คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ล้มละลาย พ.ศ.2483 ม. 153

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 435 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2512 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลายและการจำหน่ายคดีออกจากสารบบความ สิทธิในการร้องคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยผู้ล้มละลาย ฉะนั้น การที่ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาลตามวันเวลาที่นัดไต่สวน โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุให้ศาลทราบ ถือได้ว่าเป็นการขาดนัด และในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไป ศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ผู้ร้องมีทางดำเนินคดีต่อไปได้เพียงประการเดียว คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ ซึ่งจะต้องอยู่ในบังคับแพ่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนใหม่เกินกำหนดเวลา 14 วันนับจากที่ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระหนี้ จึงเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย
ในกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา และศาลสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี จึงไม่เป็ฯเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 74/2512 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขาดนัดพิจารณาคดีล้มละลาย ศาลจำหน่ายคดี และผลของการละทิ้งคดีต่อการคัดค้านคำสั่งเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์
ผู้ร้องยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลในกรณีที่เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์มีคำสั่งให้ผู้ร้องชำระเงินที่ผู้ร้องเป็นลูกหนี้จำเลยผู้ล้มละลายฉะนั้น การที่ผู้ร้องและทนายตลอดจนพยานไม่มาศาลตามวันเวลาที่นัดไต่สวน โดยมิได้ขอเลื่อนหรือแจ้งเหตุให้ศาลทราบถือได้ว่าเป็นการขาดนัดและในกรณีเช่นนี้ เมื่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไม่ติดใจดำเนินคดีต่อไปศาลก็ต้องสั่งจำหน่ายคดีเสียจากสารบบความ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 201 ผู้ร้องมีทางดำเนินคดีต่อไปได้เพียงประการเดียว คือการร้องเริ่มต้นคดีใหม่ ซึ่งจะต้องอยู่ในบังคับแห่งอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ ดังนั้น การที่ผู้ร้องยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนใหม่เกินกำหนดเวลา 14 วันนับจากที่ผู้ร้องทราบคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ให้ชำระหนี้
จึงเป็นการไม่ชอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย
ในกรณีที่ผู้ร้องขาดนัดพิจารณา และศาลสั่งให้จำหน่ายคดีของผู้ร้องไปนั้น ถือได้ว่าเป็นการละทิ้งคดี จึงไม่เป็นเหตุให้กำหนดระยะเวลาที่ผู้ร้องจะยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์สะดุดหยุดลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2510

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อจำกัดการอุทธรณ์ปัญหาข้อเท็จจริงในคดีล้มละลายเมื่อทุนทรัพย์ไม่เกินสองพันบาท
ในคดีล้มละลายที่บุคคลคัดค้านคำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ที่ให้ชำระเงินตามสิทธิเรียกร้องของลูกหนี้ หากทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินสองพันบาท ต้องห้ามมิให้อุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224 ประกอบด้วยพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 153

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561-1564/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลูกหนี้ในการอุทธรณ์คำสั่งรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และการเป็นเจ้าหนี้ตามเช็ค
การสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และการพิจารณาของศาลเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายซึ่ง มาตรา 22,24 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายไม่ห้ามลูกหนี้ที่จะดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายต่อสู้คดีเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และตามมาตรา 106 ให้สิทธิลูกหนี้ที่จะโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ได้ ดังนั้นเมื่อศาลสั่งอนุญาตให้รับชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลายมาตรา 153 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 22
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561-1564/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิลูกหนี้ในการอุทธรณ์คำสั่งรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย และการเป็นเจ้าหนี้ตามเช็ค
การสอบสวนของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์และการพิจารณาของศาลเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้เป็นกระบวนพิจารณาคดีล้มละลาย ซึ่งมาตรา 22,24 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลายไม่ห้ามลูกหนี้ที่จะดำเนินการกระบวนพิจารณาคดีล้มละลายต่อสู้คดีเรื่องเจ้าหนี้ขอรับชำระหนี้ และตามมาตรา 106 ให้สิทธิลูกหนี้ที่จะโต้แย้งคำขอรับชำระหนี้ได้ ดังนั้น เมื่อศาลสั่งอนุญาตให้รับชำระหนี้ได้ ลูกหนี้ย่อมมีสิทธิอุทธรณ์ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 153 และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 223 ไม่ต้องห้ามตามประราชบัญญัติล้มละลาย มาตรา 22
เมื่อผู้ขอรับชำระหนี้เป็นผู้ทรงเช็คที่จำเลยผู้ล้มละลายออกให้ ย่อมมีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ แม้ว่าหนี้นั้นจำเลยจะเป็นลูกหนี้ผู้อื่นก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2509 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ต้องยื่นภายใน 10 วัน แม้ศาลอุทธรณ์รับไว้ ก็ยกได้หากไม่ชอบด้วย กม.
อุทธรณ์คำสั่งที่ศาลไม่รับอุทธรณ์ ต้องยื่นภายใน 10 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 หากยื่นเกินกำหนด แต่ศาลอุทธรณ์ก็สั่งให้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณา ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกอุทธรณ์นั้นในภายหลังได้ ส่วนที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 236 บัญญัติว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้รับหรือปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุดนั้น หมายความเพียงว่าจะฎีกาต่อไปไม่ได้เท่านั้น มิได้หมายความเลยไปถึงว่าแม้คำสั่งที่สั่งให้รับอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลอุทธรณ์จะแก้ไขอะไรไม่ได้เสียเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 42/2509

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ต้องยื่นภายใน 10 วัน แม้ศาลอุทธรณ์รับอุทธรณ์แล้ว ก็ยกได้หากไม่ชอบด้วยกฎหมาย
อุทธรณ์คำสั่งที่ศาลไม่รับอุทธรณ์ ต้องยื่นภายใน 10 วัน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 234 หากยื่นเกินกำหนด แต่ศาลอุทธรณ์ก็สั่งให้รับอุทธรณ์ไว้พิจารณาศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจยกอุทธรณ์นั้นในภายหลังได้ส่วนที่ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 236 บัญญัติว่า คำสั่งของศาลอุทธรณ์ที่ให้รับหรือปฏิเสธไม่รับอุทธรณ์เป็นที่สุดนั้นหมายความเพียงว่าจะฎีกาต่อไปไม่ได้เท่านั้นมิได้หมายความเลยไปถึงว่าแม้คำสั่งที่สั่งให้รับอุทธรณ์ไม่ชอบด้วยกฎหมายศาลอุทธรณ์จะแก้ไขอะไรไม่ได้เสียเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกคืนเงินที่ลูกหนี้ชำระหนี้ก่อนมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด
ข้อที่ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเรียกเอาไปชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 109(3) จะต้องเป็นสิ่งของ ไม่ใช่ตัวเงินนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้น แต่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว ย่อมอ้างอิงปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกาได้
แม้ว่าตัวเงินจะมิใช่สิ่งของ แต่เงินก็เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ซึ่งมีอยู่ในเวลาเริ่มต้นแห่งการล้มละลายตามมาตรา 109(1) ฉะนั้น ถึงแม้ผู้ร้องจะเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนด้วย ก็ไม่มีอำนาจที่จะนำเงินของหุ้นส่วนซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการได้ถูกศาลสิ่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วเอาไปชำระหนี้บุคคลภายนอกโดยลำพังได้ ฉะนั้นเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ เพราะเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ตามมาตรา 109(1) ดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1324/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ในการเรียกคืนทรัพย์สินของลูกหนี้ที่ถูกชำระหนี้หลังมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์
ข้อที่ว่าเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จะเรียกเอาไปชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 มาตรา 109(3) จะต้องเป็นสิ่งของ ไม่ใช่ตัวเงินนั้น เป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จะมิได้ยกขึ้นว่ากล่าวในศาลชั้นต้นแต่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวชั้นศาลอุทธรณ์แล้ว ย่อมอ้างอิงปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกาได้
แม้ว่าตัวเงินจะมิใช่สิ่งของ แต่เงินก็เป็นทรัพย์สินของลูกหนี้ซึ่งมีอยู่ในเวลาเริ่มต้นแห่งการล้มละลายตามมาตรา109(1) ฉะนั้น ถึงแม้ผู้ร้องจะเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญไม่จดทะเบียนด้วย ก็ไม่มีอำนาจที่จะนำเงินของหุ้นส่วนซึ่งหุ้นส่วนผู้จัดการได้ถูกศาลสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดแล้วเอาไปชำระหนี้บุคคลภายนอกโดยลำพังได้ ฉะนั้น เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ย่อมมีสิทธิเรียกร้องเอาคืนได้ เพราะเป็นทรัพย์สินในคดีล้มละลายอันอาจแบ่งแก่เจ้าหนี้ได้ตามมาตรา 109(1) ดังกล่าว
of 44