พบผลลัพธ์ทั้งหมด 251 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาการกระทำความรุนแรงถึงขั้นทารุณโหดร้าย ต้องคำนึงสภาพจิตใจผู้กระทำขณะลงมือ
จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงผู้ตายซึ่งเป็นหญิงปราศจากอาวุธและไม่อยู่ในฐานะที่จะหลบหลีกหรือต่อสู้จำเลยได้ โดยจ้วงแทงเอาอย่างไม่ยับยั้ง เกิดเป็นบาดแผลที่ร่างกายผู้ตาย 30 กว่าแผลและผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมา ดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายทีสองทีแล้วมีโทสะจริตคลุ้มคลั่งตามติดขึ้นมา จนขาดสติ จึงได้แทงผู้ตายไปโดยไม่ยับยั้งเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่พอจะถือว่าจำเลยได้กระทำไปด้วยการทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1614/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาองค์ประกอบความผิดฐานฆ่าโดยทารุณโหดร้าย และการลดโทษจากรับสารภาพ
จำเลยใช้เหล็กขูดชาร์ปแทงผู้ตายซึ่งเป็นหญิงปราศจากอาวุธ และไม่อยู่ในฐานะที่จะหลบหลีกหรือต่อสู้จำเลยได้ โดยจ้วงแทงเอาอย่างไม่ยับยั้ง เกิดเป็นบาดแผลที่ร่างกายผู้ตาย 30 กว่าแผลและผู้ตายถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาดังนี้ เมื่อมีพฤติการณ์แสดงให้เห็นได้ว่าจำเลยแทงผู้ตายทีสองทีแล้วมีโทสะจริตคลุ้มคลั่งตามติดขึ้นมา จนขาดสติ จึงได้แทงผู้ตายไปโดยไม่ยับยั้งเช่นนั้นแล้วก็ยังไม่พอจะถือว่าจำเลยได้กระทำไปด้วยการทารุณโหดร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289(5)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละมรดกต้องทำตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด มิฉะนั้นไม่มีผลบังคับ
โจทก์กับจำเลยถูก ต. ฟ้องขอแบ่งมรดก แล้วโจทก์ทำหนังสือมอบให้จำเลยไว้ มีใจความว่า โจทก์ขอสละสิทธิรับมรดกเพราะโจทก์ไม่ต้องการไปศาล เพราะสุขภาพไม่ดีและไม่มีจิตใจเงินทองในการสู้คดีให้จำเลยออกเงินและสู้คดีไปโดยลำพัง ดังนี้ ไม่มีผลเป็นการสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 เพราะโจทก์มิได้มอบหนังสือนั้นไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ และหนังสือนั้นเป็นหนังสือที่โจทก์แสดงเจตนาเพียงฝ่ายเดียว ไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1610/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสละมรดกต้องทำตามรูปแบบที่กฎหมายกำหนด มิเช่นนั้นไม่สมบูรณ์
โจทก์กับจำเลยถูก ต. ฟ้องขอแบ่งมรดก แล้วโจทก์ทำหนังสือมอบให้จำเลยไว้ มีใจความว่า โจทก์ขอสละสิทธิรับมรดกเพราะโจทก์ไม่ต้องการไปศาลเพราะสุขภาพไม่ดีและไม่มีจิตใจเงินทองในการสู้คดีให้จำเลยออกเงินและสู้คดีไปโดยลำพัง ดังนี้ ไม่มีผลเป็นการสละมรดกตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1612 เพราะโจทก์มิได้มอบหนังสือนั้นไว้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ และหนังสือนั้นเป็นหนังสือที่โจทก์แสดงเจตนาเพียงฝ่ายเดียว ไม่เข้าลักษณะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้เถียงทะเลาะกัน ไม่ถือเป็นความผิดหมิ่นประมาท หากเป็นการตอบโต้ซึ่งกันและกัน
ฟ้องหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นถ้อยคำตอบโต้หรือย้อนคำโจทก์ ต่างคนต่างว่าซึ่งกันและกันในการทะเลาะโต้เถียงกัน จะถือเป็นถ้อยคำที่จำเลยเจตนาใส่ความอันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่ได้โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1545/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้เถียงทะเลาะกัน ไม่ถือเป็นหมิ่นประมาท หากเป็นเพียงการโต้ตอบซึ่งกันและกัน ผู้กล่าวจึงไม่มีความผิด
ฟ้องหาว่าจำเลยหมิ่นประมาทใส่ความ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าถ้อยคำที่จำเลยกล่าวเป็นถ้อยคำตอบโต้หรือย้อนคำโจทก์ต่างคนต่างว่าซึ่งกันและกันในการทะเลาะโต้เถียงกัน จะถือเป็นถ้อยคำที่จำเลยเจตนาใส่ความอันเข้าลักษณะเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทไม่ได้โจทก์จึงไม่ใช่ผู้เสียหายไม่มีอำนาจฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา ต้องลดจากโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลวางไว้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76พึงวางโทษภายในอัตราที่ได้ลดมาตราส่วนจากโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ แล้ว ไม่ใช่วางโทษตามบทความผิดเสียก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วจึงลดจากโทษที่ศาลวางไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1541/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษตามมาตรา 76 ต้องลดจากอัตราโทษที่กฎหมายกำหนด ไม่ใช่ลดจากโทษที่ศาลวางไว้
การลดมาตราส่วนโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 76พึงวางโทษภายในอัตราที่ได้ลดมาตราส่วนจากโทษที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น ๆ แล้ว ไม่ใช่วางโทษตามบทความผิดเสียก่อนเป็นเบื้องต้น แล้วจึงลดจากโทษที่ศาลวางไว้นั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2513 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าต้องพิสูจน์จากพฤติการณ์ บาดแผลและอาวุธที่ใช้ หากไม่ถึงอันตรายสาหัส ฟังได้เพียงทำร้ายร่างกาย
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลัง และที่แขน มีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมาก แพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บ ไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ ยังฟังไม่ได้จำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1444/2513
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฆ่าในคดีทำร้ายร่างกาย: การพิจารณาจากบาดแผลและอาวุธ
จำเลยทั้งสองเข้าไปที่ลานนวดข้าวของผู้เสียหาย พอผู้เสียหายกำลังกันเอาข้าวเปลือกให้เป็ดกิน จำเลยทั้งสองก็กระโจนเข้าไปใช้เหล็กแหลมแทงผู้เสียหายถูกที่บริเวณศีรษะ ที่สะบัก ที่หลังและที่แขนมีบาดแผล 14 แผล แผลมีลักษณะเป็นสามแฉกเป็นส่วนมากแพทย์ลงความเห็นว่ารักษาประมาณ 14 วัน จึงเป็นบาดแผลเพียงบาดเจ็บไม่ถึงกับเป็นอันตรายสาหัส และไม่ถูกอวัยวะสำคัญอาวุธที่ใช้ทำร้ายเป็นเพียงเหล็กแหลม ไม่ปรากฏชัดว่าเป็นชนิด ขนาด ประเภทใด ดังนี้ยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยทำร้ายผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า จึงมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายบาดเจ็บ