พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจจำกัดสิทธิใช้ทางสาธารณะและการเรียกเก็บเงินค่าผ่านทางที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
โจทก์ได้รับอนุญาตจากทางการจังหวัดเชียงใหม่ให้ซ่อมสะพานและงานดินในถนนสายจากอำเภอแม่แตงถึงอำเภอพร้าวซึ่งเป็นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ใช้โดยเฉพาะ จำเลยได้ทำสัญญาจะช่วยเหลือในการซ่อมสะพานและถนน โดยถืออัตรา 12,000 บาทต่อรถยนต์ของจำเลย 1 คันซึ่งเดินรับส่งคนโดยสารในถนนสายนั้นดังนี้ โจทก์หามีอำนาจเรียกเก็บจากจำเลยตามสัญญาได้ไม่ เพราะเอกชนไม่มีอำนาจปิดกั้นทางหลวงไม่ว่าประเภทใด มิให้บุคคลหรือยวดยานสัญจรไปมา แม้แต่ทางหลวงสัมปทานตามพระราชบัญญติทางหลวงสัมปทาน พ.ศ.2473 มาตรา 30 และสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 113
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 297/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกชนห้ามปิดกั้นทางหลวงเรียกเก็บเงิน แม้ทางหลวงสัมปทาน สัญญาขัดต่อความสงบเรียบร้อยเป็นโมฆะ
โจทก์ได้รับอนุญาตจากทางการจังหวัดเชียงใหม่ให้ซ่อมสพานและงานดินในถนนสายจากอำเภอแม่แตงถึงอำเภอพร้าวซึ่งเป็นทางที่โจทก์ได้รับอนุญาตให้ใช้โดยเฉพาะ จำเลยได้ทำสัญญาจะช่วยเหลือในการซ่อมสพานและถนน โดยถืออัตรา 12,000 บาท ต่อรถยนต์ของจำเลย 1 คัน ซึ่งเดินรับส่งคนโดยสารในถนนสายนั้น ดังนี้ โจทก์หามีอำนาจเรียกเก็บจากจำเลยตามสัญญาได้ไม่ เพราะเอกชนไม่มีอำนาจปิดกั้นทางหลวงไม่ว่าประเภทใด มิให้บุคคลหรือยวดยานสัญจรไปมา แม้แต่ทางหลวงสัมปทานตาม พ.ร.บ. ทางหลวงสัมปทาน พ.ศ. 2473 มาตรา 30 และสัญญาระหว่างโจทก์จำเลยเช่นนี้ ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ตาม ป.พ.พ. มาตรา 113.