คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สนับ คัมภีรยส

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 637 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากขว้างระเบิดขวด แม้มีกำลังอ่อน แต่เล็งเห็นผลถึงแก่ชีวิต
จำเลยกับพวกวิวาทกับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง จำเลยจึงใช้ระเบิดขวดขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟโยนไปยังกลุ่มคนที่วิวาทกับจำเลย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บเพราะถูกสะเก็ดระเบิด เช่นนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าระเบิดขวดนั้นมีกำลังอ่อน ไม่สามารถทำให้บุคคลถึงแก่ความตายได้โดยแน่แท้ แต่จำเลยเล็งเห็นต่อผลว่าสะเก็ดระเบิดอาจทำให้ผู้อื่นถึงตายได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1720/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากระเบิดขวด แม้ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ชีวิต ศาลฎีกาถือว่ามีความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยกับพวกวิวาทกับบุคคลอีกกลุ่มหนึ่ง จำเลยจึงใช้ระเบิดขวดขนาดเท่ากล่องไม้ขีดไฟโยนไปยังกลุ่มคนที่วิวาทกับจำเลย เป็นเหตุให้ผู้เสียหายซึ่งเป็นบุคคลภายนอกได้รับบาดเจ็บเพราะถูกสะเก็ดระเบิด เช่นนี้เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าระเบิดขวดนั้นมีกำลังอ่อน ไม่สามารถทำให้บุคคลถึงแก่ความตายได้โดยแน่แท้ แต่จำเลยเล็งเห็นต่อผลว่าสะเก็ดระเบิดอาจทำให้ผู้อื่นถึงตายได้ จำเลยย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 81

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยานหลักฐานคำตายของผู้ตายที่ยืนยันตัวผู้กระทำผิดต่อหน้าพยานก่อนสิ้นใจ รับฟังได้แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1643/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำให้การของผู้ตายก่อนเสียชีวิตเป็นพยานหลักฐานได้ แม้ไม่มีลายมือชื่อ
ข้อความที่ผู้ตายได้กล่าวยืนยันต่อผู้ใหญ่บ้านและเจ้าพนักงานตำรวจในขณะที่ผู้ตายยังมีสติดี ไม่มีอาการเพ้อคลั่ง และรู้ตัวว่าคงจะตายแน่ ว่าจำเลยทั้งสองเป็นคนร้ายนั้น ถึงแม้ว่าเจ้าพนักงานตำรวจจะบันทึกถ้อยคำให้ผู้ตายลงชื่อไว้ไม่ทัน ก็รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันมีผลผูกพันแม้ไม่ได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้โดยตรง และศาลไม่ต้องใช้ต้นฉบับสัญญา
ป. เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ดังกล่าวนี้ แม้ตามสัญญานี้จะกำหนดให้ ป. ชำระหนี้เป็นงวด ๆ ภายใน 2 ปี และ ป. มิได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ด้วย ก็เป็นสัญญาค้ำประกันซึ่งใช้บังคับจำเลยได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยแต่เพียงว่า ข้อความตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้องประกอบกับข้อเท็จจริงที่แถลงรับกันนั้น จำเลยจะต้องรับผิดตามฟ้องหรือไม่ ดังนี้ ถึงหากว่าต้นฉบับหนังสือสัญญานั้นจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็ไม่สำคัญเพราะศาลไม่จำต้องนำมาใช้ในการวินิจฉัยคดีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1612/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันผูกพันแม้ไม่ได้ทำกับเจ้าหนี้โดยตรง และไม่จำเป็นต้องมีสัญญาจะชำระหนี้เดิม
ป. เป็นลูกหนี้ตามคำพิพากษาให้ชำระหนี้แก่โจทก์ จำเลยทำสัญญาค้ำประกันการชำระหนี้ดังกล่าวนี้ แม้ตามสัญญานี้จะกำหนดให้ป. ชำระหนี้เป็นงวด ๆ ภายใน 2 ปี และ ป. มิได้ทำสัญญารับจะชำระหนี้ให้แก่โจทก์ด้วย ก็เป็นสัญญาค้ำประกันซึ่งใช้บังคับจำเลยได้
โจทก์จำเลยขอให้ศาลวินิจฉัยแต่เพียงว่า ข้อความตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้องประกอบกับข้อเท็จจริงที่แถลงรับกันนั้น จำเลยจะต้องรับผิดตามฟ้องหรือไม่ ดังนี้ ถึงหากว่าต้นฉบับหนังสือสัญญานั้นจะมิได้ปิดอากรแสตมป์ก็ไม่สำคัญ เพราะศาลไม่จำต้องนำมาใช้ในการวินิจฉัยคดีด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดค่าปรับนายประกันจากการติดตามตัวจำเลย แม้จำเลยถูกจับในคดีอื่น ศาลฎีกาพิจารณาเหตุผลประกอบการลดหย่อน
นายประกันผิดสัญญาไม่สามารถส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามนัด ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญา และพิพากษาลงโทษจำเลย ต่อมาอีก 1 ปีเศษ นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลได้แล้วยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุจะลดค่าปรับนายประกัน นายประกันมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาขอให้ลดค่าปรับได้อีกภายในกำหนดเวลาสำหรับอุทธรณ์ฎีกา นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่ลดค่าปรับ (แม้จะเป็นเวลาถึง 1 ปีเศษแล้ว นับแต่ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาประกัน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลดค่าปรับนายประกันเนื่องจากความขวนขวายติดตามตัวจำเลย แม้จำเลยถูกจับในคดีอื่น
นายประกันผิดสัญญาไม่สามารถส่งตัวจำเลยมาฟังคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามนัด ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาและพิพากษาลงโทษจำเลย ต่อมาอีก 1 ปีเศษ นายประกันส่งตัวจำเลยต่อศาลได้ แล้วยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับ ศาลชั้นต้นสั่งว่าไม่มีเหตุจะลดค่าปรับนายประกัน นายประกันมีสิทธิอุทธรณ์และฎีกาขอให้ลดค่าปรับได้อีกภายในกำหนดเวลาสำหรับอุทธรณ์ฎีกา นับแต่วันที่ศาลชั้นต้นสั่งไม่ลดค่าปรับ (แม้จะเป็นเวลาถึง 1 ปีเศษแล้วนับแต่ศาลชั้นต้นสั่งปรับเต็มตามสัญญาประกัน)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1)
การที่จำเลยซึ่งไม่ใช่ผู้แทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ร่วมเอาเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าชนิดนั้นของโจทก์ร่วมติดไว้ที่หน้าร้านจำเลย และพิมพ์เครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมลงให้ปรากฏในนามบัตรร้านจำเลยโดยไม่มีอำนาจจะกระทำได้ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น (คือ ของโจทก์ร่วม) จึงเป็นความผิดตามมาตรา 272 (1) ประมวลกฎหมายอาญา

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2513

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าของผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 272(1)
การที่จำเลยซึ่งไม่ใช่ผู้แทนจำหน่ายสินค้าของโจทก์ร่วมเอาเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าชนิดนั้นของโจทก์ร่วมติดไว้ที่หน้าร้านจำเลย และพิมพ์เครื่องหมายการค้าของโจทก์ร่วมลงให้ปรากฏในนามบัตรร้านจำเลยโดยไม่มีอำนาจจะกระทำได้ดังนี้ ถือได้ว่าจำเลยกระทำเพื่อให้ประชาชนหลงเชื่อว่าเป็นสินค้าหรือการค้าของผู้อื่น (คือ ของโจทก์ร่วม) จึงเป็นความผิดตามมาตรา 272(1) ประมวลกฎหมายอาญา
of 64