พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงตัวเท็จเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
จำเลยเป็นพนักงานตีตราไม้ ไม่ใช่พนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จำเลยได้แสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ผู้มีอำนาจจับกุม แล้วได้ทำการจับกุมผู้เสียหายในเรื่องไม้ที่ผู้เสียหายมีไว้ในครอบครองและยังเรียกเงินจากผู้เสียหายด้วยการกระทำของจำเลยย่อมเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 145
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จและการขอรับมรดก หากไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่ถือเป็นความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ
ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 นั้น แม้ข้อความที่แจ้งจะเป็นเท็จแต่มิได้เกี่ยวข้องพาดพิงถึงโจทก์ ก็ไม่อาจทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่ แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่ แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1373/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแจ้งความเท็จที่ไม่เกี่ยวข้องกับโจทก์ และการขอรับมรดกโดยอ้างความเป็นภริยาโดยพฤตินัย ไม่ทำให้โจทก์เสียหาย
ความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 นั้น แม้ข้อความที่แจ้งจะเป็นเท็จแต่มิได้เกี่ยวข้องพาดพิงถึงโจทก์ ก็ไม่อาจทำให้โจทก์เสียหาย โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2(4)
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย
การที่จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ยื่นคำร้องขอรับมรดกโดยอ้างว่าเป็นภริยาของผู้ตายนั้น แม้โดยนิตินัยจำเลยจะไม่ใช่แต่โดยพฤตินัยจำเลยเป็นภริยาของผู้ตายยังถือไม่ได้ว่าจำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จทำให้โจทก์ผู้เป็นทายาทเสียหาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดความรับผิดทางละเมิด: แม้คดีอาญาสั่งลงโทษประมาท แต่ยังต้องพิจารณาความประมาทของทั้งสองฝ่ายเพื่อคำนวณค่าเสียหาย
จำเลยถูกฟ้องทางอาญาหาว่าขับรถยนต์ถอยหลังโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดไปแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด จำเลยต่อสู้ว่า เหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของคนขับรถโจทก์ แม้ประเด็นที่ว่าจำเลยประมาทหรือไม่ ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ยังมีประเด็นที่จะต้องนำสืบต่อไปว่า ฝ่ายโจทก์มีส่วนร่วมประมาทด้วยหรือไม่. เพื่อกำหนดส่วนค่าเสียหายอันจะพึงต้องชดใช้แก่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1369/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกำหนดค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์: การพิจารณาความประมาทของทั้งสองฝ่ายเพื่อลดค่าเสียหาย
จำเลยถูกฟ้องทางอาญาหาว่าขับรถยนต์ถอยหลังโดยประมาทชนรถยนต์ของโจทก์เสียหาย ศาลพิพากษาลงโทษ คดีถึงที่สุดไปแล้วโจทก์มาฟ้องเรียกค่าเสียหายฐานละเมิด จำเลยต่อสู้ว่าเหตุที่รถชนกันเกิดจากความประมาทของคนขับรถโจทก์ แม้ประเด็นที่ว่าจำเลยประมาทหรือไม่ ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามคำพิพากษาคดีส่วนอาญาก็ยังมีประเด็นที่จะต้องนำสืบต่อไปว่า ฝ่ายโจทก์มีส่วนร่วมประมาทด้วยหรือไม่ เพื่อกำหนดส่วนค่าเสียหายอันจะพึงต้องชดใช้แก่กัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าแต่ผลไม่บรรลุ: ปรับบทตามมาตรา 81 เหตุอาวุธปืนไม่ร้ายแรงพอ
จำเลยยิงผู้เสียหายด้วยปืนพกสั้น 1 นัดในระยะ 3 วา กระสุนถูกที่บริเวณตะโพกขวาเป็นบาดแผล 2 แห่ง ลักษณะเป็นแผลตื้นแค่ผิวหนังแผลที่ 1 เป็นแผลกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร มีลักษณะบวมรอบ ๆ แผลที่ 2 เป็นวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 10 วันหาย ปืนของกลางยึดมาไม่ได้คงได้หลักฐานเพียงว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนพกสั้น ลักษณะบาดแผลปรากฏว่ากระสุนแล่นเข้าตรง ๆ แต่ไม่ทะลุเข้าไปถึงในเนื้อ มีแต่ลักษณะช้ำบวมที่ผิวหนัง ซึ่งหากเป็นปืนที่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายแล้ว ระยะที่ยิงห่างกันเพียง 3 วา กระสุนก็น่าจะทะลุเข้าถึงในเนื้อโดยมิต้องสงสัย กรณีเช่นนี้ต้องถือเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิด จำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าจึงคงมีความผิดตามมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่า ปืนที่ใช้ยิงไม่ร้ายแรง บาดแผลไม่ทะลุเข้าเนื้อ ปรับเป็นมาตรา 81
จำเลยยิงผู้เสียหายด้วยปืนพกสั้น 1 นัดในระยะ 3 วา กระสุนถูกที่บริเวณตะโพกขวาเป็นบาดแผล 2 แห่ง ลักษณะเป็นแผลตื้นแค่ผิวหนังแผลที่ 1 เป็นแผลกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร มีลักษณะบวมรอบ ๆ แผลที่ 2 เป็นวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 10 วันหาย ปืนของกลางยึดมาไม่ได้คงได้หลักฐานเพียงว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนพกสั้น ลักษณะบาดแผลปรากฏว่ากระสุนแล่นเข้าตรง ๆ แต่ไม่ทะลุเข้าไปถึงในเนื้อมีแต่ลักษณะช้ำบวมที่ผิวหนัง ซึ่งหากเป็นปืนที่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายแล้ว ระยะที่ยิงห่างกันเพียง 3 วา กระสุนก็น่าจะทะลุเข้าถึงในเนื้อโดยมิต้องสงสัย กรณีเช่นนี้ต้องถือเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิด จำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าจึงคงมีความผิดตามมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนโฉนดที่ออกใหม่หลังคณะกรรมการสำรวจฯมีคำสั่งยกเลิกโฉนดเดิม และสิทธิในที่ดินของเจ้าของเดิม
เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐาน ในขณะที่ไม่มีคณะตุลาการรัฐธรรมนูญว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการสำรวจการออกโฉนดที่ดินพ.ศ. 2496 ในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดินเพื่อให้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อโต้เถียงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันเป็นคำวินิจฉัยของศาลที่มีอำนาจชี้ขาดได้ชี้ขาดไปแล้วโดยชอบ ก็ต้องถือว่าบทบัญญัติแห่งกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดินไม่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ขณะนั้นจนบัดนี้ไม่อาจกลับรื้อฟื้นให้มีผลใช้บังคับขึ้นได้อีก
(คำพิพากษาฎีกาคดีนี้พิพากษาเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้แล้ว)
(คำพิพากษาฎีกาคดีนี้พิพากษาเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้แล้ว)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1240/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ออกใหม่โดยไม่ชอบ คณะกรรมการฯ ไม่มีอำนาจชี้ขาด กรรมสิทธิ์ยังคงอยู่กับเจ้าของเดิม
เมื่อศาลฎีกาได้วินิจฉัยไว้เป็นบรรทัดฐานในขณะที่ไม่มีคณะตุลาการรัฐธรรมนูญว่า พระราชบัญญัติว่าด้วยการสำรวจการออกโฉนดที่ดิน พ.ศ. 2496 ในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดินเพื่อให้มีอำนาจวินิจฉัยชี้ขาดข้อโต้เถียงเรื่องกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้น ขัดต่อรัฐธรรมนูญ อันเป็นคำวินิจฉัยของศาลที่มีอำนาจชี้ขาดได้ชี้ขาดไปแล้วโดยชอบก็ต้องถือว่า บทบัญญัติแห่งกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวกับการตั้งคณะกรรมการสำรวจการออกโฉนดที่ดินไม่มีผลใช้บังคับมาตั้งแต่ขณะนั้นจนบัดนี้ไม่อาจกลับรื้อฟื้นให้มีผลใช้บังคับขึ้นได้อีก
(คำพิพากษาฎีกาคดีนี้พิพากษาเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้แล้ว)
(คำพิพากษาฎีกาคดีนี้พิพากษาเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้แล้ว)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องแย่งการครอบครองที่ดิน เกิน 1 ปี เสียสิทธิเรียกร้อง
ตามฟ้องโจทก์กล่าวว่า ที่พิพาทเป็นที่ดินมือเปล่า เมื่อปรากฏว่าสามีโจทก์เคยไปขอให้เจ้าพนักงานที่ดินออกโฉนดที่พิพาทเมื่อวันที่ 15กุมภาพันธ์ 2506 จำเลยคัดค้านว่าที่พิพาทเป็นของจำเลยโดยสามีโจทก์ขายให้และครอบครองตลอดมา แสดงว่าจำเลยได้แย่งการครอบครองที่พิพาทจากสามีโจทก์แล้ว โจทก์มาฟ้องคดีนี้เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2510 ถือได้ว่าเป็นการฟ้องเพื่อเอาคืนซึ่งการครอบครองเกินหนึ่งปี โจทก์เสียสิทธิที่จะเอาคืนซึ่งการครอบครองไปเด็ดขาดก่อนฟ้องแล้ว