พบผลลัพธ์ทั้งหมด 474 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1313/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การวินิจฉัยข้อเท็จจริงขัดแย้งกับศาลชั้นต้นในคดีอาญา ทำให้การอุทธรณ์ไม่ชอบ
ในคดีที่จำเลยถูกฟ้องในข้อหายักยอกนั้น ปัญหาที่ว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตหรือไม่ หรือจำเลยเบียดบังเอาทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นของตนโดยทุจริตหรือไม่ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง
เมื่อศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายไว้พิจารณา การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตจะเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยเบียดบังเอาทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นของตนโดยทุจริต จึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 194
เมื่อศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์ของโจทก์ในปัญหาข้อกฎหมายไว้พิจารณา การวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายศาลอุทธรณ์จะต้องฟังข้อเท็จจริงตามที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมาแล้วจากพยานหลักฐานในสำนวน ดังนั้นเมื่อศาลชั้นต้นวินิจฉัยข้อเท็จจริงว่าจำเลยไม่มีเจตนาทุจริตจะเบียดบังทรัพย์ของโจทก์ การที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงว่า จำเลยเบียดบังเอาทรัพย์ของโจทก์ไว้เป็นของตนโดยทุจริต จึงเป็นการวินิจฉัยข้อเท็จจริงที่ขัดกับข้อเท็จจริงที่ศาลชั้นต้นวินิจฉัยมา ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 194
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าโดยไม่มีการทรมาน: ไม่เข้าข่ายฆ่าโดยทารุณโหดร้ายตาม ม.289(5)
การที่จำเลยกับพวกดักยิงผู้ตายกับผู้เสียหายมาก่อน เมื่อผู้ตายกับผู้เสียหายหนีเสียทัน จำเลยทั้งสองกับพวกยังไม่ลดละตามมายิงผู้ตายกับผู้เสียหายถึงบนบ้านเรือนยิงแล้วยังเอาเชือกมัดข้อมือผู้ตายช่วยกันหามไปทิ้งในป่า พฤติการณ์เช่นนี้เห็นได้ว่าเป็นเพียงจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายกับผู้ตายให้ตายไปเท่านั้น การหามผู้ตายไปทิ้งเป็นการต้องการแต่จะซ่อนเร้นปิดบังการกระทำความผิดเมื่อการฆ่าไม่ปรากฏการกระทำอย่างใดเป็นพิเศษอันแสดงให้เห็นว่าผู้ฆ่าประสงค์จะให้ผู้ตายได้รับความลำบากสาหัสก่อนตายแล้วกรณีย่อมไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1273/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่า ไม่ถึงแก่การทรมานหรือกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
การที่จำเลยกับพวกดักยิงผู้ตายกับผู้เสียหายมาก่อน เมื่อผู้ตายกับผู้เสียหายหนีเสียทัน จำเลยทั้งสองกับพวกยังไม่ลดละตามมายิงผู้ตายกับผู้เสียหายถึงบนบ้านเรือนยิงแล้วยังเอาเชือกมัดข้อมือผู้ตายช่วยกันหามไปทิ้งในป่า พฤติการณ์เช่นนนี้เห็นได้ว่าเป็นเพียงจำเลยกับพวกมีเจตนาฆ่าผู้เสียหายกับผู้ตายให้ตายไปเท่านั้น การหามผู้ตายไปทิ้งเป็นการต้องการแต่จะซ่อนเร้นปิดบังการกระทำความผิด เมื่อการฆ่าไม่ปรากฏการกระทำอย่างใดเป็นพิเศษอันแสดงให้เห็นว่า ผู้ฆ่าประสงค์จะให้ผู้ตายได้รับความลำบากสาหัสก่อนตายแล้ว กรณีย่อมไม่เป็นความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยมรทานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่าทรัพย์ขายฝากเป็นสิทธิแยกต่างหากจากค่าไถ่ การนำสืบข้อตกลงเรื่องค่าเช่าไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญา
ข้อตกลงของคู่สัญญาขายฝากเกี่ยวกับค่าเช่าทรัพย์สินที่ขายฝาก ถ้ามิได้จดแจ้งลงไว้ในสัญญาขายฝากเป็นอย่างอื่น คู่สัญญาย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลถึงข้อตกลงในเรื่องนี้ได้ เพราะค่าเช่าซึ่งเป็นดอกผลของทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นเงินต่างก้อนกับสินไถ่ซึ่งเป็นราคาไถ่ถอนที่ดินขายฝาก การนำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับค่าเช่าระหว่างกำหนดเวลาขายฝาก จึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาขายฝากอันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1083/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเช่าที่ดินขายฝากเป็นสิทธิแยกต่างหากจากสินไถ่ โจทก์มีสิทธิพิสูจน์ข้อตกลงได้โดยไม่ต้องห้ามตามมาตรา 94
ข้อตกลงของคู่สัญญาขายฝากเกี่ยวกับค่าเช่าทรัพย์สินที่ขายฝากถ้ามิได้จดแจ้งลงไว้ในสัญญาขายฝากเป็นอย่างอื่น คู่สัญญาย่อมมีสิทธินำสืบพยานบุคคลถึงข้อตกลงในเรื่องนี้ได้ เพราะค่าเช่าซึ่งเป็นดอกผลของทรัพย์สินที่ขายฝากเป็นเงินต่างก้อนกับสินไถ่ซึ่งเป็นราคาไถ่ถอนที่ดินขายฝาก การนำสืบถึงข้อตกลงเกี่ยวกับค่าเช่าระหว่างกำหนดเวลาขายฝาก จึงไม่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขสัญญาขายฝากอันจะเป็นการต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกยิงก่อน การใช้กำลังป้องกันต้องสมเหตุสมผล
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัดกระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ที เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1036/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการถูกทำร้ายด้วยอาวุธปืนและการใช้กำลังตอบโต้
ผู้ตายกับพวกลักโคของนายแดงพ่อตาจำเลย แล้วพาไปในเวลากลางคืน พอติดตามทันผู้ตายได้ใช้ปืนยิงจำเลยก่อน 1 นัด กระสุนปืนไม่ถูกจำเลย ดังนี้ การที่จำเลยได้ใช้มีดพร้าบ้องฟันผู้ตายในเวลาเดียวซ้ำถึง 4 ปี เป็นบาดแผลถึง 5 แห่ง บาดแผลบางแห่งถูกอวัยวะสำคัญ ทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายทันที จึงเป็นการกระทำเพื่อป้องกันเกิดสมควรแก่เหตุ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสละประเด็นต่อศาล: ผลผูกมัดคู่ความ & ศาลมีอำนาจวินิจฉัยตามตกลง
ในรายงานกระบวนพิจารณามีข้อความว่า คู่ความจะหาทางตกลงปรองดองในระหว่างกันเองก่อน แล้วจะแถลงให้ศาลทราบภายในวันที่ระบุไว้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่แถลงให้ศาลทราบให้ศาลกำหนดเงินจำนวนหนึ่งขึ้นตามที่ศาลเห็นสมควรเพื่อให้เป็นการช่วยเหลือโดยจำเลยตกลงชำระตามที่ศาลกำหนด และโจทก์ก็พอใจตามนั้นไม่ติดใจดำเนินคดีกันต่อไป ข้อตกลงข้างต้นนี้เป็นการสละประเด็นตามฟ้องและตามคำให้การของคู่กรณี โดยต่างสละข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นอื่นสิ้นเชิง เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินที่จะให้จำเลยชำระแก่โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลผูกมัดโจทก์จำเลยดังนั้นคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาขอยกเลิกเพิกถอนข้อตกลง โดยจะขอให้สืบพยานต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามรูปคดีย่อมไม่อาจกระทำได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 984/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงสละประเด็นต่อศาล: ผลผูกพันและขอบเขตการเปลี่ยนแปลง
ในรายงานกระบวนพิจารณามีข้อความว่า คู่ความจะหาทางตกลงปรองดองในระหว่างกันเองก่อน แล้วจะแถลงให้ศาลทราบภายในวันที่ระบุไว้ ถ้าตกลงกันไม่ได้ หรือไม่แถลงให้ศาลทราบให้ศาลกำหนดเงินจำนวนหนึ่งขึ้นตามที่ศาลเห็นสมควร เพื่อให้เป็นการช่วยเหลือโดยจำเลยตกลงชำระตามที่ศาลกำหนด และโจทก์ก็พอใจตามนั้นไม่ติดใจดำเนินคดีกันต่อไป ข้อตกลงข้างต้นนี้เป็นการสละประเด็นตามฟ้องและตามคำให้การของคู่กรณี โดยต่างสละข้ออ้างข้อเถียงในประเด็นอื่นสิ้นเชิง เพื่อให้ศาลใช้ดุลพินิจกำหนดจำนวนเงินที่จะให้จำเลยชำระแก่โจทก์ ข้อตกลงดังกล่าวย่อมมีผลผูกมัดโจทก์จำเลยดังนั้นคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดจะมาขอยกเลิกเพิกถอนข้อตกลงโดยจะขอให้สืบพยานต่อไป แล้วให้ศาลพิพากษาไปตามรูปคดีย่อมไม่อาจกระทำได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
แม้ในรายงานกระบวนพิจารณาจะใช้ถ้อยคำเกี่ยวกับจำนวนเงินที่ศาลกำหนดว่าเพื่อเป็นการช่วยเหลือโจทก์ และมิได้ระบุเป็นเงินค่าเสียหายก็ตาม แต่ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจกันในระหว่างคู่ความแล้วว่าเป็นจำนวนเงินค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์เรียกร้องมาตามฟ้องนั่นเองข้อตกลงดังกล่าวเป็นข้อตกลงที่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลย่อมมีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดไปตามที่คู่ความตกลงกันได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 948/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาไม่รับวินิจฉัยเนื่องจากจำเลยมิได้อุทธรณ์ประเด็นลดหนี้ และศาลอุทธรณ์พิพากษาให้จำเลยรับผิดน้อยลงแล้ว
เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้แก่โจทก์แล้ว โจทก์เป็นฝ่ายอุทธรณ์ให้จำเลยที่ 2 รับผิดเพิ่มขึ้นจากที่ศาลชั้นต้นพิพากษาส่วนจำเลยที่ 2 มิได้อุทธรณ์คดีแต่อย่างใด ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ตามที่โจทก์อุทธรณ์ขึ้นมาฝ่ายเดียวนั้น ศาลอุทธรณ์ก็ได้พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ 2 รับผิดน้อยลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำดังนี้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิฎีกาขอลดจำนวนเงินที่จะต้องรับผิดให้น้อยลงไปอีกได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในชั้นอุทธรณ์ ทั้งไม่ใช่ปัญหาอันเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชนศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย