็นมูลฟ้องให้จำเลยต้องรับผิดเพราะโจทก์กับจำเลยไม่มีมูลหนี้ต่อกันตามสัญญากู้หมาย จ.1 และโจทก์จำเลยไม่มีเจตนาเรียกร้องตามสัญญากู้หมาย จ.1 เลยการที่จำเลยนำสืบว่า ไม่ได้รับเงิน 20,000 บาทตามสัญญากู้หมาย จ.1. เป็นการนำสืบถึงข้อตกลงอันเป็นมูลเหตุและความประสงค์ที่ทำสัญญากู้หมาย จ.1 ว่ามีอยู่อย่างไร และเป็นการนำสืบว่า มูลหนี้ที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดใช้เงินโจทก์นั้นหามีไม่ ไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 (อ้างฎีกาที่ 781/2507)