คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนับ คัมภีรยส

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 637 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์ในคดีพนัน แม้ผู้กระทำความผิดไม่ต้องรับโทษ ศาลก็มีอำนาจริบได้ โดยแยกพิจารณาทรัพย์สินพนันกับเครื่องมือ
ในเรื่องริบทรัพย์นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18บัญญัติว่าเป็นโทษสถานหนึ่ง แต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญ ต่างกับโทษสถานอื่น แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 246/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบทรัพย์ในคดีการพนัน: ศาลมีอำนาจริบได้แม้ผู้กระทำผิดไม่ต้องรับโทษ หากทรัพย์สินนั้นเป็นของกลางที่ใช้ในการพนัน
ในเรื่องริบทรัพย์นั้น แม้ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 18บัญญัติว่าเป็นโทษสถานหนึ่ง แต่ก็เป็นโทษที่มุ่งถึงตัวทรัพย์เป็นสำคัญต่างกับโทษสถานอื่น แม้จำเลยซึ่งเป็นผู้กระทำความผิดจะไม่ต้องรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 74 ศาลก็ชอบที่จะสั่งริบทรัพย์สินของกลางได้
ตามพระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 10 ทรัพย์สินพนันกันซึ่งจับได้ในวงการเล่นนั้น เป็นทรัพย์สินที่ต้องริบโดยเด็ดขาดเว้นแต่ทรัพย์สินซึ่งมิได้เอาออกพนัน ส่วนทรัพย์สินที่เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการเล่นพนัน ศาลมีอำนาจใช้ดุลพินิจที่จะสั่งริบหรือไม่ก็ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับผิดในหนี้สินของกองมรดก: ทายาทรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่
เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตาย มรดกของผู้นั้นย่อมตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมาย
กองมรดกได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย รวมทั้งสิทธิและหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้
ผู้ตายเป็นหนี้โจทก์อยู่ และถึงแก่ความตายลง จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายย่อมรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่อโจทก์ เจ้าหนี้กองมรดกมีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับเอาชำระหนี้จากทายาทโดยธรรม ได้เท่าที่ไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ทายาทนั้นได้รับ จำเลยจะได้รับมรดกของผู้ตายและผู้ตายจะมีมรดกหรือไม่ เป็นกรณีที่จะต้องไปว่ากล่าวในชั้นบังคับคดี
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 866/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 187/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทายาทรับผิดชอบหนี้สินของกองมรดกตามกฎหมาย
เมื่อบุคคลใดถึงแก่ความตาย มรดกของผู้นั้นย่อมตกทอดแก่ทายาทตามกฎหมาย
กองมรดกได้แก่ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย รวมทั้งสิทธิและหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ เว้นแต่ตามกฎหมายหรือว่าโดยสภาพแล้ว เป็นการเฉพาะตัวของผู้ตายโดยแท้
ผู้ตายเป็นหนี้โจทก์อยู่ และถึงแก่ความตายลง จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของผู้ตายย่อมรับไปทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่อโจทก์ เจ้าหนี้กองมรดกมีสิทธิที่จะเรียกร้องบังคับเอาชำระหนี้จากทายาทโดยธรรมได้เท่าที่ไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ทายาทนั้นได้รับ จำเลยจะได้รับมรดกของผู้ตายและผู้ตายจะมีมรดกหรือไม่ เป็นกรณีที่จะต้องไปว่ากล่าวในชั้นบังคับคดี
(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 866/2508)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเปิดเผยข้อเท็จจริงในสัญญาประกันชีวิต และสิทธิบอกล้างสัญญาเมื่อมีข้อมูลเท็จ
หน้าที่เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัยมิได้สิ้นสุดลงเพียงในชั้นยื่นคำเสนอขอเอาประกันภัยโดยกรอกคำตอบในแบบคำขอนั้นเท่านั้น แต่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาในระหว่างนั้นเรื่อยไปจนถึงเวลาที่ผู้รับประกันภัยสนองตอบรับจนเกิดเป็นสัญญาขึ้นแล้วระหว่างคู่กรณี ฉะนั้น ในกรณีประกันชีวิต แม้ผู้เอาประกันภัยจะได้กรอกแบบคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว โดยเฉพาะในข้อถามที่ 7ว่า ตนไม่เคยเป็นโรคกระเพาะอักเสบ โรคตับอักเสบ ฯลฯ ยื่นส่งแก่บริษัทประกันภัยไปแล้วก็ตาม ถ้าภายหลังนั้นผู้เอาประกันภัยเกิดป่วยต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคกระเพาะอาหารและโรคตับแข็งซึ่งเป็นผลให้ข้อความจริงซึ่งได้แถลงไปแล้วแต่แรกนั้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความเป็นจริง และผู้เอาประกันภัยย่อมทราบว่ายังอยู่ในระหว่างเวลาที่บริษัทยังพิจารณาคำขอ และยังมิได้ออกกรมธรรม์ตอบรับมา ทั้งข้อถามต่างๆ ในแบบคำขอนั้นผู้เอาประกันภัยเองก็ได้ทราบและรับรองไว้ว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นมูลฐานและสารสำคัญแห่งการออกกรมธรรม์ของฝ่ายผู้รับประกันภัยดังนี้ ย่อมมีผลให้สัญญาไม่สมบูรณ์เป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิบอกล้างและคืนแต่ค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ให้แก่ทายาทของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 68/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบอกล้างสัญญาประกันชีวิตเนื่องจากผู้เอาประกันภัยปกปิดข้อมูลสุขภาพที่เป็นสาระสำคัญ
หน้าที่เปิดเผยข้อความจริงของผู้เอาประกันภัย มิได้สิ้นสุดลงเพียงในชั้นยื่นคำเสนอขอเอาประกันภัยโดยกรอกคำตอบในแบบคำขอนั้นเท่านั้น แต่ยังคงมีอยู่ตลอดเวลาในระหว่างนั้นเรื่อยไปจนถึงเวลาที่ผู้รับประกันภัยสนองตอบรับจนเกิดเป็นสัญญาขึ้นแล้วระหว่างคู่กรณี ฉะนั้น ในกรณีประกันชีวิต แม้ผู้เอาประกันภัยจะได้กรอกแบบคำขอเอาประกันชีวิตแล้ว โดยเฉพาะในข้อถามที่ 7 ว่า ตนไม่เคยเป็นโรคกระเพาะอักเสบ โรคตับอักเสบ ฯลฯ ยื่นส่งแก่บริษัทประกันภัยไปแล้วก็ตาม ถ้าภายหลังนั้นผู้เอาประกันภัยเกิดป่วยต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคกระเพาะอาหารและโรคตับแข็งซึ่งเป็นผลให้ข้อความจริงซึ่งได้แถลงไปแล้วแต่แรกนั้นคลาดเคลื่อนไม่ตรงต่อความเป็นจริง และผู้เอาประกันภัยย่อมทราบว่ายังอยู่ในระหว่างเวลาที่บริษัทยังพิจารณาคำขอ และยังมิได้ออกกรมธรรม์ตอบรับมา ทั้งข้อถามต่างๆ ในแบบคำขอนั้น ผู้เอาประกันภัยเองก็ได้ทราบและรับรองไว้ว่าเป็นข้อความจริงอันเป็นมูลฐานและสารสำคัญแห่งการออกกรมธรรม์ของฝ่ายผู้รับประกันภัยดังนี้ ย่อมมีผลให้สัญญาไม่สมบูรณ์เป็นโมฆียะ ผู้รับประกันภัยมีสิทธิบอกล้างและคืนแต่ค่าไถ่ถอนกรมธรรม์ให้แก่ทายาทของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารทำโดยผู้มีอำนาจ แม้ไม่ตรงความจริง ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร การแจ้งความเท็จไม่ทำให้เกิดความผิดฐานกักขัง
เอกสารที่บุคคลผู้มีอำนาจหน้าที่กระทำได้ ได้ทำขึ้นนั้น แม้ข้อความในเอกสารนั้นจะไม่ตรงกับความจริง ก็หาเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารไม่
จำเลยไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์ จนโจทก์ถูกพนักงานสอบสวนกักขัง ก็เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจว่าจะกักขังโจทก์หรือไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 7/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารทำโดยผู้มีอำนาจ แม้ไม่ตรงความจริง ไม่เป็นความผิดฐานปลอมเอกสาร การแจ้งความเท็จไม่ทำให้เกิดความผิดฐานกักขัง
เอกสารที่บุคคลผู้มีอำนาจหน้าที่กระทำได้ ได้ทำขึ้นนั้นแม้ข้อความในเอกสารนั้นจะไม่ตรงกับความจริง ก็หาเป็นความผิดฐานปลอมเอกสารไม่
จำเลยไปแจ้งต่อพนักงานสอบสวนว่า โจทก์ยักยอกทรัพย์จนโจทก์ถูกพนักงานสอบสวนกักขัง ก็เป็นเรื่องที่พนักงานสอบสวนใช้ดุลพินิจว่าจะกักขังโจทก์หรือไม่ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2516

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเป็นการเสนอข้อหาต่อศาล การขอตรวจสอบบัญชีเพื่อต่อสู้คดีไม่ใช่ฟ้องแย้ง
ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้ตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและเอกสารของธนาคารโจทก์เพื่อแสดงผลความรับผิดชอบว่าใครเป็นหนี้ใครเท่าใดเป็นเรื่องจำเลยแสวงหาหลักฐานเพื่อสู้คดี มิใช่เป็นการเสนอข้อหาต่อศาล ไม่ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6/2516 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งเพื่อตรวจสอบบัญชีไม่ใช่การเสนอข้อหาต่อศาล แต่เป็นการแสวงหาหลักฐานต่อสู้คดี
ฟ้องแย้งของจำเลยที่ขอให้ตั้งผู้ตรวจสอบบัญชีและเอกสารของธนาคารโจทก์เพื่อแสดงผลความรับผิดชอบว่าใครเป็นหนี้ใครเท่าใดเป็นเรื่องจำเลยแสวงหาหลักฐานเพื่อสู้คดี มิใช่เป็นการเสนอข้อหาต่อศาลไม่ถือว่าเป็นฟ้องแย้ง
of 64