คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 188

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 243 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2585/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องร้องซ้ำในคดีเลือกตั้งกรรมการสมาคม และการขาดอายุความตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
ผู้ร้องทั้งสี่เคยร่วมกับพวกอีกสองคนยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นว่า ส.นายกสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 17 ได้ดำเนินการเลือกตั้งสภากรรมการจัดการสมาคมชุดที่ 18 ไปโดยไม่ชอบ ขอให้ศาลมีคำสั่งว่าคณะกรรมการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมายและข้อบังคับของสมาคมให้เพิกถอนคณะกรรมการชุดนี้ออกจากตำแหน่ง และให้ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการสมาคมใหม่โดยเร็ว ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า กรรมการชุดที่ 18 ขอจดทะเบียนอยู่ กองบังคับการตำรวจสันติบาลให้รอการจดทะเบียนไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด เมื่อกรรมการชุดใหม่ยังไม่ได้จดทะเบียนก็ไม่จำต้องสั่งให้ออกจากตำแหน่ง และศาลก็ไม่มีหน้าที่สั่งให้ดำเนินการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่จึงมีคำสั่งไม่รับคำร้องของผู้ร้องทั้งสี่กับพวกคดีถึงที่สุด ต่อมาผู้ร้องทั้งสี่ได้ยื่นคำร้องต่อศาลชั้นต้นเป็นคดีนี้อีกโดยบรรยายข้อเท็จจริงในคำร้องคดีนี้ทำนองเดียวกับข้อเท็จจริงที่บรรยายในคำร้องคดีก่อนเพียงแต่มีคำขอท้ายคำร้องเพี้ยนไปจากเดิมบ้างเล็กน้อย ย่อมเห็นได้ชัดว่าผู้ร้องทั้งสี่มาร้องเป็นคดีนี้อีกด้วยเหตุอย่างเดียวกันและคำขอทำนองเดียวกัน จึงเป็นการร้องซ้ำต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 148

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1987-1995/2525

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การถอนสัญชาติโดยประกาศคณะปฏิวัติ ผู้ถูกถอนสัญชาติไม่มีสิทธิฟ้องร้องต่อศาลเพื่อขอให้ศาลสั่งให้มีสัญชาติ
ผู้ร้องถูกทางราชการถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 337 ซึ่งผู้ร้องอาจได้สัญชาติไทยอีกเมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยพิจารณาเห็นสมควรและสั่งตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าว และพระราชบัญญัติสัญชาติ แต่พระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 ในส่วนที่ไม่ขัดกับประกาศของคณะปฏิวัติฉบับดังกล่าวก็มิได้บัญญัติให้สิทธิผู้ร้องร้องขอให้ศาลสั่งให้ผู้ร้องเป็นบุคคลมีสัญชาติไทยได้ กรณีของผู้ร้องจึงไม่มีกฎหมายสนับสนุนหรือรับรองให้ใช้สิทธิทางศาลโดยวิธีร้องขอให้ศาลสั่งเช่นนั้น หากผู้ร้องเห็นว่าทางราชการถอนสัญชาติผู้ร้องเป็นการกระทำโต้แย้งสิทธิ ก็ชอบที่จะฟ้องผู้โต้แย้งสิทธิเป็นคดีต่อศาล ดังนั้น แม้ผู้ร้องได้ยื่นคำร้องต่อศาลและพนักงานอัยการยื่นคำคัดค้านแล้ว จึงเกิดเป็นคดีมีข้อพิพาทในคดีไม่มีข้อพิพาท แต่เมื่อผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอต่อศาล ข้อพิพาทในคดีนี้จึงตกไปโดยไม่จำต้องดำเนินคดีต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีต่อศาล: ข้อพิพาท vs. ไม่มีข้อพิพาท เมื่อมีผู้โต้แย้งสิทธิ
กรณีที่จะเสนอคดีต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทนั้น หมายถึงกรณีที่ไม่มีบุคคลใดโต้แย้งสิทธิ แต่มีเหตุที่ผู้เสนอคดีจำต้องใช้สิทธิทางศาล
หากเจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมรับจดทะเบียนการโอนที่ดินเพราะพินัยกรรมของผู้ตายสั่งห้ามจำหน่าย เท่ากับได้มีการโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว ผู้ร้องชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้องอันเป็นคดีมีข้อพิพาท หาใช่เสนอคดีโดยทำเป็นคำร้องขออันเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1316/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเสนอคดีไม่มีข้อพิพาทเมื่อมีผู้โต้แย้งสิทธิ ผู้ร้องต้องฟ้องเป็นคดีมีข้อพิพาท
กรณีที่จะเสนอคดีต่อศาลเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทนั้น หมายถึงกรณีที่ไม่มีบุคคลใดโต้แย้งสิทธิ แต่มีเหตุที่ผู้เสนอคดีจำต้องใช้สิทธิทางศาล
หากเจ้าพนักงานที่ดินไม่ยอมรับจดทะเบียนการโอนที่ดินเพราะพินัยกรรมของผู้ตายสั่งห้ามจำหน่าย เท่ากับได้มีการโต้แย้งสิทธิเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 แล้ว ผู้ร้องชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลโดยทำเป็นคำฟ้องอันเป็นคดีมีข้อพิพาท หาใช่เสนอคดีโดยทำเป็นคำร้องขอ อันเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเพิกถอนมติสมาคม: ไม่จำต้องฟ้องสมาคมโดยตรง และศาลมีอำนาจพิพากษาเพิกถอนมติได้
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติอันฝ่าฝืนต่อข้อบังคับของสมาคมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1291 อาจทำเป็นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาท โดยไม่จำต้องฟ้องสมาคมเป็นจำเลยก็ได้
โจทก์ฟ้องคณะกรรมการบริหารสมาคม 14 คนเป็นจำเลย ขอให้จำเลยเพิกถอนมติที่ฝ่าฝืนข้อบังคับ โดยระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารกิจการตามข้อบังคับ จำเลยได้ลงมติฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคม อันเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นสมาชิกสมาคม ดังนี้ โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะที่จำเลยเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้รับผิดชอบกิจการของสมาคมให้เพิกถอนมติโดยฝ่าฝืนข้อบังคับได้ หาจำต้องฟ้องสมาคมด้วยไม่
โจทก์คณะกรรมการบริหารสมาคมแม้คำขอของโจทก์ระบุเจาะจงให้จำเลยเพิกถอนมติก็ตาม แต่สภาพแห่งฟ้องการบังคับอาจไม่เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้ ทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1291 ก็บัญญัติให้ศาลเพิกถอนมตินั้นเสียโดยไม่ต้องบังคับให้บุคคลใดเพิกถอน ดังนั้น ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาให้เพิกถอนมติของสมาคมโดยไม่ได้บังคับจำเลยได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1287/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องเพิกถอนมติสมาคม: สิทธิสมาชิกฟ้องคณะกรรมการโดยตรงได้ แม้ไม่ต้องฟ้องสมาคม
การร้องขอให้ศาลเพิกถอนมติอันฝ่าฝืนต่อข้อบังคับของสมาคมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1291 อาจทำ เป็นคำร้องขออย่างคดีไม่มีข้อพิพาท โดยไม่จำต้องฟ้องสมาคมเป็นจำเลยก็ได้
โจทก์ฟ้องคณะกรรมการบริหารสมาคม 14 คนเป็นจำเลยขอให้จำเลยเพิกถอนมติที่ฝ่าฝืนข้อบังคับ โดยระบุว่าจำเลยมีหน้าที่รับผิดชอบบริหารกิจการตามข้อบังคับจำเลยได้ลงมติฝ่าฝืนข้อบังคับของสมาคม อันเป็นการโต้แย้งสิทธิโจทก์ในฐานะที่โจทก์เป็นสมาชิกสมาคม ดังนี้โจทก์ย่อมมีอำนาจฟ้องจำเลยในฐานะที่จำเลยเป็นคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้รับผิดชอบกิจการของสมาคม ให้เพิกถอน มติโดยฝ่าฝืนข้อบังคับได้ หาจำต้องฟ้องสมาคม ด้วยไม่
โจทก์ฟ้องคณะกรรมการบริหารสมาคมแม้คำขอของ โจทก์ระบุเจาะจง ให้จำเลยเพิกถอนมติก็ตาม แต่สภาพ แห่งการบังคับอาจไม่ เปิดช่องให้ทำเช่นนั้นได้ ทั้งตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1291 ก็บัญญัติให้ศาล เพิกถอนมตินั้นเสียโดยไม่ต้องบังคับให้บุคคลใด เพิกถอน ดังนั้น ศาลย่อมมีอำนาจพิพากษาให้เพิกถอนมติ ของสมาคม โดยไม่ได้บังคับจำเลยได้ ไม่เป็นการเกินคำขอ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์บ้านบนที่ดินของผู้อื่น: สิทธิการขอศาลแสดงกรรมสิทธิ์
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าบ้านซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินของผู้อื่นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้อง โดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382นั้น ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องมาขอให้ศาลสั่งได้ กรณีมิใช่เรื่องที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 จึงต้องยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 220/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ในอสังหาริมทรัพย์: สิทธิในการขอศาลแสดงกรรมสิทธิ์
การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ศาลสั่งแสดงว่าบ้านซึ่ง ปลูกอยู่ในที่ดินของผู้อื่นเป็นกรรมสิทธิ์ของผู้ร้องโดยการครอบครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 นั้นไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ผู้ร้องมาขอให้ศาลสั่งได้กรณีมิใช่เรื่องที่จะต้องใช้สิทธิทางศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 จึงต้องยกคำร้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจัดการศพ: ทายาทโดยธรรมมีอำนาจจัดการศพได้เอง ไม่ต้องร้องต่อศาลหากไม่มีข้อพิพาท
กรณีร้องขอเป็นผู้จัดการทำศพของผู้ตายมาตรา 1649 นั้น ต้องปรากฏว่าผู้ตายไม่ได้ตั้งผู้จัดการมรดก หรือตั้งบุคคลใดไว้ให้เป็นผู้จัดการทำศพ ทั้งทายาทก็ตกลงกันไม่ได้ที่จะมอบหมายตั้งให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการทำศพ อำนาจและหน้าที่นี้จึงตกได้แก่ผู้ที่ได้รับทรัพย์มรดกเป็นจำนวนมากที่สุด และกรณีถ้าผู้มีส่วนได้เสียเห็นว่า ผู้ได้รับมรดกเป็นจำนวนมากที่สุดนั้นไม่สมควรเป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายจึงอาจร้องขอต่อศาลได้ แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องเป็นภริยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย เป็นทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายมีอำนาจจัดการทำศพหรือมอบหมายให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายได้อยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ทั้งปรากฏว่าก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอได้ไปขอรับศพผู้ตาย แต่ ส.ซึ่งรับศพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปก่อน ไม่ยอมมอบให้โดยอ้างว่าเป็นภรรยาผู้ตาย จึงมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับ ส. ผู้ร้องชอบทีจะดำเนินคดีกับ ส. อย่างคดีมีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 ที่ร้องเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทจึงไม่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 76/2522

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการศพ: ทายาทโดยธรรมมีสิทธิจัดการศพได้เอง ไม่ต้องร้องขอต่อศาล
กรณีร้องขอเป็นผู้จัดการทำศพของผู้ตายตามมาตรา 1649นั้น ต้องปรากฏว่าผู้ตายไม่ได้ตั้งผู้จัดการมรดก หรือตั้งบุคคลใดไว้ให้เป็นผู้จัดการทำศพ ทั้งทายาทก็ตกลงกันไม่ได้ที่จะมอบหมายตั้งให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการทำศพอำนาจและหน้าที่นี้จึงตกได้แก่ผู้ที่ได้รับทรัพย์มรดกเป็นจำนวนมากที่สุด และกรณีนี้ถ้าผู้มีส่วนได้เสียเห็นว่า ผู้ได้รับมรดกเป็นจำนวนมากที่สุดนั้นไม่สมควรเป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายจึงอาจร้องขอต่อศาลได้ แต่เมื่อปรากฏว่าผู้ร้องเป็นภริยาและบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย เป็นทายาทที่มีสิทธิตามกฎหมายมีอำนาจจัดการทำศพหรือมอบหมายให้บุคคลใดเป็นผู้จัดการทำศพผู้ตายได้อยู่แล้ว จึงไม่มีเหตุที่จะต้องใช้สิทธิทางศาล ทั้งปรากฏว่าก่อนที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอได้ไปขอรับศพผู้ตาย แต่ส.ซึ่งรับศพจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไปก่อน ไม่ยอมมอบให้โดยอ้างว่าเป็นภรรยาผู้ตาย จึงมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นระหว่างผู้ร้องกับ ส. ผู้ร้องชอบที่จะดำเนินคดีกับ ส. อย่างคดีมีข้อพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา55 ที่ร้องเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทจึงไม่ถูกต้อง
of 25