คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
จรัญ อิศระ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 355 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1392/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องรื้อรั้วบุกรุกทางสาธารณะ: โจทก์ต้องพิสูจน์ว่าที่ดินพิพาทเป็นทางสาธารณะจริง และจำเลยบุกรุก
คำฟ้องของโจทก์.โจทก์อ้างแต่เพียงว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะจำเลยทั้งสามรุกล้ำเข้ามาในทางสาธารณะเป็นเหตุให้โจทก์ใช้ทางเข้าออกไม่ได้ โจทก์ได้รับความเสียหายจึงขอให้จำเลยทั้งสามเปิดทางสาธารณะ คำฟ้องเช่นนี้เป็นการฟ้องขอให้เปิดทางสาธารณะที่โจทก์ถือว่าจำเลยรุกล้ำ เมื่อข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติได้ว่าจำเลยหาได้รุกล้ำทางสาธารณะไม่ ที่ดินที่โจทก์ว่าจำเลยรุกล้ำนั้นความจริงก็เป็นที่ของจำเลยเอง ไม่ใช่ทางสาธารณะ ดังนี้แล้วโจทก์ก็ไม่มีสิทธิที่จะฟ้องขอให้จำเลยเปิดทางขยายรั้วหรือรื้อรั้วที่จำเลยสร้างขึ้นใหม่นั้นได้การที่โจทก์บรรยายฟ้องอ้างว่าได้ใช้ทางเดินนี้มาเกิน 10 ปีแล้วก็เป็นแต่เพียงแสดงข้อเท็จจริงว่าโจทก์ได้ใช้ทางนี้มานาน แต่มิได้หมายความว่าโจทก์ประสงค์จะให้จำเลยเปิดทางในฐานะเป็นทางภารจำยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดร่วมกับลูกจ้างที่ขับรถประมาท แม้ลูกจ้างขับรถผิดเส้นทาง แต่ยังอยู่ในทางการที่จ้าง
ลูกจ้างขับรถประจำทางจากอู่เพื่อไปยังจุดต้นทางโดยเส้นทางที่ผิดไปจากเส้นทางที่นายจ้างมีคำสั่งไว้ให้ปฏิบัติ เมื่อขับด้วยความประมาทชนผู้อื่นบาดเจ็บ นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย เพราะการที่ลูกจ้างขับรถเพื่อไปยังจุดต้นทางตามหน้าที่นั้นเป็นการที่กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว ส่วนคำสั่งดังกล่าวนั้นเป็นเรื่องภายในระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปีเป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1382/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นายจ้างต้องรับผิดในละเมิดของลูกจ้างเมื่อขับรถตามหน้าที่ แม้จะนอกเส้นทางตามคำสั่ง
ลูกจ้างขับรถประจำทางจากอู่เพื่อไปยังจุดต้นทางโดยเส้นทางที่ผิดไปจากเส้นทางที่นายจ้างมีคำสั่งไว้ให้ปฏิบัติ เมื่อขับด้วยความประมาทผู้อื่นบาดเจ็บ นายจ้างจะต้องร่วมรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนด้วย เพราะการที่ลูกจ้างขับรถเพื่อไปยังจุดต้นทางตามหน้าที่นั้น เป็นการที่กระทำไปในทางการที่จ้างแล้ว ส่วนคำสั่งดังกล่าวเป็นเรื่องภายในระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง
โจทก์มีรายได้เดือนละ 600 บาท เมื่อถูกจำเลยกระทำละเมิดแล้วไม่สามารถประกอบอาชีพได้เช่นปกติ ฟ้องเรียกค่าเสียหายในอนาคต 10 ปี เป็นเงิน 72,000 บาท เมื่อศาลพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายจำนวนหนึ่งเป็นจำนวนแน่นอนแล้ว ย่อมให้คิดดอกเบี้ยในเงินจำนวนนี้นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นพิพากษา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันวางแผนฆ่า: การกระทำขัดขวางการไล่ติดตามผู้กระทำผิดแสดงเจตนาในการช่วยเหลือและมีส่วนร่วมในการฆ่า
นายเอียดเป็นคนแทงผู้ตาย จำเลยกับนายเวศเป็นคนขัดขวางมิให้คนไล่ติดตามนายเอียดไล่ติดตามายเอียดต่อไป เมื่อได้ความว่า จำเลยเป็นพี่นายเอียด นายเอียดเป็นน้องนายเวศร่วมบิดามารดากัน ก่อนเกิดเหตุ 1 เดือน มีเรื่องชกต่อยขึ้นระหว่างผู้ตายกับนายเวศ การที่จำเลยไปแอบซุ่มอยู่ในป่าโดยมีปืนด้วยกับนายเวศ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วได้วิ่งไปทางที่จำเลยกับนายเวศแอบซุ่มอยู่แสดงให้เห็นว่า ได้มีการร่วมคบคิดกันฆ่าแต่แรกที่จะไปแทงทำร้ายผู้ตายรายนี้โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ กล่าวคือ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้ว มิได้วิ่งหนีไปทางอื่นกลับวิ่งไปทางที่จำเลยกับพวกคอยดักอยู่ พอถึงจำเลยกับพวกก็ลุกขึ้นยืนขู่ขัดขวางการไล่ติดตามทันที การกระทำของจำเลยเป็นตัวการกระทำผิดด้วยกันกับนายเอียด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันฆ่าโดยมีเจตนาวางแผนแบ่งหน้าที่: การกระทำของพี่น้องที่สกัดขวางการไล่ล่าผู้ถูกทำร้าย
นายเอียดเป็นคนแทงผู้ตาย จำเลยกับนายเวศเป็นคนขัดขวางมิให้คนไล่ติดตามนายเอียดไล่ติดตามนายเอียดต่อไป เมื่อได้ความว่าจำเลยเป็นพี่นายเอียด นายเอียดเป็นน้องนายเวศร่วมบิดามารดากันก่อนเกิดเหตุ 1 เดือนมีเรื่องชกต่อยขึ้นระหว่างผู้ตายกับนายเวศการที่จำเลยไปแอบซุ่มอยู่ในป่าโดยมีปืนด้วยกับนายเวศ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วได้วิ่งไปทางที่จำเลยกับนายเวศแอบซุ่มอยู่แสดงให้เห็นว่า ได้มีการร่วมคบคิดกันฆ่าแต่แรกที่จะไปแทงทำร้ายผู้ตายรายนี้โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำกล่าวคือ เมื่อนายเอียดแทงผู้ตายแล้วมิได้วิ่งหนีไปทางอื่นกลับวิ่งไปทางที่จำเลยกับพวกคอยดักอยู่ พอถึงจำเลยกับพวกก็ลุกขึ้นยืนขู่ขัดขวางการไล่ติดตามทันที การกระทำของจำเลยเป็นตัวการกระทำผิดด้วยกันกับนายเอียด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องยื่นภายใน 10 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง
แม้ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์แล้วมีคำสั่งให้รับอุทธรณ์บางข้อคู่ความผู้อุทธรณ์จะอุทธรณ์คำสั่งก็ต้องยื่นภายในกำหนด 10 วัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งศาลที่ไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง ต้องยื่นคำร้องภายใน 10 วัน นับจากวันที่ศาลมีคำสั่ง
ในการตรวจอุทธรณ์ที่ยื่นต่อศาลชั้นต้นนั้น ศาลชั้นต้นอาจตรวจในข้อที่คดีต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224, 230
ศาลชั้นต้นตรวจอุทธรณ์ของจำเลยแล้วเห็นว่าต้องห้ามอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง จึงสั่งไม่รับ และมีคำสั่งให้ส่งอุทธรณ์นั่นไปเท่าที่เป็นอุทธรณ์ในข้อกฎหมาย จึงเป็นคำสั่งปฏิเสธไม่ส่งอุทธรณ์ในข้อเท็จจริงไปยังศาลอุทธรณ์ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 232 หาใช่ต้องเป็นกรณีปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์ของจำเลยทั้งหมดไม่ จำเลยจึงต้องอุทธรณ์คำสั่งศาล่ชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ข้อเท็จจริง โดยยื่นคำขอเป็นคำร้องต่อศาลชั้นต้น ภายใน 10 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำสั่งตามมาตรา 234

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฆ่าโดยเจตนาด้วยบันดาลโทสะ: การพิจารณาเหตุแห่งการกระทำและความเป็นเหตุผลของบันดาลโทสะ
ผู้ตายเข้าไปในร้านของจำเลยแล้วขอเช็คดูเพื่อชำระเงินสดให้ เมื่อจำเลยส่งเช็คให้ผู้ตาย ๆ กลับฉีกเช็คนั้นทันที ครั้นจำเลยเข้าแย่งเพื่อจะเอาเช็คนั้นกลับคืน ผู้ตายยังด่าจำเลยอีก จำเลยโมโหจึงได้หยิบมีดที่อยู่ใกล้มือแทงผู้ตายไป ถูกผู้ตายเป็นบาดแผล 3 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการบันดาลโทสะ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแทงผู้อื่นด้วยความบันดาลโทสะ: พิจารณาเจตนาและเหตุผลในการกระทำ
ผู้ตายเข้าไปในร้านของจำเลยแล้วขอเช็คดูเพื่อชำระเงินสดให้เมื่อจำเลยส่งเช็คให้ผู้ตาย ๆ กลับฉีกเช็คนั้นทันที ครั้นจำเลยเข้าแย่งเพื่อจะเอาเช็คนั้นกลับคืน ผู้ตายยังด่าจำเลยอีก จำเลยโมโหจึงได้หยิบมีดที่อยู่ใกล้มือแทงผู้ตายไป ถูกผู้ตายเป็นบาดแผล 3 แผลถึงแก่ความตายทันที ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นการบันดาลโทสะฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1281/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความยินยอมในการประเวณีและการละเมิด: เมื่อการกระทำเป็นไปโดยสมัครใจ ผู้กระทำไม่ถือว่าละเมิด
ในการพิพากษาคดีส่วนอาญา ศาลล่างฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์สมัครใจยินยอมให้จำเลยร่วมประเวณีมิใช่ถูกจำเลยข่มขืนใจ ในการพิพากษาคดีส่วนแพ่ง ศาลฎีกาจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา เมื่อการกระทำของโจทก์เป็นเรื่องสมัครใจจำเลยจึงมิได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหาย
of 36