คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.อ. ม. 358

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 267 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5774/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำละเมิดในที่ดินโฉนด การกระทำตามคำสั่งชอบด้วยกฎหมาย และข้อยกเว้นความรับผิด
การที่จำเลยเข้าไปขุดลอกสระน้ำซึ่งอยู่ในเขตโฉนดที่ดินของโจทก์โดยเข้าใจว่าเป็นที่สาธารณประโยชน์ แม้จะไม่มีความผิดทางอาญา เนื่องจากขาดเจตนา แต่ขณะเกิดเหตุโจทก์ครอบครองทำประโยชน์อยู่ ทั้งโจทก์ได้ห้ามปรามและยังได้แจ้งให้เจ้าพนักงานตำรวจมาห้ามปรามแล้ว จำเลยก็ยังไม่ยอมหยุดกระทำการสูบน้ำและขุดดินในสระน้ำ ทำให้ทรัพย์สินของโจทก์ได้รับความเสียหายถือว่าเป็นการกระทำละเมิดต่อโจทก์
จำเลยที่ 7 เป็นลูกจ้างของกรมชลประทาน ได้ร่วมกระทำการกับจำเลยอื่นตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาโดยเข้าใจว่าเป็นการช่วยเหลือวัด ถือได้ว่ากระทำตามคำสั่งอันชอบด้วยกฎหมาย แม้การกระทำของจำเลยที่ 7 ทำให้โจทก์เสียหายจำเลยที่ 7 ก็ได้รับนิรโทษกรรมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 449 วรรคแรก จำเลยที่ 7 ไม่ต้องร่วมรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5451/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์ – การกระทำโดยสุจริตเชื่อว่ามีสิทธิ – ไม่เป็นความผิด
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายอำเภอใช้ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3 รื้อกระท่อมโจทก์ซึ่งปลูกในที่ดินของทางราชการและยังปลูกสร้างไม่เสร็จใช้พักอาศัยไม่ได้ แล้วนำมา กอง ไว้ข้างถนนเพื่อใช้ที่ดินปลูกสร้างศาลาเอนกประสงค์ให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน จำเลยทั้งสามกระทำไปด้วยความเชื่อ โดย สุจริตว่าตน มีสิทธิที่จะกระทำได้ หาใช่มีเจตนากระทำเพื่อให้ทรัพย์ของโจทก์เสียหายแต่อย่างใดไม่ การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5451/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำให้เสียทรัพย์: การรื้อกระท่อมเพื่อสร้างศาลาประโยชน์สาธารณะ ไม่ถือเป็นความผิด
จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นนายอำเภอใช้ให้จำเลยที่ 2 และที่ 3รื้อกระท่อมโจทก์ ซึ่งปลูกในที่ดินของทางราชการและยังปลูกสร้างไม่เสร็จใช้พักอาศัยไม่ได้แล้ว นำมากองไว้ข้างถนนเพื่อใช้ที่ดินปลูกสร้างศาลาเอนกประสงค์ให้ประชาชน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน จำเลยทั้งสามกระทำไปด้วยความเชื่อโดยสุจริตว่า ตนมีสิทธิที่จะกระทำได้ หาใช่มีเจตนากระทำเพื่อให้ ทรัพย์ของโจทก์ เสียหายแต่อย่างใดไม่ การกระทำของจำเลยทั้งสามจึงไม่เป็นความผิด ฐานทำให้เสียหายทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5310/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินสาธารณะและการทำให้เสียทรัพย์ แม้ที่ดินเป็นสาธารณะ แต่ผู้ครอบครองมีสิทธิเสียหายจากการถูกทำลายทรัพย์สินที่ปลูกไว้
แม้ที่ดินจะเป็นที่สาธารณะ แต่เมื่อโจทก์ร่วมเป็นผู้ครอบครองอยู่และได้ปลูกต้นมะม่วงไว้ การที่จำเลยตัดฟันต้นมะม่วงดังกล่าวโจทก์ร่วมย่อมได้รับความเสียหาย จึงมีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยฐานทำให้เสียทรัพย์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2856/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน - เมรุเผาศพสร้างเพื่อสาธารณประโยชน์ ไม่ทำให้กรรมสิทธิ์เปลี่ยนเป็นของแผ่นดิน
โจทก์บรรยายฟ้องไว้ว่าเมรุเผาศพเป็นของโจทก์แม้โจทก์จะบรรยายฟ้องต่อไปว่า เมรุเผาศพนี้สร้างไว้เพื่อสาธารณประโยชน์ให้ประชาชนใช้เผาศพร่วมกัน ก็เป็นการบรรยายให้เห็นว่าเมรุเผาศพของโจทก์นี้ใช้ประโยชน์อย่างไร หาทำให้เมรุเผาศพของโจทก์กลายเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินไม่โจทก์จึงเป็นผู้เสียหายและมีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องอาญาฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ ต้องระบุองค์ประกอบการกระทำความผิดชัดเจน มิฉะนั้นฟ้องไม่ชอบ
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านของโจทก์ โจทก์ห้ามปรามแล้วไม่ยอมเชื่อ ฟัง กลับร่วมกันตีไม้สำหรับทำนั่งร้านเพื่อทำงานของตน คร่อมเข้าไปในบริเวณหลังคาบ้านโจทก์โดยโจทก์มิได้บรรยายว่าเป็นการเข้าไปเพื่อยึดถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นหรือเข้าไปกระทำการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข อันเป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดฐานบุกรุกในข้อสาระสำคัญตาม ป.อ.มาตรา 362 ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยมาตรา 158(5) แห่ง ป.วิ.อ. ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์โดยเห็นว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาในข้อดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2098/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ จำเป็นต้องบรรยายองค์ประกอบความผิดชัดเจน
โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่า จำเลยกับพวกบุกรุกเข้าไปในบริเวณบ้านของโจทก์ โจทก์ห้ามปรามแล้วไม่ยอมเชื่อฟังกลับร่วมกันตีไม้สำหรับทำนั่งร้านเพื่อทำงานของตนคร่อมเข้าไปในบริเวณหลังคาบ้านโจทก์ โดยโจทก์มิได้บรรยายว่าเป็นการเข้าไปเพื่อยึดถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นหรือเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของโจทก์โดยปกติสุข อันเป็นองค์ประกอบของการกระทำความผิดฐานบุกรุกในข้อสาระสำคัญตาม ป.อ. มาตรา 362 ฟ้องโจทก์จึงไม่ชอบด้วยมาตรา158(5) แห่ง ป.วิ.อ.
ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับฎีกาโจทก์ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์โดยเห็นว่าเป็นปัญหาข้อเท็จจริง เมื่อโจทก์มิได้อุทธรณ์คำสั่งไม่รับฎีกาในข้อดังกล่าว ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 678/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกและการทำให้เสียทรัพย์เป็นคนละกรรมกัน แม้โจทก์มิได้ขอเรียงกระทง ศาลลงโทษได้หากบรรยายฟ้องหลายกรรม
จำเลยบุกรุกเข้าบ้านผู้เสียหาย เมื่อคนในบ้านรู้ตัวเรียกจำเลยให้ออกจากห้อง จำเลยกลับพังฝาห้องกระโดดลงจากบ้านหลบหนี ดังนี้การกระทำฐานบุกรุกสำเร็จลงแล้ว ส่วนการกระทำให้เสียทรัพย์เป็นเหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจึงเป็นคนละกรรมกัน แม้โจทก์จะมิได้ขอให้เรียงกระทงลงโทษ แต่เมื่อบรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดหลายกรรมต่างกันศาลลงโทษ 2กรรมได้ ไม่เกินคำขอ.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเนื่องจากโจทก์ไม่มาตามนัด และสิทธิในการขอให้พิจารณาคดีใหม่
ในวันนัดสืบพยานโจทก์ จำเลยและทนายมาศาล ฝ่ายโจทก์ไม่มา ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่าโจทก์ไม่มีพยานมาสืบตามฟ้อง งดสืบพยานจำเลยพิพากษายกฟ้อง โจทก์ยื่นคำร้องว่า เหตุที่มาล่าช้าเพราะบ้านอยู่ไกลรถติดโจทก์เตรียมพยานมาสืบพร้อมแล้ว ไม่ได้จงใจขาดนัดพิจารณา ขอให้ไต่สวนคำร้องของโจทก์ และยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ ดังนี้ เป็นการยกฟ้องเพราะโจทก์ไม่มาตามกำหนดนัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 วรรคแรก และมาตรา 181 เมื่อโจทก์ยื่นคำร้องดังกล่าว ศาลชั้นต้นก็ชอบที่จะไต่สวนและมีคำสั่งว่ามีเหตุสมควรหรือไม่เพียงใด ที่มาไม่ได้ตามกำหนดนัด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3071/2527

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยบุกรุกที่ดินของผู้อื่นโดยเจตนา แม้จะรู้ว่าที่ดินนั้นเป็นของโจทก์ และมีการจำนองแล้ว
จำเลยทราบดีว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ร่วมทั้งสองซึ่งครอบครองอยู่ก่อนโดยมี น.ส.3 เป็นหลักฐาน เมื่อโจทก์ร่วมนำที่พิพาทไปจำนอง จำเลยก็รู้เห็นในการจำนองด้วย การที่จำเลยเข้าไปบุกรุกแผ้วถางที่พิพาทจึงไม่ใช่กรณีที่จำเลยเข้าใจผิดหรือขาดเจตนาแต่อย่างใด จำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์
ในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ เมื่อจำเลยผิดตามมาตรา 359แล้วก็ไม่จำต้องยกมาตรา 358 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก (อ้างคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3115/2516)
of 27