คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสาท สุคนธมาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 261 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1175/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจจัดการสิทธิการเช่าของสามีตามกฎหมาย และหน้าที่ชำระค่าเช่าของผู้เช่า
สามีมีอำนาจที่จะเอาตึกแถวซึ่งภริยาเช่าไปให้ผู้อื่นเช่าได้เพราะสิทธิตามสัญญาเช่าเป็นทรัพย์สินซึ่งสามีมีอำนาจจัดการได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1468 โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจะได้มีการเช่าช่วงระหว่างสามีภริยากันหรือไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1094-1095/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ที่ดินเพื่อประโยชน์ในคดีแพ่ง
คดีแพ่งซึ่งจำเลยฟ้องขอบังคับให้โจทก์โอนที่ดินที่จำเลยให้โจทก์ทำกินคืนแก่จำเลย มีประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาว่า โจทก์ได้อาศัยนาพิพาทของจำเลยทำกินหรือไม่ เมื่อจำเลยเจตนาเบิกความเท็จว่าโจทก์อาศัยนาพิพาทของจำเลยทำกินหาใช่เป็นเจ้าของไม่ จึงเป็นการเบิกความเท็จในข้อสำคัญในคดี จำเลยมีความผิดตามมาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในค่าเช่าเมื่อฟ้องเพิกถอนการให้ขาดเจตนา: การคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างโดยขาดเจตนา ย่อมขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา โดยให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวพิพาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเสร็จคดีมาวางศาลได้ เพราะถ้าศาลพิพากษาให้เพิกถอน โจทก์ย่อมมีสิทธิในเงินค่าเช่าห้องแถวนับแต่วันจดทะเบียนสัญญาให้ มิใช่ตั้งแต่วันศาลพิพากษาให้เพิกถอนดังฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 940/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในค่าเช่าเมื่อฟ้องเพิกถอนการให้ขาดเจตนา ศาลคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณา
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการให้โดยอ้างว่าได้จดทะเบียนโอนที่ดินพิพาทและสิ่งปลูกสร้างโดยขาดเจตนา ย่อมขอให้ศาลสั่งกำหนดวิธีการคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณา โดยให้จำเลยนำเงินค่าเช่าห้องแถวพิพาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะเสร็จคดีมาวางศาลได้ เพราะถ้าศาลพิพากษาให้เพิกถอน โจทก์ย่อมมีสิทธิในเงินค่าเช่าห้องแถวนับแต่วันจดทะเบียนสัญญาให้ มิใช่ตั้งแต่วันศาลพิพากษาให้เพิกถอนดังฟ้องขอให้เพิกถอนการให้ เพราะเหตุผู้รับประพฤติเนรคุณ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 892/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาของผู้เสียหายที่ได้รับกระทบจากคำเบิกความเท็จ ซึ่งเชื่อมโยงกับคดีแพ่งเรียกค่าเสียหาย
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยเบิกความเท็จในคดีอาญาที่พนักงานอัยการเป็นโจทก์ฟ้อง ป.ในข้อหาฐานขับรถยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายว่า ป. ขับรถยนต์มาด้วยความเร็วปกติและได้ลดความเร็วลงเมื่อถึงทางโค้ง พอรถแฉลบผู้ตายสะดุ้งตื่นร้องโวยวาย และคว้ามือ ป. เป็นเหตุให้รถแฉลบจากถนนพลิกคว่ำ ผู้ร้องยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมอ้างว่าเป็นบุตรผู้ตาย ได้ยื่นฟ้องป. เป็นคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหายเนื่องจาก ป. ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้มารดาผู้ร้องถึงแก่ความตาย และได้เข้าเป็นโจทก์ร่วมในคดีอาญาที่ ป.เป็นจำเลยดังกล่าวเช่นนี้ ผู้ร้องเป็นผู้เสียหายในคดีนี้โดยตรงและมีสิทธิยื่นคำร้องขอเข้าเป็นโจทก์ร่วมได้ เพราะผู้ร้องเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าว และคำเบิกความเท็จในข้อสำคัญของจำเลยนี้ในคดีอาญาดังกล่าว ย่อมกระทบกระเทือนถึงผลของคดีแพ่งที่ผู้ร้องเป็นโจทก์ฟ้องป. โดยศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคดีอาญาดังกล่าวนั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 846/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม ละเมิดจากกระบือขาดรายละเอียดจำเลยแต่ละคน
โจทก์ฟ้องให้จำเลยทั้ง 16 คนรับผิดชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์เป็นเงินรวมกัน โดยไม่ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยร่วมกันกระทำละเมิดต่อโจทก์ และตามฟ้องก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยคนใดควบคุมกระบือของตนเองหรือควบคุมแทนผู้ใด และไม่ได้บรรยายให้ชัดแจ้งว่ากระบือของผู้ใดทำความเสียหายให้แก่โจทก์มากน้อยเพียงใด จึงเป็นฟ้องเคลือบคลุม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้ไม่ได้จดทะเบียนก็สมบูรณ์ บังคับได้ อายุความฟ้องร้อง 10 ปี
บ.โจทก์ในคดีหนึ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยโจทก์ร้องขัดทรัพย์แล้วได้มีการประนีประนอมยอมความกันโดยโจทก์ยอมให้เงิน บ. 5,000 บาท บ. ยอมถอนการยึดทรัพย์และจำเลยยอมยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างบุคคลสามฝ่าย มิใช่สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์โดยเสน่หา แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์บังคับได้
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมดก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้นอันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่าก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 795/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความเป็นสัญญาต่างตอบแทน แม้มิได้จดทะเบียนก็สมบูรณ์ บังคับได้ อายุความ 10 ปี
บ.โจทก์ในคดีหนึ่งนำเจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์จำเลยโจทก์ร้องขัดทรัพย์แล้วได้มีการประนีประนอมยอมความกัน โดยโจทก์ยอมให้เงิน บ. 5,000 บาท บ. ยอมถอนการยึดทรัพย์และจำเลยยอมยกที่ดินพิพาทให้โจทก์ สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์จึงเป็นสัญญาต่างตอบแทน เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างบุคคลสามฝ่าย มิใช่สัญญาที่จำเลยยกที่ดินพิพาทให้โจทก์โดยเสน่หา แม้มิได้จดทะเบียนต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นสัญญาที่สมบูรณ์บังคับได้
เมื่อสัญญายกที่ดินพิพาทให้โจทก์เป็นสัญญาต่างตอบแทนจำเลยย่อมไม่มีสิทธิบอกเลิกสัญญา นอกจากโจทก์ยินยอมด้วยหรือโจทก์ผิดสัญญาหรือมีเหตุอื่นที่กฎหมายให้อำนาจจำเลยบอกเลิกได้ แม้โจทก์จะเกี่ยงให้จำเลยเป็นผู้เสียค่าธรรมเนียมในการโอนที่ดินทั้งหมด ก็ไม่ทำให้จำเลยมีสิทธิบอกเลิกสัญญา เมื่อจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญาโจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะบังคับให้จำเลยปฏิบัติตามสัญญาต่างตอบแทนนั้น อันมีอายุความฟ้องร้อง 10 ปี แม้ที่ดินพิพาทจะเป็นที่ดินมือเปล่า ก็ไม่ทำให้กำหนดอายุความในกรณีนี้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมิใช่กรณีแย่งการครอบครอง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชดใช้ค่าเสียหายจากการรื้อถอนทรัพย์สินเช่าหลังคำพิพากษาถึงที่สุด แม้การปฏิบัติตามคำพิพากษาจะไม่เป็นละเมิด แต่หากทำให้การชำระหนี้ตามสัญญาเป็นไปไม่ได้ ผู้ให้เช่ายังต้องรับผิด
เดิมจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ออกจากตึกที่ให้โจทก์เช่าศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาว่าสัญญาเช่าไม่สมบูรณ์ให้ขับไล่โจทก์ โจทก์ไม่ได้รับอนุญาตให้ทุเลาการบังคับคดีต่อมาศาลฎีกาพิพากษาว่าสัญญาเช่าสมบูรณ์ แต่โจทก์เข้าครอบครองตึกที่เช่าไม่ได้ เพราะจำเลยได้รื้อเสียแล้วเช่นนี้ จำเลยต้องรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ เพราะการชำระหนี้ตามสัญญาเช่าเป็นอันพ้นวิสัย
จำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ออกจากทรัพย์ที่ให้โจทก์เช่า และเรียกค่าเช่ากับค่าเสียหาย ศาลพิพากษาถึงที่สุด ให้ยกคำขอในฟ้องของจำเลยที่ให้ขับไล่โจทก์และให้โจทก์ใช้ค่าเสียหาย โจทก์มาฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยปฏิบัติผิดสัญญาเช่า ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากทรัพย์ที่เช่าในระหว่างเป็นความกันในคดีก่อนได้ ไม่เป็นฟ้องซ้ำ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 783/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนทรัพย์สินเช่าหลังศาลฎีกายืนสิทธิเช่า ผู้ให้เช่าต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหาย
เดิมจำเลยในคดีนี้เป็นโจทก์ฟ้องขับไล่โจทก์ในคดีนี้ให้ออกจากตึก ศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษาให้ขับไล่โจทก์ และศาลฎีกาไม่อนุญาตให้ทุเลาการบังคับ จำเลยได้รื้อสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด และทำการปลูกสร้างใหม่ ต่อมาศาลฎีกาพิพากษากลับคำพิพากษาศาลล่างว่า โจทก์มีสิทธิตามสัญญาเช่า โจทก์ย่อมมีสิทธิที่จะแสวงหาผลประโยชน์จากสัญญาเช่านั้นได้โดยการเข้าครอบครองใช้สิทธิในทรัพย์ที่เช่า หรือให้เช่าช่วง การที่โจทก์ไม่สามารถหาประโยชน์จากทรัพย์ที่เช่าได้ เพราะดำเลยได้รื้อถอนเสียแล้ว เช่นนี้โจทก์ย่อมฟ้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้โจทก์ เพราะการชำระหนี้ตามคำพิพากษาเป็นการพ้นวิสัย โดยที่จำเลยในฐานะผู้ให้เช่าไม่สามารถส่งมอบทรัพย์ที่เช่าให้แก่ผู้เช่าคือโจทก์ได้ และการฟ้องร้องในกรณีเป็นเรื่องฟ้องร้องโดยอาศัยมูลสัญญา หาใช่มูลละเมิดไม่
คดีก่อนก่อนจำเลยฟ้องขับไล่โจทก์ออกจากตึกและเรียกค่าเช่าที่ค้างกับค่าเสียหาย คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกค่าเสียหายเนื่องจากจำเลยปฏิบัติผิดสัญญาเช่า ทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่ควรจะได้จากการให้เช่าช่วงทรัพย์ที่เช่า ประเด็นแห่งคดีที่จะต้องวินิจฉัยเป็นคนละประเด็นกัน ฟ้องโจทก์จึงไม่เป็นฟ้องซ้ำ
of 27