พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องถอนผู้จัดการมรดก: ผู้มีส่วนได้เสียมีสิทธิยื่นคำร้องในคดีเดิม
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727 ให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยทำเป็นคำร้องขอก่อนการปันมรดกเสร็จสิ้น หมายความว่าผู้ร้องขอมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมนั่นเอง ส่วนปัญหาที่ว่าการจัดการมรดกรายนี้เสร็จสิ้นแล้ว ผู้จัดการมรดกมิได้ปฏิบัติผิดหน้าที่และผู้ร้องไม่มีส่วนได้ทรัพย์มรดกรายนี้ จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องนั้นเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3050/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิผู้มีส่วนได้เสียร้องขอถอนผู้จัดการมรดกในคดีเดิมได้ก่อนปันมรดกเสร็จสิ้น
บทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1727ให้ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยทำเป็นคำร้องขอก่อนการปันมรดกเสร็จสิ้นหมายความว่าผู้ร้องขอมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมนั่นเองส่วนปัญหาที่ว่าการจัดการมรดกรายนี้เสร็จสิ้นแล้วผู้จัดการมรดกมิได้ปฏิบัติผิดหน้าที่และผู้ร้องไม่มีส่วนได้ทรัพย์มรดกรายนี้จึงไม่มีสิทธิยื่นคำร้องนั้นเป็นเรื่องที่ศาลชั้นต้นจะไต่สวนแล้วมีคำสั่งหรือคำพิพากษาต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2512/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญ: ผู้ร้องมีสิทธิเริ่มคดีทั้งแบบมีข้อพิพาทและไม่มีข้อพิพาท หากมีผู้คัดค้าน ศาลต้องดำเนินคดีแบบมีข้อพิพาท
การขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1057 นั้นผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะฟ้องร้องเป็นคดีมีข้อพิพาทก็ได้ หรือจะเริ่มต้นด้วยการร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทก็ได้และในกรณีหลังนี้หากมีหุ้นส่วนอื่นไม่เห็นพ้องด้วย ย่อมมี สิทธิร้องคัดค้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ในคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188 และศาลต้องดำเนินคดีต่อไปอย่างคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2512/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญ: ผู้ร้องเลือกฟ้องแบบมีข้อพิพาทหรือไม่มีข้อพิพาทก็ได้ หากมีผู้คัดค้าน ศาลดำเนินกระบวนพิจารณาแบบมีข้อพิพาท
การขอให้ศาลสั่งเลิกห้างหุ้นส่วนสามัญตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1057 นั้น ผู้เป็นหุ้นส่วนคนหนึ่งจะฟ้องร้องเป็นคดีมีข้อพิพาทก็ได้ หรือจะเริ่มต้นด้วยการร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาทก็ได้และในกรณีหลังนี้ หากมีหุ้นส่วนอื่นไม่เห็นพ้องด้วย ย่อมมีสิทธิร้องคัดค้านเข้ามาเกี่ยวข้อง ในคดีได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188 และศาลต้องดำเนินคดีต่อไปอย่างคดีมีข้อพิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิแสดงกรรมสิทธิ์จากการครอบครองปรปักษ์ แม้ผู้ร้องไม่ได้ครอบครองขณะยื่นคำร้อง
การยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 78 มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่า ผู้ร้องจะต้องเป็นผู้ครอบครอง อสังหาริมทรัพย์อยู่ในขณะยื่นคำร้องขอต่อศาลและคำสั่งของศาล ที่แสดงว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามคำร้องขอนั้น ก็เป็นเพียง คำสั่งที่รับรองว่าการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้ร้อง ตามที่ได้ครอบครองมาแล้วนั้นเป็นผลให้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์แล้วเพื่อที่ผู้ร้องจะได้นำคำพิพากษา ไปจดทะเบียนสิทธิ ต่อเจ้าพนักงานที่ดินต่อไปเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1059/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินจากการครอบครองปรปักษ์ ศาลไม่จำกัดว่าผู้ร้องต้องครอบครองขณะยื่นคำร้อง
การยื่นคำร้องขอแสดงกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์นั้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 78 มิได้กำหนดหลักเกณฑ์ว่าผู้ร้องจะต้องเป็นผู้ครอบครองอสังหาริมทรัพย์อยู่ในขณะยื่นคำร้องขอต่อศาล และคำสั่งของศาล ที่แสดงว่าผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ตามคำร้องขอนั้น ก็เป็นเพียงคำสั่งที่รับรองว่าการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้ร้องตามที่ได้ครอบครองมาแล้วนั้น เป็นผลให้ผู้ร้องได้กรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์แล้ว เพื่อที่ผู้ร้องจะได้นำคำพิพากษาไปจดทะเบียนสิทธิต่อเจ้าพนักงานที่ดินต่อไปเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3747/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการบริษัทถูกจำกัดโดยมติที่ประชุมผู้ถือหุ้น การเร่งรัดลงมติขัดเจตนารมณ์ผู้ถือหุ้น
ปัญหาเรื่องการตั้งบริษัท ด. ให้เป็นผู้จัดการของบริษัท ส.นี้ ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นของบริษัท ส.มาแล้วสองครั้ง แต่ได้มีการเลื่อนการประชุมออกไปโดยปัญหาดังกล่าวยังถือว่าค้างพิจารณาเพื่อรอการลงมติอยู่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมิได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทนำเรื่องนี้ไปประชุมพิจารณาลงมติกันเอง อำนาจของคณะกรรมการที่จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็นได้ว่าถูกจำกัดให้อยู่ในความครอบงำของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นตลอดมาแต่ต้น การที่คณะกรรมการถือโอกาสรวบรัดประชุมลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะมีมติของที่ประชุมใหญ่ในคราวต่อไป จึงเป็นการกระทำที่ฝืนเจตนารมณ์ของที่ประชุมผู้ถือหุ้น และขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1144 และมาตรา 1168 นับเป็นมติที่ไม่ชอบอันอาจทำให้บรรดาผู้ถือหุ้นเสียหาย ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชอบที่จะขอให้เพิกถอนเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3747/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจคณะกรรมการบริษัทต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของที่ประชุมผู้ถือหุ้น การลงมติขัดเจตนารมณ์ผู้ถือหุ้นเป็นโมฆะ
ปัญหาเรื่องการตั้งบริษัท ด. ให้เป็นผู้จัดการของบริษัทส.นี้ ได้นำเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นของบริษัท ส.มาแล้วสองครั้ง แต่ได้มีการเลื่อนการประชุมออกไปโดยปัญหาดังกล่าวยังถือว่าค้างพิจารณาเพื่อรอการลงมติอยู่ ที่ประชุมผู้ถือหุ้นมิได้มอบหมายให้คณะกรรมการบริษัทนำเรื่องนี้ไปประชุมพิจารณาลงมติกันเองอำนาจของคณะกรรมการที่จะจัดการเกี่ยวกับเรื่องนี้เห็นได้ว่าถูกจำกัดให้อยู่ในความครอบงำของที่ประชุมใหญ่แห่งผู้ถือหุ้นตลอดมาแต่ต้น การที่คณะกรรมการถือโอกาสรวบรัดประชุมลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อนที่จะมีมติของที่ประชุมใหญ่ในคราวต่อไปจึงเป็นการกระทำที่ฝืนเจตนารมณ์ของที่ประชุมผู้ถือหุ้นและขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1144และมาตรา 1168 นับเป็นมติที่ไม่ชอบอันอาจทำให้บรรดาผู้ถือหุ้นเสียหาย ผู้ร้องซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นชอบที่จะขอให้เพิกถอนเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2903/2526
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานะคู่ความ: นายทะเบียนถูกศาลรับเรื่องแม้ไม่ยื่นคัดค้านทันเวลา มีสิทธิอุทธรณ์ได้
แม้ศาลจะไม่รับคำคัดค้านของพันตรี พ. ในฐานะนายทะเบียนประจำสำนักทะเบียนอำเภอเมืองนครพนม เพราะมิได้ยื่นคำร้องเพื่อขอขยายระยะเวลายื่นคำคัดค้านภายในเวลาที่ศาลชั้นต้นกำหนด ก็ถือได้ว่าพันตรี พ. ได้เข้ามาเกี่ยวข้องในคดีของผู้ร้องโดยตรงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 188(4) จึงเป็นคู่ความในคดี มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2525 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร้องซ้ำคดีเดิมที่ศาลไม่รับคำร้อง และการขาดอายุความในการฟ้องร้อง
ผู้ร้องทั้งสี่เคยร่วมกับพวกอีกสองคนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ส.นายกสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 17 ได้ดำเนินการเลือกตั้งสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 18 ไปโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมให้เพิกถอนคณะกรรมการชุดนี้ออกจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมใหม่โดยเร็ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรรมการชุดที่ 18 ขอจดทะเบียนอยู่ กองบังคับการตำรวจสันติบาลให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่จำต้องสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และศาลก็ไม่มีหน้าที่สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่กับพวกคดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีนี้อีก โดยบรรยายข้อเท็จจริงในคำร้องคดีนี้ทำนองเดียวกับข้อเท็จจริงที่บรรยายในคำร้องคดีก่อนเพียงแต่มีคำขอท้ายคำร้องเพี้ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย ย่อมเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องทั้งสี่มาร้องเป็นคดีนี้อีกด้วยเหตุอย่างเดียวกันและคำขอทำนองเดียวกัน จึงเป็นการร้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148