พบผลลัพธ์ทั้งหมด 267 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4403/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำให้เสียทรัพย์ - การกระทำโดยไม่มีเจตนาและไม่สามารถเล็งเห็นผลเสียหายได้
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 358ผู้กระทำต้องมีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหายจึงจะเป็นความผิด เมื่อจำเลยไม่มีเจตนาประสงค์ต่อผลที่จะทำให้รั้วเหล็กดัดของผู้เสียหายได้รับความเสียหาย และไม่อาจเล็งเห็นได้ว่าการเจาะรั้วคอนกรีตของจำเลยเพียงส่วนน้อยโดยใช้ไม้ค้ำยันจะทำให้รั้วเหล็กดัดของผู้เสียหายซึ่งตั้งอยู่บนรั้วคอนกรีตของจำเลยได้รับความเสียหายอย่างแน่นอนแล้ว จำเลยจึงมิได้มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของผู้อื่นเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2329/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบุกรุกและการทำให้เสียทรัพย์ในเคหสถาน การกระทำโดยไม่มีเหตุอันสมควรและความรับผิดทางอาญา
แม้จำเลยจะไปมาหาสู่ ด. ที่บ้านโจทก์ร่วมเป็นประจำ แต่จำเลยไม่เคยเข้าไปในห้องนอนของ ด. เลย การที่จำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.เพื่อตามหาด. ให้มาดื่มสุรากับตนโดยโจทก์ร่วมมิได้อนุญาตให้เข้าไป เป็นการเข้าไปโดยไม่มีเหตุอันสมควรอันเป็นการรบกวนการครอบครองบ้านของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข จำเลยมีความผิดฐานบุกรุก ข้อเท็จจริงได้ความว่าเมื่อจำเลยเข้าไปในห้องนอนของ ด.โจทก์ร่วมได้ปิดประตูห้องนอนไว้ เพื่อมิให้จำเลยออกมาเพราะจำเลยเมาสุราจำเลยได้ใช้เท้าถีบประตูห้องนอนจนบานประตูห้องนอนหลุดดังนี้นอกจากเป็นความผิดฐานบุกรุกกรรมหนึ่งแล้วยังผิดฐานทำให้เสียทรัพย์อีกกรรมหนึ่งด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาทำลายทรัพย์สิน: การวางยาเบื่อเป็ดของผู้เสียหายถือเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
การที่จำเลยนำข้าวผสมกับสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย จำเลยจึงมีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 358.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำให้เสียทรัพย์ด้วยการวางยาเป็ด: ศาลฎีกาพิพากษากลับให้ลงโทษฐานทำให้เสียทรัพย์
เช้าวันเกิดเหตุก่อนเป็ดของผู้เสียหายตาย จำเลยได้นำข้าวใส่กะละมัง ไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ และเป็ดของผู้เสียหายตายเพราะกินอาหารที่มีสารเคมีกำจัดแมลงผสมอยู่ แม้โจทก์จะไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยผสมสารเคมีกำจัดแมลงลงไปในข้าวและเป็ดของผู้เสียหายกินข้าวนั้น แต่การที่เป็ดของผู้เสียหายตายอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยหลังจากจำเลยนำข้าวไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ โดยตรวจพบข้าวและสารเคมีกำจัดแมลงในกะเพาะอาหารของเป็ดที่ตาย เป็นพฤติการณ์เชื่อมโยงให้รับฟังได้ว่า เป็ดตายเพราะกินข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงที่จำเลยวางไว้ และการที่จำเลยนำข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำแสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 358
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 463/2536 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำที่เชื่อมโยงถึงการทำให้เสียทรัพย์: เจตนาและพฤติการณ์
เช้าวันเกิดเหตุก่อนเป็ดของผู้เสียหายตาย จำเลยได้นำข้าวใส่กะละมังไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ และเป็ดของผู้เสียหายตายเพราะกินอาหารที่มีสารเคมีกำจัดแมลงผสมอยู่ แม้โจทก์จะไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยผสมสารเคมีกำจัดแมลงลงไปในข้าวและเป็ดของผู้เสียหายกินข้าวนั้น แต่การที่เป็ดของผู้เสียหายตายอยู่ในบริเวณบ้านของจำเลยหลังจากจำเลยนำข้าวไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ โดยตรวจพบข้าวและสารเคมีกำจัดแมลงในกระเพาะอาหารของเป็ดที่ตาย เป็นพฤติการณ์เชื่อมโยงให้รับฟังได้ว่า เป็ดตายเพราะกินข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงที่จำเลยวางไว้ และการที่จำเลยนำข้าวผสมสารเคมีกำจัดแมลงไปวางไว้ข้างสระน้ำที่เป็ดของผู้เสียหายมาเป็นประจำ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าเป็ดของผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตาม ป.อ.มาตรา 358
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2289/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิในที่ดินหลังเลิกสัญญาจะซื้อจะขาย การบุกรุกทำลายทรัพย์สินและการลักทรัพย์
จำเลยทั้งสองเข้าไปขุดดิน เกรดิน ขุดบ่อ และปั้นอิฐขายในที่ดินซึ่งเป็นของโจทก์ร่วมโดยที่จำเลยทั้งสองไม่มีสิทธิที่จะกระทำได้ จึงเป็นการร่วมกันเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์ร่วมโดยปกติสุข และร่วมกันทำที่ดินของโจทก์ร่วมเสียหายกับเอาที่ดินของโจทก์ร่วมไปโดยทุจริต เป็นความผิดฐานบุกรุก ทำให้เสียทรัพย์และลักทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2021/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ต้องมีพยานหลักฐานชัดเจนถึงการกระทำโดยตรงของจำเลย
โจทก์ไม่มีประจักษ์พยานรู้เห็นว่าจำเลยเป็นผู้ถอนทำลายต้นไม้อีกทั้งผู้เสียหายก็มิได้ไปดูแลที่ดินพิพาทเป็นประจำ และต้นไม้ที่ผู้เสียหายปลูกในที่ดินพิพาทเป็นต้นไม้ขนาดเล็ก อายุเพียง6 เดือน หากต้นไม้ดังกล่าวต้องตายเพราะขาดการดูแลรดน้ำก่อนจำเลยบุกรุกเข้าไปก็เป็นได้ พยานหลักฐานของโจทก์รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยเป็นผู้ถอนทำลายต้นไม้ที่ผู้เสียหายปลูกไว้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ของผู้ป่วยจิตเวช: ศาลพิจารณาความสามารถในการรับผิดชอบและลดโทษ
จำเลยป่วยเป็นโรคจิตได้บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยวิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในบ้านร้างแล้วจำเลยแกล้งยิงปืน 1 นัดและใช้เท้ากระทืบพื้น เป็นการลวงว่าจำเลยฆ่าตัวตายเพื่อให้พวกเจ้าพนักงานตำรวจขึ้นไปบนบ้าน จำเลยจะได้ยิงบุคคลเหล่านั้น แต่เมื่อผู้กำกับการตำรวจมาถึงจำเลยก็ยินยอมมอบตัวโดยดี ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและยังสามารถบังคับตนเองได้ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง สำหรับปัญหาว่า การที่จำเลยถืออาวุธปืนบังคับให้ผู้เสียหายเปิดประตูบ้านแล้วเข้าไปในบ้านกับผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ยิงผู้เสียหายทันที แต่เพิ่งยิงผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเข้าไปในห้องนอนกับจำเลยตามที่จำเลยต้องการ และกระสุนปืนถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายด้วย จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่าเจตนาของจำเลยที่บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้น จำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปยิงผู้เสียหายจึงเป็นความผิดสองกรรม แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย และกระสุนปืนยังไปถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายอันเป็นการทำให้เสียทรัพย์ด้วยนั้น จำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยฐานพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์นั้นเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 321/2535 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาความผิด การพยายามฆ่า และความเสียหายต่อทรัพย์สิน พิจารณาเป็นกรรมเดียวหรือหลายกรรม
จำเลยป่วยเป็นโรคจิตได้บุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหายและใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย จากนั้นจำเลยวิ่งหลบหนีการจับกุมของเจ้าพนักงานตำรวจเข้าไปในบ้านร้างแล้วจำเลยแกล้งยิงปืน 1 นัด และใช้เท้ากระทืบพื้น เป็นการลวงว่าจำเลยฆ่าตัวตายเพื่อให้พวกเจ้าพนักงานตำรวจขึ้นไปบนบ้าน จำเลยจะได้ยิงบุคคลเหล่านั้น แต่เมื่อผู้กำกับการตำรวจมาถึงจำเลยก็ยินยอมมอบตัวโดยดี ตามพฤติการณ์ดังกล่าวจำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและยังสามารถบังคับตนเองได้ ศาลจะลงโทษจำเลยน้อยกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นก็ได้ตาม ป.อ.มาตรา65 วรรคสอง
สำหรับปัญหาว่า การที่จำเลยถืออาวุธปืนบังคับให้ผู้เสียหายเปิดประตูบ้านแล้วเข้าไปในบ้านกับผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ยิงผู้เสียหายทันที แต่เพิ่งยิงผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเข้าไปในห้องนอนกับจำเลยตามที่จำเลยต้องการ และกระสุนปืนถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายด้วย จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่าเจตนาของจำเลยที่บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้น จำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปยิงผู้เสียหายจึงเป็นความผิดสองกรรม แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย และกระสุนปืนยังไปถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายอันเป็นการทำให้เสียทรัพย์ด้วยนั้น จำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยฐานพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์นั้นเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
สำหรับปัญหาว่า การที่จำเลยถืออาวุธปืนบังคับให้ผู้เสียหายเปิดประตูบ้านแล้วเข้าไปในบ้านกับผู้เสียหาย จำเลยไม่ได้ยิงผู้เสียหายทันที แต่เพิ่งยิงผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายไม่ยอมเข้าไปในห้องนอนกับจำเลยตามที่จำเลยต้องการ และกระสุนปืนถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายด้วย จะเป็นความผิดกรรมเดียวหรือหลายกรรมนั้น เห็นว่าเจตนาของจำเลยที่บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายนั้น จำเลยมิได้มีเจตนาแต่แรกที่จะเข้าไปยิงผู้เสียหายจึงเป็นความผิดสองกรรม แต่การที่จำเลยใช้อาวุธปืนยิงพยายามฆ่าผู้เสียหาย และกระสุนปืนยังไปถูกกระจกหน้าต่างและโต๊ะของผู้เสียหายอันเป็นการทำให้เสียทรัพย์ด้วยนั้น จำเลยมีเจตนายิงผู้เสียหายเป็นสำคัญ การกระทำของจำเลยฐานพยายามฆ่าและทำให้เสียทรัพย์นั้นเป็นกรรมเดียวกันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 15/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยานถูกบังคับให้การเท็จ คำให้การในชั้นศาลมีน้ำหนักกว่าคำรับสารภาพในชั้นจับกุมที่ไม่ได้รับการสนับสนุนด้วยหลักฐานอื่น
ส. พยานโจทก์เบิกความว่า พยานไม่ทราบว่าใครเป็นผู้กระทำผิดภรรยาของผู้เสียหายบังคับให้พยานไปให้การต่อพนักงานสอบสวนว่าพยานกับจำเลยเป็นผู้กระทำผิด พยานจึงให้การไปเช่นนั้น โดยพนักงานสอบสวนรับว่าจะกันพยานไว้เป็นพยาน ขณะเกิดเหตุพยานเป็นลูกจ้าง ผู้เสียหายและ ร. พี่สาวผู้เสียหายเป็นผู้พาพยานไปให้การต่อพนักงานสอบสวนจึงเป็นไปได้ว่าพยานอาจถูกบังคับให้ไปให้การจริง คำให้การของพยานในชั้นสอบสวนจึงไม่น่าเชื่อถือ ส่วนคำเบิกความในชั้นศาลนั้นพยานเบิกความหลังจากลาออกจากงานที่อู่ของผู้เสียหายแล้วฝ่ายผู้เสียหายจึงไม่อาจบังคับพยานได้อีกต่อไป น่าเชื่อว่าพยานได้เบิกความไปตามความจริง คำเบิกความของพยานจึงมีน้ำหนัก คำให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมของจำเลย เป็นเพียงพยานบอกเล่าเมื่อโจทก์ไม่มีพยานหลักฐานอื่นมาสนับสนุน ลำพังแต่เพียงคำให้การรับสารภาพดังกล่าว ไม่เพียงพอที่จะรับฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้กระทำผิดตามฟ้อง.