พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่ม ลด และกักกันโทษตามประมวลกฎหมายอาญา รวมถึงผลกระทบของพ.ร.บ.ล้างมลทิน
ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกจำเลย และให้เพิ่มโทษตามมาตรา93 กึ่งหนึ่งกับลดโทษตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง ดังนี้ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด ศาลมีอำนาจใช้ ดุลพินิจเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดโทษที่กำหนดไว้นั้นได้ ตามมาตรา 54 ประมวลกฎหมายอาญา จำเลยไม่อาจอ้างได้ว่าส่วนของการเพิ่มน้อยกว่าส่วนของการลด ถ้าหากเพิ่มโทษ เสียก่อนแล้วลดในภายหลัง
จำเลยพ้นจากการกักกันภายหลังวันที่ 13 พฤษภาคม 2500ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับย่อมไม่ได้รับผลการล้างมลทินตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยอาจถูกพิพากษาให้กักกันในฐานที่เป็นผู้เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกันมาแล้วได้
จำเลยพ้นจากการกักกันภายหลังวันที่ 13 พฤษภาคม 2500ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับย่อมไม่ได้รับผลการล้างมลทินตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยอาจถูกพิพากษาให้กักกันในฐานที่เป็นผู้เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกันมาแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 124/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิ่มลดโทษตามมาตรา 54 และผลกระทบของพระราชบัญญัติล้างมลทินต่อการกักกัน
ศาลชั้นต้นกำหนดโทษจำคุกจำเลย และให้เพิ่มโทษตามมาตรา 93 กึ่งหนึ่งกับลดโทษตามมาตรา 78 กึ่งหนึ่ง ดังนี้ ส่วนของการเพิ่มเท่ากับส่วนของการลด ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจเห็นสมควรไม่เพิ่มไม่ลดโทษที่กำหนดไว้นั้นได้ ตามมาตรา 54 ประมวลกฎหมายอาญาจำเลยไม่อาจอ้างได้ว่าส่วนของการเพิ่มน้อยกว่าส่วนของการลดถ้าหากเพิ่มโทษเสียก่อนแล้วลดในภายหลัง
จำเลยพ้นจากการกักกันภายหลังวันที่ 13 พฤษภาคม 2500 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับย่อมไม่ได้รับผลการล้างมลทินตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยอาจถูกพิพากษาให้กักกันในฐานที่เป็นผู้เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกันมาแล้วได้
จำเลยพ้นจากการกักกันภายหลังวันที่ 13 พฤษภาคม 2500 ซึ่งเป็นวันที่พระราชบัญญัติล้างมลทินฯ ใช้บังคับย่อมไม่ได้รับผลการล้างมลทินตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติดังกล่าว จำเลยอาจถูกพิพากษาให้กักกันในฐานที่เป็นผู้เคยถูกศาลพิพากษาให้กักกันมาแล้วได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 62/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารบันทึกข้อตกลงในแบบ ท.ด.16 ไม่ถือเป็นเอกสารราชการหรือเอกสารมหาชนตามกฎหมาย
คู่สัญญาตกลงกันไม่ได้ในเรื่องการชำระราคาที่ดิน เจ้าพนักงานจึงบันทึกถ้อยคำไว้ในแบบพิมพ์ของกรมที่ดิน (แบบ ท.ด.16) คู่สัญญาลงชื่อไว้ ข้อความที่บันทึกนี้ก็เป็นแต่เอกสารธรรมดาหาใช่เอกสารราชการหรือเอกสารมหาชนไม่ เอกสารตาม มาตรา 267 ต้องเป็นเอกสารราชการหรือเอกสารมหาชน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลอนุญาตเลื่อนคดีเด็กและเยาวชน: เหตุผลสมควรและหน้าที่โจทก์ระบุพยาน
แม้ข้อความในตอนต้นของมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 จะได้บัญญัติไว้ว่า การพิจารณาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน ให้พยายามทำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาโดยเคร่งครัดก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปได้หรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพึงสั่งตามพฤติการณ์ที่เห็นสมควรเป็นราย ๆ ไป เมื่อพฤติการณ์ที่โจทก์แสดงมาไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนคดีไป ศาลก็ชอบที่จะสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 51/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ดุลพินิจศาลในการอนุญาตเลื่อนคดีเด็กและเยาวชน: เหตุผลสมควรและความบกพร่องของโจทก์
แม้ข้อความในตอนต้นของมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดีเด็กและเยาวชน พ.ศ. 2494 จะได้บัญญัติไว้ว่า การพิจารณาของศาลที่มีอำนาจพิจารณาคดีเด็กและเยาวชนให้พยายามทำโดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายวิธีพิจารณาโดยเคร่งครัดก็ตาม แต่การที่ศาลจะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไปได้หรือไม่ อยู่ในดุลพินิจของศาลที่จะพึงสั่งตามพฤติการณ์ที่เห็นสมควรเป็นราย ๆ ไป เมื่อพฤติการณ์ที่โจทก์แสดงมาไม่มีเหตุสมควรที่จะให้เลื่อนคดีไป ศาลก็ชอบที่จะสั่งไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2303/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดโทษสำหรับความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ต้องลงโทษทั้งจำและปรับตามบทบัญญัติ
การที่จำเลยมีปลอกกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 7 จะต้องระวางโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่งมิใช่วรรคสอง เพราะวรรคสองเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 7เฉพาะกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้น เมื่อวรรคหนึ่งมีบทกำหนดโทษจำคุกและปรับจึงต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2303/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดโทษความผิดฐานมีเครื่องกระสุนปืน ต้องลงโทษทั้งจำและปรับตามวรรคหนึ่งของมาตรา 72
การที่จำเลยมีปลอกกระสุนปืนโดยมิได้รับอนุญาตนั้นเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 7 จะต้องระวางโทษตามมาตรา 72 วรรคหนึ่ง มิใช่วรรคสอง เพราะวรรคสองเป็นบทกำหนดโทษผู้ฝ่าฝืนมาตรา 7 เฉพาะกรณีเกี่ยวกับส่วนหนึ่งส่วนใดของอาวุธปืน ตามที่กำหนดไว้ในกฎกระทรวงเท่านั้น เมื่อวรรคหนึ่งมีบทกำหนดโทษจำคุกและปรับจึงต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัว: การใช้เสารั้วป้องกันการทำร้าย เป็นการกระทำที่สมควรแก่เหตุ
จำเลยที่ 2 ด่าจำเลยที่ 1 กับพวกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ พอจำเลยที่ 1 ว่า ไม่ควรพูดเช่นนั้น จำเลยที่ 2 ก็ชกจำเลยที่ 1 ก่อน ถูกที่หน้าอกแล้วจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าช่วยกันทำร้ายจำเลยที่ 1 อีก จำเลยที่ 1 ถอยหลังหนีไปติดรั้วสวน ถอนเสาไม้รั้วขึ้นกวัดแกว่งร้องห้ามไม่ให้จำเลยที่ 2 กับพวกเข้าทำร้าย จำเลยที่ 2 กลับคว้าไม้กระโดดเข้าไปจะทำร้าย จึงถูกไม้ของจำเลยที่ 1 ที่ศีรษะเป็นแผลแตกลึกถึงกระโหลกศีรษะ รักษาประมาณ 12 วันหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2281/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ: การกระทำเพื่อปกป้องตนจากภัยอันตรายจากการถูกทำร้าย
จำเลยที่ 2 ด่าจำเลยที่ 1 กับพวกที่กำลังนั่งคุยกันอยู่ พอจำเลยที่ 1ว่า ไม่ควรพูดเช่นนั้น จำเลยที่ 2 ก็ชกจำเลยที่ 1 ก่อน ถูกที่หน้าอก แล้วจำเลยที่ 2 กับพวกเข้าช่วยกันทำร้ายจำเลยที่ 1 อีก จำเลยที่ 1 ถอยหลังหนีไปติดรั้วสวน ถอนเสาไม้รั้วขึ้นกวัดแกว่งร้องห้ามไม่ให้จำเลยที่ 2 กับพวกเข้าทำร้าย จำเลยที่ 2 กลับคว้าไม้กระโดดเข้าไปจะทำร้าย จึงถูกไม้ของจำเลยที่ 1 ที่ศีรษะเป็นแผลแตกลึกถึงกระโหลกศีรษะ รักษาประมาณ 12 วันหาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำเพื่อป้องกันพอสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2222/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอนุญาตเลื่อนคดี: พิจารณาเหตุผลสมควร, ยื่นคำร้องก่อนวันนัด, และประโยชน์แห่งความยุติธรรม
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอเลื่อนการสืบพยานโจทก์ก่อนวันกำหนดนัด 3 วัน อ้างเหตุติดว่าความคดีอื่นในวันเดียวกันนั้น ศาลชั้นต้นสั่ง "สำเนาให้จำเลยสั่งในวันนัด" ครั้นวันนัดโจทก์ ทนายโจทก์ และพยานไม่ไปศาล ทนายโจทก์มอบฉันทะให้เสมียนทนายไปฟังคำสั่งศาลและกำหนดวันนัดแทน ดังนี้ เป็นเรื่องทนายโจทก์ขอเลื่อนคดีเป็นครั้งแรกทั้งยื่นไว้ก่อนวันนัดหลายวันมีเหตุสมควร และเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมที่จะอนุญาตให้โจทก์เลื่อนคดีไป