คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวัสดิ์ ภู่งาม

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 342 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมมรดกและการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินรวม เจ้าของร่วมไม่มีอำนาจขัดทรัพย์
ผู้ตายถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกสวนของตนให้แก่ผู้ใดไว้ สวนจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน
ครอบครัวของจำเลยอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับผู้ร้อง จำเลยแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีส่วนเป็นเจ้าของสวนยางพารารายนี้เช่น เป็นผู้นำสำรวจที่ดินสวนยางพารานี้เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่ และเป็นผู้ไปเสียภาษีบำรุงท้องที่เอง ทั้งได้ไปแจ้งใบสุทธิยางผู้ร้องรับว่าสวนยางพารายังมิได้แบ่งปันกันในระหว่างทายาท ฉะนั้น จำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยผู้หนึ่ง จึงมีสิทธิเป็นเจ้าของสวนยางพารารวมอยู่ด้วย
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษา จึงมีสิทธิที่จะยึดสวนยางพาราซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของรวมบางส่วนเพื่อบังคับชำระหนี้ได้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์มีสิทธิจะยึดที่ดินแปลงใดของจำเลยตามคำพิพากษามาบังคับชำระหนี้ก็ได้เพราะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยสิ้นเชิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1090/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเจ้าของร่วมมรดกและการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์สินร่วม ศาลยืนยึดสิทธิเจ้าหนี้
ผู้ตายถึงแก่กรรมโดยมิได้ทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกสวนของตนให้แก่ผู้ใดไว้ สวนจึงเป็นมรดกตกทอดแก่ทายาทโดยธรรมทุกคน
ครอบครัวของจำเลยอยู่ร่วมเรือนเดียวกันกับผู้ร้อง จำเลยแสดงให้เห็นถึงการเป็นผู้มีส่วนเป็นเจ้าของสวนยางพารารายนี้เช่น เป็นผู้นำสำรวจที่ดินสวนยางพารานี้เพื่อเสียภาษีบำรุงท้องที่และเป็นผู้ไปเสียภาษีบำรุงท้องที่เอง ทั้งได้ไปแจ้งใบสุทธิยางผู้ร้องรับว่าสวนยางพารายังมิได้แบ่งปันกันในระหว่างทายาท ฉะนั้นจำเลยซึ่งเป็นทายาทด้วยผู้หนึ่ง จึงมีสิทธิเป็นเจ้าของสวนยางพารารวมอยู่ด้วย
โจทก์เป็นเจ้าหนี้จำเลยตามคำพิพากษา จึงมีสิทธิที่จะยึดสวนยางพาราซึ่งจำเลยเป็นเจ้าของรวมบางส่วนเพื่อบังคับชำระหนี้ได้
ผู้ร้องขัดทรัพย์ซึ่งเป็นเจ้าของร่วมกันไม่มีอำนาจร้องขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด
โจทก์มีสิทธิจะยึดที่ดินแปลงใดของจำเลยตามคำพิพากษามาบังคับชำระหนี้ก็ได้เพราะโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้มีสิทธิที่จะให้ชำระหนี้ของตนจากทรัพย์สินของจำเลยซึ่งเป็นลูกหนี้โดยสิ้นเชิง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณสมบัติโดยไม่สุจริต โจทก์มีสิทธิขับไล่และรื้อถอนได้
จำเลยสร้างโรงเรือนลงในที่ดินราชพัสดุอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่มีสิทธิถึงหากจะเป็นการสร้างโดยสุจริต กรณีก็ไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1159/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1089/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณสมบัติโดยไม่สุจริต โจทก์มีสิทธิขับไล่และรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างได้
จำเลยสร้างโรงเรือนลงในที่ดินราชพัสดุอันเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินโดยไม่มีสิทธิถึงหากจะเป็นการสร้างโดยสุจริต กรณีก็ไม่ต้องด้วยมาตรา 1310 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์จะนำมาตราดังกล่าวมาใช้บังคับหาได้ไม่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 1159/2511)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอม: การฟ้องร้องไม่สมบูรณ์เมื่อรั้วปิดกั้นอยู่บนที่ดินของโจทก์เอง
ลักษณะสำคัญของภารจำยอม คือ ต้องมีอสังหาริมทรัพย์อย่างน้อยสองอสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์หนึ่งต้องตกอยู่ในภาระรับกรรมบางอย่างหรือต้องงดเว้นการใช้สิทธิบางอย่างเพื่อประโยชน์แก่อีกอสังหาริมทรัพย์หนึ่ง อสังหาริมทรัพย์ที่ต้องตกอยู่ในภาระรับกรรมนั้นเรียก'ภารยทรัพย์' และที่มีสิทธิเหนือภารยทรัพย์นั้นเรียก 'สามยทรัพย์'
โจทก์ฟ้องอ้างสิทธิภารจำยอมให้บังคับจำเลยเปิดทางเดินโดยอ้างว่าจำเลยล้อมรั้วปิดกั้นทางผ่านเข้าออกบนที่ดินของจำเลย แต่ตามแผนที่พิพาทที่โจทก์นำชี้กลับปรากฏว่ารั้วที่จำเลยปิดกั้นทางผ่านเข้าออกที่โจทก์ขอให้รื้อถอนนั้นอยู่ภายในเขตที่ดินของโจทก์เอง ดังนี้ เป็นเรื่องที่โจทก์จะต้องดำเนินการฟ้องร้องในฐานะเจ้าของกรรมสิทธิ์จะฟ้องอ้างสิทธิภารจำยอมให้จำเลยรื้อรั้วและจดทะเบียนทางเป็นภารจำยอมในที่ดินซึ่งโจทก์อ้างว่าเป็นของโจทก์หาได้ไม่ กรณีเช่นนี้ถือว่าโจทก์นำสืบได้ไม่สมสภาพข้อหาข้ออ้างในคำฟ้อง ศาลชอบที่จะยกฟ้องเสียได้
แม้จะปรากฏในแผนที่พิพาทว่าทางบางส่วนอยู่ในเขตที่ดินจำเลย แต่เป็นทางตอนปลายซึ่งจำเลยมิได้ทำรั้วปิดกั้น เมื่อทางตอนต้นทางซึ่งจำเลยปิดกั้นรั้ว โจทก์ไม่อาจขอให้บังคับ จำเลยเปิดในฐานะเป็นทางภารจำยอมได้ในคดีนี้ย่อมไม่มีประโยชน์ที่ศาลจะวินิจฉัยเฉพาะทางตอนปลายเพราะถึงอย่างไรโจทก์ก็ยังไม่อาจใช้ทางผ่านเข้าออกได้ศาลย่อมยกฟ้องได้ทั้งหมด แต่ไม่ตัดสิทธิโจทก์ที่จะฟ้องใหม่เกี่ยวกับทางนี้ตามที่ถูกต้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การซื้อขายทรัพย์สินที่ถูกลักมา ผู้ขายต้องคืนเงินให้ผู้ซื้อเมื่อทรัพย์สินหลุดไปเนื่องจากสิทธิของเจ้าของเดิม
ปากกาหมึกซึมเป็นของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา ซึ่งถูกคนร้ายลักไปจากโกดังเก็บสินค้าที่สนามบิน จำเลยรับซื้อปากกาเหล่านั้นไว้โดยรู้ว่าเป็นของไม่บริสุทธิ์แล้วเอามาขายให้โจทก์ซึ่งรับซื้อไว้โดยสุจริตภายหลังตำรวจมายึดเอาปากกาไปจากโจทก์แล้วคืนให้เจ้าของไปตามคำพิพากษาของศาล ถือว่าทรัพย์สินที่ซื้อขายกันหลุดไปจากโจทก์เพราะเหตุแห่งการรอนสิทธิ จำเลยผู้ขายต้องคืนเงินค่าปากกาให้โจทก์ผู้ซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771-777/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาเบิกความเท็จ: จำเลยต้องรู้ว่าข้อความที่เบิกเป็นเท็จจึงจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
การเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177แม้จะไม่ได้บัญญัติว่า ผู้เบิกความจะต้องรู้ถึงความจริงเท็จแห่งข้อความที่ตนเบิกนั้นไว้ด้วยก็ตาม แต่การที่จะเป็นความผิดตามมาตรานี้ ผู้กระทำผิดก็จะต้องกระทำโดยเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 771-777/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาในการเบิกความเท็จ: ผู้เบิกความต้องรู้ข้อเท็จจริงเป็นเท็จหรือไม่?
การเบิกความเท็จตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177แม้จะไม่ได้บัญญัติว่า ผู้เบิกความจะต้องรู้ถึงความจริงเท็จแห่งข้อความที่ตนเบิกนั้นไว้ด้วยก็ตาม แต่การที่จะเป็นความผิดตามมาตรานี้ ผู้กระทำผิดก็จะต้องกระทำโดยเจตนาคือรู้อยู่แล้วว่าข้อความที่ตนนำมาเบิกความนั้นเป็นเท็จ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 700/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาเช่าไม่มีหนังสือ สิทธิผู้เช่าและระยะเวลาบอกเลิกสัญญาเช่า
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งไม่มีหนังสือสัญญาเช่าเป็นหลักฐานผู้เช่าจะอ้างสิทธิตามข้อตกลงในการเช่าระหว่างโจทก์จำเลยขึ้นต่อสู้โจทก์หาได้ไม่
การเช่าซึ่งมีกำหนดชำระค่าเช่ากันเป็นรายปีนั้น การบอกเลิกการเช่าไม่จำต้องบอกกล่าวล่วงหน้ากว่า 2 เดือน
ถึงหากโจทก์จะบอกกล่าวเลิกการเช่าล่วงหน้าเพียง 45 วันก็ตาม แต่เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนั้นหลังจากที่จำเลยได้รับหนังสือบอกกล่าวเลิกการเช่าเกินกว่า 1 ปีแล้ว โจทก์ย่อมมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 467/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการใช้เงินกู้ - สัญญาซื้อขายที่ดินไม่ใช่หลักฐานการชำระหนี้กู้
หนี้ตามสัญญาเงินกู้ซึ่งแปลงมาจากหนี้ที่ค้างชำระราคาที่ดินที่ซื้อขายกันระหว่างโจทก์จำเลยนั้น จะนำสืบการใช้เงินได้ก็ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสือ ลงลายมือชื่อผู้ให้กู้มาแสดงว่าจำเลยได้ใช้เงินตามที่กู้แล้ว หรือได้มีการแทงเพิกถอนลงในสัญญากู้นั้น การที่โจทก์เซ็นในหนังสือสัญญาซื้อขาย (ที่ดินแปลงนั้น) ว่าได้รับเงินไปแล้วนั้น เป็นคนละเรื่องกับการกู้ยืมรายนี้ ยังไม่พอจะถือเป็นหลักฐานที่จำเลยได้คืนเงินกู้ให้โจทก์แล้ว
of 35