คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประสาท สุคนธมาน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 261 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่เพื่อป้องกันทรัพย์สิน ไม่เจตนาฆ่า และไม่ถือเป็นการยิงปืนโดยใช่เหตุ
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้เสียหายได้กระโดดลงจาก เรือนจำเลยแล้ววิ่งหนีไป จำเลยสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายที่ เข้ามา ขโมยสัตว์เลี้ยงที่ใต้ถุนบ้าน จึงยิงปืนขู่ไป๑ นัด เช่นนี้ ไม่ถือว่า จำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย และการกระทำของจำเลยก็มิใช่การ ยิงปืนโดยใช่เหตุในหมู่บ้าน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๗๖

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2842/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยิงปืนขู่ป้องกันทรัพย์สิน ไม่เข้าข่ายเจตนาฆ่า หรือยิงปืนโดยใช่เหตุ
ขณะเกิดเหตุเป็นเวลากลางคืน ผู้เสียหายได้กระโดดลงจากเรือนจำเลยแล้ววิ่งหนีไป จำเลยสงสัยว่าจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาขโมยสัตว์เลี้ยงที่ใต้ถุนบ้าน จึงยิงปืนขู่ไป1 นัด เช่นนี้ ไม่ถือว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย และการกระทำของจำเลยก็มิใช่การยิงปืนโดยใช่เหตุในหมู่บ้าน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 376

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับสัญญาประกัน: ศาลพิจารณาความเสียหายต่อความยุติธรรมและเจตนาของผู้ประกัน
ค่าปรับที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันนั้นมีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การที่จะลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนลงมาเป็นจำนวนพอสมควรเท่าใดนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ก็ดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ก็ดีศาลย่อมต้องพิเคราะห์ถึงทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สินแต่อย่างเดียวเท่านั้น
ในคดีอาญาที่จำเลยมีประกันตัวไปในระหว่างพิจารณา ต่อมานายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามนัด ทำให้ไม่ได้ตัวจำเลยมาทำการพิจารณาพิพากษา ย่อมทำให้เสียหายแก่ความยุติธรรมไม่ว่าจำเลยจะเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ก็ตาม และจะเป็นช่องทางให้จำเลยคดีอื่นใดกระทำเช่นคดีนี้บ้างความสงบเรียบร้อยก็จะหาได้ยาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2778/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบี้ยปรับนายประกัน: ศาลพิจารณาความเสียหายต่อความยุติธรรมและเจตนาสมัครใจของนายประกันประกอบการลดค่าปรับ
ค่าปรับที่ศาลสั่งปรับนายประกันตามสัญญาประกันนั้น มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ การที่จะลดเบี้ยปรับที่สูงเกินส่วนลงมาเป็นจำนวนพอสมควรเท่าใดนั้น ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 119 ก็ดีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 383 ก็ดีศาลย่อมต้องพิเคราะห์ถึงทางได้เสียทุกอย่างอันชอบด้วยกฎหมายไม่ใช่แต่เพียงทางได้เสียในเชิงทรัพย์สินแต่อย่างเดียวเท่านั้น
ในคดีอาญาที่จำเลยมีประกันตัวไปในระหว่างพิจารณา ต่อมานายประกันไม่นำตัวจำเลยมาส่งศาลตามนัด ทำให้ไม่ได้ตัวจำเลยมาทำการพิจารณาพิพากษา ย่อมทำให้เสียหายแก่ความยุติธรรมไม่ว่าจำเลยจะเป็นผู้กระทำผิดหรือไม่ก็ตาม และจะเป็นช่องทางให้จำเลยคดีอื่นใดกระทำเช่นคดีนี้บ้างความสงบเรียบร้อยก็จะหาได้ยาก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชำระหนี้ตามคำพิพากษาและการเพิกถอนการยึดทรัพย์: หลักฐานการชำระหนี้ต้องเป็นการวางเงินต่อศาลหรือเจ้าพนักงานบังคับคดี
โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม จำเลยอ้างส่งใบรับเงินและว่าได้ชำระหนี้ให้โจทก์ไปตามที่มีการตกลงกันนอกศาล โดยโจทก์ลดจำนวนหนี้ให้ด้วย เมื่อโจทก์ปฏิเสธและต่อสู้ว่าเป็นลายเซ็นชื่อโจทก์ผู้รับเงินปลอม กรณีย่อมไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ซึ่งบัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดี. ศาลจึงจะมีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์หาได้ไม่ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยถึงใบรับเงินและการชำระหนี้ของจำเลย. ซึ่งจะเป็นประการใดก็เป็นเรื่องของจำเลยจะไปว่ากล่าวกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2725/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีและการชำระหนี้นอกศาล: ศาลไม่เพิกถอนยึดทรัพย์หากเจ้าหนี้ปฏิเสธการรับชำระหนี้
โจทก์นำยึดทรัพย์ของจำเลยเพื่อบังคับชำระหนี้ตามคำพิพากษาตามยอม จำเลยอ้างส่งใบรับเงินและว่าได้ชำระหนี้ให้โจทก์ไปตามที่มีการตกลงกันนอกศาล โดยโจทก์ลดจำนวนหนี้ให้ด้วย เมื่อโจทก์ปฏิเสธและต่อสู้ว่าเป็นลายเซ็นชื่อโจทก์ผู้รับเงินปลอม กรณีย่อมไม่ตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 295 ซึ่งบัญญัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีถอนการบังคับคดี ศาลจึงจะมีคำสั่งเพิกถอนการยึดทรัพย์หาได้ไม่ กรณีไม่จำต้องวินิจฉัยถึงใบรับเงินและการชำระหนี้ของจำเลย ซึ่งจะเป็นประการใดก็เป็นเรื่องของจำเลยจะไปว่ากล่าวกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2631-2632/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ เรียกรับเงินเพื่อออกบัตรประชาชน และความผิดของพนักงานฝ่ายปกครอง
กำนัน ปลัดอำเภอ เป็นพนักงานฝ่ายปกครอง มีหน้าที่สืบสวนจับกุมผู้กระทำผิดเสมียนปกครองไม่ใช่พนักงานฝ่ายปกครองไม่มีหน้าที่จับผู้กระทำผิด
จำเลยทั้งสามเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ทำบัตรประจำตัวให้ประชาชนได้ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบเรียก และรับเงินจากราษฎรผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัติบัตรประชาชน พ.ศ. 2505 เพื่อจะได้ทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ และทั้งนี้เพื่อช่วยให้ราษฎรผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินั้นไม่ต้องรับโทษด้วยจำเลยทั้งสามมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149จำเลยที่เป็นกำนันและปลัดอำเภอเป็นพนักงานฝ่ายปกครองมีหน้าที่สืบสวนมีความผิดตามมาตรา 200 ด้วย ส่วนเสมียนปกครองเป็นผู้สนับสนุนตามมาตรา 200 ประกอบด้วย มาตรา 86

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2528/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยมีด: พยายามฆ่า vs. ทำร้ายร่างกาย
จำเลยถือด้ามมีดทั้งสองมือ เหวี่ยงฟันผู้เสียหาย 2ครั้งติด ๆ กัน ถูกที่บริเวณศีรษะซึ่งเป็นที่สำคัญ มีบาดแผล 3 แห่งคือ ที่ข้างศีรษะขวาเหนือหูยาวประมาณ 7 เซนติเมตร ลึกจดกระดูกศีรษะ เย็บ 8 เข็ม ที่ข้างใบหูขวา ยาวประมาณ 6 เซนติเมตรลึกจดกระดูกศีรษะเย็บ 7 เข็ม และที่ใบหูขวาขาด ยาวประมาณ 4 เซนติเมตร เย็บ 8 เข็ม ลักษณะและขนาดของมีดที่ใช้ฟันเฉพาะตัวมีดยาว 36 เซนติเมตร ด้ามยาว 19 เซนติเมตร ปลายมีดเป็นรูปหัวตัดกว้างประมาณ 8 เซนติเมตร. ดังนี้ ต้องถือว่าจำเลยกระทำโดยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย แต่ผู้เสียหายไม่ตายสมเจตนาจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่น หาใช่เป็นความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2520/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เบิกความเท็จในชั้นไต่สวนคนอนาถา ไม่ถึงขั้นผิดอาญา หากมีการอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์
การที่จำเลยเบิกความในชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องอย่างคนอนาถาในคดีแพ่งที่จำเลยได้เป็นโจทก์ฟ้องว่า ได้ซื้อที่ดินพิพาทซึ่งเป็นข้อความอันเป็นเท็จก็ตาม แต่จำเลยก็อ้างด้วยว่าได้เข้าครอบครองที่ดินนั้นเป็นปรปักษ์มาเกินกว่า 10 ปีอยู่ด้วย ดังนั้น การที่จำเลยจะได้เข้ามาอยู่ในที่พิพาทโดยซื้อ หรือโดยวิธีอื่นใด เป็นแต่เพียงเหตุเบื้องต้นอันไม่ใช่ข้อสำคัญในข้อมูลคดีชั้นไต่สวนคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถาเลย จำเลยย่อมไม่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2510/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีตามสัญญาประนีประนอม การร้องขอขัดขวางสิทธิในที่ดินและบ้านที่ไม่ระบุในสัญญา
ตามสัญญาประนีประนอมยอมความระหว่างโจทก์กับจำเลยทั้งสามซึ่งศาลได้พิพากษาตามยอมไปแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีบ้านของจำเลยที่ 2 ปลูกอยู่ในที่ดินที่ตกลงแบ่งให้จำเลยที่ 3 และมีข้อตกลงให้จำเลยที่ 2 รื้อไปได้ การที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำร้องอ้างว่ามีบ้านของตนอยู่ในที่ดินนั้นและจะรื้อไป แต่จำเลยที่ 3 ขัดขวาง จึงขอให้ศาล ห้ามนั้น เป็นการร้องขอนอกเหนือจากสัญญาประนีประนอมยอมความ หากจำเลยที่ 2 จะมีสิทธิในบ้านดังกล่าวประการใด และจำเลยที่ 3 กระทำการขัดขวางอันเป็นการโต้แย้งสิทธิ จำเลยที่ 2 ก็ชอบที่จะต้องฟ้องร้องเป็นคดีใหม่จะร้องขอให้ศาลบังคับในคดีเดิมหาได้ไม่
of 27