คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 862

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 34 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2215/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับประกันภัย: จำเลยปฏิเสธความเกี่ยวพันกับผู้ทำละเมิด ศาลต้องถือว่าไม่มีนิติสัมพันธ์
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 3 ร่วมรับผิดในฐานะผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 ให้การว่ารับประกันภัยรถคันนี้ไว้จากห้าง ส. ไม่มีความเกี่ยวพันกับจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องร่วมรับผิด ศาลชั้นต้นชี้สองสถานโดยมิได้กำหนดประเด็นข้อนี้ไว้และไม่มีคู่ความฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโต้แย้ง จึงไม่มีประเด็นพิพาทในเรื่องนี้ และการที่จำเลยที่ 3 ให้การดังกล่าวก็ไม่เป็นการกล่าวอ้างข้อเท็จจริงขึ้นมาใหม่ เพราะการระบุชื่อห้าง ส. เป็นเพียงรายละเอียดที่แสดงให้เห็นชัดขึ้นว่าไม่ได้เกี่ยวพันกับจำเลยที่ 2 ฉะนั้น คดีต้องฟังว่าจำเลยที่ 3 มิได้รับประกันภัยจำเลยที่ 2 จำเลยที่ 3 จึงไม่ต้องร่วมรับผิดกับจำเลยที่ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2526

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้ชำระเบี้ยประกันภัยไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย ผู้รับประกันภัยไม่ต้องรับผิดหากผู้รับผิดคือบุคคลอื่น
ตามสัญญาประกันภัย ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะเมื่อผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกข้อเท็จจริงได้ความว่าห้างๆ พ. เป็นผู้เอาประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไว้กับจำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เช่าซื้อไปโดยมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยแทนห้างฯ พ. ในระหว่างระยะเวลาประกัน ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวไปชนกับรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 โดยประมาท ดังนี้ แม้ห้างฯ พ. จะเป็นเจ้าของใบอนุญาตประกอบการขนส่งก็หามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่รถเกิดชนกันอันจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่ ผู้ที่จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์คือจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 มิใช่ผู้เอาประกันภัย การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน หาทำให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้เอาประกันภัยไปด้วยไม่จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1043/2526 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัย: ผู้ชำระเบี้ยประกันภัยไม่ใช่ผู้เอาประกันภัย, ความรับผิดของผู้รับประกันภัยจำกัดเฉพาะผู้เอาประกันภัย
ตามสัญญาประกันภัย ผู้รับประกันภัยจะชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเฉพาะเมื่อผู้เอาประกันภัยจะต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอก ข้อเท็จจริงได้ความว่าห้าง ฯ พ. เป็นผู้เอาประกันภัยค้ำจุนรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุไว้กับจำเลยที่ 2 ต่อมาจำเลยที่ 1 ได้เช่าซื้อไปโดยมีข้อตกลงว่าจำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระเบี้ยประกันภัยแทนห้าง ฯ พ. ในระหว่างระยะเวลาประกัน ลูกจ้างของจำเลยที่ 1 ขับรถยนต์บรรทุกคันดังกล่าวไปชนกับรถยนต์ของโจทก์ที่ 2 โดยประมาท ดังนี้ แม้ห้าง ฯ พ. จะเป็นเจ้าของใบอนุญาตประกอบการขนส่งก็หามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่รถเกิดชนกันอันจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์ไม่ ผู้ที่จะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์คือจำเลยที่ 1 แต่จำเลยที่ 1 มิใช่ผู้เอาประกันภัย การที่จำเลยที่ 1 เป็นผู้ชำระเบี้ยประกัน หาทำให้จำเลยที่ 1 เป็นผู้เอาประกันภัยไปด้วยไม่ จำเลยที่ 2 จึงไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิผู้เช่าซื้อทำสัญญาประกันภัย และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์ แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 489/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิทำประกันภัยของผู้เช่าซื้อ และการเปลี่ยนแปลงผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัย
โจทก์ในฐานะผู้เช่าซื้อรถยนต์ที่เอาประกันภัยไว้กับจำเลยแม้จะชำระค่าเช่าซื้อยังไม่หมด มิใช่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รถยนต์แต่ก็เป็นผู้มีส่วนได้เสียในรถยนต์ที่เช่าซื้อมาจึงมีสิทธิทำสัญญาประกันภัยกับจำเลยได้
แม้โจทก์จำเลยจะได้ตกลงระบุให้บริษัทผู้เป็นเจ้าของรถยนต์ที่เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์จากสัญญาประกันภัยอันเป็นสัญญาตกลงว่าจะชำระหนี้แก่บุคคลภายนอก แต่บริษัทดังกล่าวยังมิได้แสดงเจตนาที่จะถือเอาประโยชน์จากสัญญาประกันภัย สิทธิจึงยังไม่เกิด โจทก์ย่อมเปลี่ยนแปลงข้อตกลงโดยเข้าเป็นผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยเสียเองได้ เมื่อโจทก์ได้แจ้งให้จำเลยชำระค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์แล้ว จำเลยไม่ชำระ โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัย: ผู้เอาประกันภัยที่แท้จริง แม้ชื่อในกรมธรรม์ไม่ตรงกับผู้รับประโยชน์
โจทก์ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ครบถ้วนแล้ว ได้เอารถยนต์ไปประกันภัยกับบริษัทจำเลย โดยผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้แนะนำและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทจำเลย และเป็นผู้รับฝากเงินเบี้ยประกันภัยจากโจทก์เพื่อชำระให้แก่บริษัทจำเลย การที่มีชื่อผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันในกรมธรรม์ แต่ในวงเล็บมีชื่อโจทก์และที่อยู่ของผู้เอาประกันก็ลงที่อยู่ของโจทก์ ทั้งนี้ โดยผู้ให้เช่าซื้อมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยนั้นหลังจากโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนก็เพื่อเป็นการสะดวกแก่การที่จำเลยจะมาเก็บเงิน และเพื่อผู้ให้เช่าซื้อจะได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยเท่านั้น โจทก์ ผู้เช่าซื้อจึงเป็นผู้เอาประกันภัย มีอำนาจฟ้องบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัย เกี่ยวกับความเสียหายของรถยนต์ของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 656/2521 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องของผู้เช่าซื้อในสัญญาประกันภัย: การตีความผู้เอาประกันภัยที่แท้จริงเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานะจากผู้เช่าซื้อเป็นเจ้าของ
โจทก์ผู้เช่าซื้อชำระค่าเช่าซื้อรถยนต์ครบถ้วนแล้ว ได้เอารถยนต์ไปประกันภัยกับบริษัทจำเลย โดยผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้แนะนำและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากบริษัทจำเลย และเป็นผู้รับฝากเงินเบี้ยประกันภัยจากโจทก์เพื่อชำระให้แก่บริษัทจำเลยการที่มีชื่อผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้เอาประกันในกรมธรรม์ แต่ในวงเล็บมีชื่อโจทก์และที่อยู่ของผู้เอาประกันก็ลงที่อยู่ของโจทก์ ทั้งนี้ โดยผู้ให้เช่าซื้อมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่ประกันภัยนั้น หลังจากโจทก์ชำระค่าเช่าซื้อครบถ้วนก็เพื่อเป็นการสะดวกแก่การที่จำเลยจะมาเก็บเงินและเพื่อผู้ใช้เช่าซื้อจะได้ค่าคอมมิชชั่นด้วยเท่านั้น โจทก์ผู้เช่าซื้อจึงเป็นผู้เอาประกันภัย มีอำนาจฟ้องบริษัทจำเลยผู้รับประกันภัยเกี่ยวกับความเสียหายของรถยนต์ของโจทก์ที่เอาประกันภัยไว้ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 32/2521

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิประโยชน์จากประกันภัยรถยนต์เช่าซื้อ: บุคคลภายนอกมีสิทธิฟ้องได้โดยตรง
ผู้เช่าซื้อเอาประกันภัยรถยนต์ที่เช่าซื้อโดยระบุผู้ให้เช่าซื้อเป็นผู้รับประโยชน์รถยนต์เกิดอุบัติเหตุผู้ให้เช่าซื้อแจ้งให้ผู้รับประกันภัยใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยเป็นการถือเอาประโยชน์ตามสัญญาเพื่อประโยชน์บุคคลภายนอกและฟ้องคดีเองได้ ไม่ใช่ฟ้องแทนผู้เช่าซื้อ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2664/2517

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ นิติสัมพันธ์สัญญาประกันภัย: โจทก์ผู้ออกเงินค่าประกันภัยไม่มีอำนาจฟ้องผู้รับประกันภัยโดยตรง
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์จากจำเลยที่ 1 โดยมีข้อตกลงในสัญญาเช่าซื้อว่า โจทก์เป็นผู้เสียค่าประกันภัยรถยนต์ในนามจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นเจ้าของรถ แล้วจำเลยที่ 1 ได้ไปทำสัญญาประกันภัยรถคันนี้กับจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นผู้รับประกันภัย และโจทก์เป็นผู้ออกเงินในการประกัน ดังนี้ ถือไม่ได้ว่าโจทก์ได้ร่วมกับจำเลยที่ 1 เอาประกันภัยรถคันที่เช่าซื้อ โจทก์จึงไม่มีนิติสัมพันธ์กับจำเลยที่ 2 และไม่มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2 ให้รับผิดใช้เงินค่ารถยนต์คันที่เช่าซื้อซึ่งได้หายไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2447/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างสัญญาประกันชีวิต การปกปิดฐานะ และการระบุผู้รับประโยชน์
การประกันชีวิตที่ผู้รับประกันภัยมีสิทธิบอกล้างได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 865 นั้น จะต้องเป็นการปกปิดความจริงหรือแถลงความเท็จในข้อสารสำคัญเฉพาะในเวลาเข้าทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น
แม้ผู้ขอประกันชีวิตจะปกปิดหรือแถลงเท็จเกี่ยวกับฐานะอันแท้จริง หากผู้รับประกันภัยควรจะได้รู้เท่าทันถึงฐานะของบุคคลนั้น โดยใช้ความระมัดระวังสอดส่องเยี่ยงวิญญูชนแล้วสัญญาประกันชีวิตนั้นก็เป็นอันสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 866 ผู้รับประกันภัยหามีสิทธิบอกล้างไม่
ไม่มีกฎหมายบทใดจำกัดสิทธิผู้เอาประกันภัยว่าจะระบุใครเป็นผู้รับประโยชน์ไม่ได้บ้าง แม้บุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ญาติของผู้เอาประกันภัยก็อาจถูกระบุเป็นผู้รับประโยชน์ได้
ผู้เอาประกันชีวิตถูกคนร้ายยิงตาย โดยไม่ปรากฏว่าคนร้ายเป็นใคร ถือว่าเป็นการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุ
of 4