พบผลลัพธ์ทั้งหมด 51 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1101/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยทารุณโหดร้ายระหว่างปล้นทรัพย์ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยเองเป็นผู้ใช้มีดเชือดคอเด็กหญิงอายุ 5 ขวบถึงแก่ความตาย และจำเลยยังร่วมกับจำเลยอื่นกระทืบเด็กชายอายุ 8 เดือน ทั้งได้ใช้ผ้าอุดจมูกจนหายใจไม่ออกตาย นอกจากนี้ยังใช้ยาพิษกรอกปากกับใช้มีดเชือดคอมารดาของเด็กทั้งสองผู้ตายจนหลอดเสียงขาด เพื่อจะฆ่าให้ตายด้วย การกระทำของจำเลยดังกล่าวนี้จึงถือได้ว่าเป็นการฆ่าผู้อื่นโดยกระทำทารุณโหดร้าย จำเลยย่อมมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 289
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาชั่วคราวเพื่อยื่นใหม่ภายในอายุความ และการพิจารณาข้อเท็จจริงที่สอดคล้องกับฟ้อง
ในคดีอาญา จำเลยถอนฎีกาโดยกล่าวว่า ขอถอนชั่วคราวเพื่อไปจัดทำฎีกามายืนใหม่ เมื่อศาลอนุญาตแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธิยื่นฎีกาใหม่ภายในอายุความฎีกา
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2503)
โจทก์กล่าวฟ้องมีสาระสำคัญว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง และด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุในรถของจำเลยชนและทับผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตาย ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง แม้เมื่อเข้าทางโค้งก็มิได้ลดความเร็วเป็นเหตุให้รถจำเลยชนเสาบอกแนวโค้งของถนนแล้วแฉลบไปชนผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2503)
โจทก์กล่าวฟ้องมีสาระสำคัญว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง และด้วยความประมาทปราศจากความระมัดระวังเป็นเหตุในรถของจำเลยชนและทับผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตาย ทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูง แม้เมื่อเข้าทางโค้งก็มิได้ลดความเร็วเป็นเหตุให้รถจำเลยชนเสาบอกแนวโค้งของถนนแล้วแฉลบไปชนผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตาย ดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฎีกาชั่วคราวเพื่อยื่นใหม่ภายในอายุความฎีกา และการพิจารณาความแตกต่างระหว่างข้อกล่าวหาในฟ้องกับข้อเท็จจริงที่ได้จากการพิจารณา
ในคดีอาญา จำเลยถอนฎีกาโดยกล่าวว่าขอถอนชั่วคราวเพื่อไปจัดทำฎีกามายื่นใหม่เมื่อศาลอนุญาตแล้วจำเลยย่อมมีสิทธิยื่นฎีกาใหม่ภายในอายุความฎีกา
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2503)
โจทก์กล่าวฟ้องมีสาระสำคัญว่าจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูงและด้วยความประมาทปราศจากการระมัดระวังเป็นเหตุให้รถของจำเลยชนและทับผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตายทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูงแม้เมื่อเข้าทางโค้งก็มิได้ลดความเร็ว เป็นเหตุให้รถจำเลยชนเสาบอกแนวโค้งของถนนแล้วแฉลบไปชนผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตายดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 1/2503)
โจทก์กล่าวฟ้องมีสาระสำคัญว่าจำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูงและด้วยความประมาทปราศจากการระมัดระวังเป็นเหตุให้รถของจำเลยชนและทับผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตายทางพิจารณาได้ความว่า จำเลยขับรถมาด้วยความเร็วสูงแม้เมื่อเข้าทางโค้งก็มิได้ลดความเร็ว เป็นเหตุให้รถจำเลยชนเสาบอกแนวโค้งของถนนแล้วแฉลบไปชนผู้ตายซึ่งเดินอยู่ข้างทางถึงแก่ความตายดังนี้ถือว่าข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในการพิจารณาไม่แตกต่างกับข้อเท็จจริงดังที่กล่าวในฟ้อง ลงโทษจำเลยตามฟ้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2502 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อไม่มีการอุทธรณ์ และการพิจารณาฎีกาภายหลัง
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ เพื่อพิจารณาพิพากษาตาม ป.วิ.อาญา มาตรา 245 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น คำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตาม มาตรา 245 วรรค 2.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 277/2502
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำพิพากษาถึงที่สุดตามมาตรา 245 วรรคสอง แม้จำเลยฎีกา ศาลฎีกายกคำฎีกา
คดีอาญาที่ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกจำเลยตลอดชีวิต และโจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์เพื่อพิจารณาพิพากษาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ย่อมถึงที่สุดตาม มาตรา 245 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาความผิดฐานต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานและแก้ไขโทษรวมกระทง
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม ก.ม.อาญา ม.250 ข้อ 3 ม.184 และ ม.120 รวม 3 กะทงเมื่อลดโทษตาม ม.59 แล้วคงรวมกะทงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม ม.36
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ.ม.245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกะทงลงโทษตาม ม.36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น ม.71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ป.วิ.อ.ม.245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม ม.250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกะทงลงโทษตาม ม.36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น ม.71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1029/2499
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขบทมาตราความผิดและกระทงโทษในคดีอาญา, จำเลยฎีกาขอลดหย่อนโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยตาม กฎหมายลักษณะอาญา มาตรา250 ข้อ2,3 มาตรา 184 และ มาตรา 120 รวม 3 กระทงเมื่อลดโทษตาม มาตรา 59 แล้วคงรวมกระทงลงโทษจำคุกจำเลยตลอดชีวิต ตาม มาตรา 36
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกระทงลงโทษตาม มาตรา 36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น มาตรา 71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่าจำเลยผิดตาม มาตรา 250 ข้อ 2 ไม่ใช่ข้อ 3 และที่ว่ารวมกระทงลงโทษตาม มาตรา 36 ก็ไม่ถูกต้องเป็น มาตรา 71 จึงพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นตามบทมาตราดังกล่าวนอกจากที่แก้คงยืนดังนี้ จำเลยฎีกาขอให้ลดหย่อนผ่อนโทษได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2489 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และสิทธิในการปรึกษาทนายความในคดีอาญา
จำเลยในคดีอาญาพิมพ์นิ้วมือในคำคู่ความโดยไม่ปรากฏว่าได้ทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่และไม่มีพะยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้น จะถือว่าเป็นถ้อยคำของจำเลยไม่ได้
ในคดีที่ศาลลงโทษประหารชิวิตและไม่มีอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลไม่ได้สอบถามจำเลย เรื่องมีทนายความหรือไม่ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องได้
ในคดีที่ศาลลงโทษประหารชิวิตและไม่มีอุทธรณ์นั้น เมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลไม่ได้สอบถามจำเลย เรื่องมีทนายความหรือไม่ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 650/2489
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับสารภาพที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและสิทธิจำเลยในการมีทนายความ
จำเลยในคดีอาญาพิมพ์นิ้วมือในคำคู่ความโดยไม่ปรากฏว่าได้ต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ และไม่มีพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือนั้นจะถือว่าเป็นถ้อยคำของจำเลยไม่ได้
ในคดีที่ศาลลงโทษประหารชีวิตและไม่มีอุทธรณ์นั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลไม่ได้สอบถามจำเลย เรื่องมีทนายความหรือไม่ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องได้
ในคดีที่ศาลลงโทษประหารชีวิตและไม่มีอุทธรณ์นั้นเมื่อศาลอุทธรณ์เห็นว่า ศาลไม่ได้สอบถามจำเลย เรื่องมีทนายความหรือไม่ ศาลอุทธรณ์มีอำนาจพิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วให้ดำเนินการใหม่ให้ถูกต้องได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1040/2484
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาหลังศาลอุทธรณ์แก้โทษประหารชีวิต และการพิจารณาข้อเท็จจริงใหม่
ศาลชั้นต้นลงโทษประหารชีวิตจำเลย โจทก์จำเลยไม่อุทธรณ์ ศาลชั้นต้นจึงส่งสำนวนไปยังศาลอุทธรณ์พิจารณาพิพากษาเมื่อศาลอุทธรณ์แก้ลดโทษจำเลยจำเลยย่อมฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต่อมาได้