คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.พ.พ. ม. 190

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 19 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3690/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความ, การละเสียซึ่งอายุความ, เบี้ยปรับ, และการชำระหนี้ที่พิพาท
โจทก์บรรยายฟ้องโดยกล่าวรวบยอดจำนวนหนี้ที่จำเลยค้างชำระแม้หนี้ดังกล่าวเป็นค่าซื้อสินค้าหลายครั้งหลายคราว แต่โจทก์ก็ได้อ้างเอกสารรายการสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อแต่ละครั้งตลอดจนราคาแนบมาท้ายฟ้องแล้ว ทั้งตามคำให้การตลอดจนการดำเนินคดีของจำเลยก็ปรากฏชัดอยู่ในตัวว่าจำเลยมิได้ผิดหลงต่อคำฟ้องของโจทก์ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์ส่งหนังสือแจ้งรายการหนี้ให้จำเลยชำระ จำเลยไม่ได้ยกอายุความขึ้นปฏิเสธความรับผิด แต่ได้ลงนามรับรองที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในหนังสือนั้น ดังนี้ แม้จะฟังว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์บางรายการน่าจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวย่อมถือเป็นการแสดงออกโดยปริยายว่าได้ละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความนั้นแล้ว จำเลยจึงไม่อาจอ้างอายุความมาเป็นข้อตัดฟ้องเพื่อปฏิเสธความรับผิด การละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความของลูกหนี้ชั้นต้นไม่ลบล้างสิทธิของผู้ค้ำประกันในอันที่จะหยิบยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ แต่เมื่อผู้ค้ำประกันมิได้อ้างอายุความเป็นประเด็นต่อสู้ ไว้ในคำให้การ ศาลฎีกาจึงไม่อาจวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน ได้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยเรื่องความรับผิดในค่าบริการติดตามทวงถามนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีที่จำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มีผลใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ แต่หากสูงเกินส่วนศาลอาจลดจำนวนลงได้ตามความเหมาะสม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3690/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องเคลือบคลุม, อายุความ, การละเสียซึ่งอายุความ, เบี้ยปรับ, และการลดจำนวนเบี้ยปรับ
โจทก์บรรยายฟ้องโดยกล่าวรวบยอดจำนวนหนี้ที่จำเลยค้างชำระแม้หนี้ดังกล่าวเป็นค่าซื้อสินค้าหลายครั้งหลายคราว แต่โจทก์ก็ได้อ้างเอกสารรายการสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อแต่ละครั้งตลอดจนราคาแนบมาท้ายฟ้องแล้ว ทั้งตามคำให้การตลอดจนการดำเนินคดีของจำเลยก็ปรากฏชัดอยู่ในตัวว่าจำเลยมิได้ผิดหลงต่อคำฟ้องของโจทก์ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม
โจทก์ส่งหนังสือแจ้งรายการหนี้ให้จำเลยชำระ จำเลยไม่ได้ยกอายุความขึ้นปฏิเสธความรับผิด แต่ได้ลงนามรับรองที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในหนังสือนั้น ดังนี้ แม้จะฟังว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์บางรายการน่าจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวย่อมถือเป็นการแสดงออกโดยปริยายว่าได้ละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความนั้นแล้ว จำเลยจึงไม่อาจอ้างอายุความมาเป็นข้อตัดฟ้องเพื่อปฏิเสธความรับผิด
การละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความของลูกหนี้ชั้นต้นไม่ลบล้างสิทธิของผู้ค้ำประกันในอันที่จะหยิบยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ แต่เมื่อผู้ค้ำประกันมิได้อ้างอายุความเป็นประเด็นต่อสู้ ไว้ในคำให้การ ศาลฎีกาจึงไม่อาจวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกัน ได้
ข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยเรื่องความรับผิดในค่าบริการติดตามทวงถามนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียหายไว้ล่วงหน้าในกรณีที่จำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มีผลใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ แต่หากสูงเกินส่วนศาลอาจลดจำนวนลงได้ตามความเหมาะสม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3690/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความ, การละอายุความ, เบี้ยปรับ, การชำระหนี้, การลดเบี้ยปรับ, การฟ้องเคลือบคลุม
โจทก์บรรยายฟ้องโดยกล่าวรวบยอดจำนวนหนี้ที่จำเลยค้างชำระแม้หนี้ดังกล่าวเป็นค่าซื้อสินค้าหลายครั้งหลายคราว แต่โจทก์ก็ได้อ้างเอกสารรายการสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อแต่ละครั้งตลอดจนราคาแนบมาท้ายฟ้องแล้ว ทั้งตามคำให้การตลอดจนการดำเนินคดีของจำเลยก็ปรากฏชัดอยู่ในตัวว่าจำเลยมิได้ผิดหลงต่อคำฟ้องของโจทก์ ฟ้องของโจทก์จึงไม่เคลือบคลุม โจทก์ส่งหนังสือแจ้งรายการหนี้ให้จำเลยชำระ จำเลยไม่ได้ยกอายุความขึ้นปฏิเสธความรับผิด แต่ได้ลงนามรับรองที่จะปฏิบัติตามเงื่อนไขในหนังสือนั้น ดังนี้ แม้จะฟังว่าสิทธิเรียกร้องของโจทก์บางรายการน่าจะขาดอายุความแล้วก็ตาม แต่พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวย่อมถือเป็นการแสดงออกโดยปริยายว่าได้ละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความนั้นแล้ว จำเลยจึงไม่อาจอ้างอายุความมาเป็นข้อตัดฟ้องเพื่อปฏิเสธความรับผิด การละเสียซึ่งประโยชน์แห่งอายุความของลูกหนี้ชั้นต้นไม่ลบล้างสิทธิของผู้ค้ำประกันในอันที่จะหยิบยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ แต่เมื่อผู้ค้ำประกันมิได้อ้างอายุความเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การ ศาลฎีกาจึงไม่อาจวินิจฉัยให้เป็นคุณแก่ผู้ค้ำประกันได้ ข้อตกลงระหว่างโจทก์และจำเลยเรื่องความรับผิดในค่าบริการติดตามทวงถามนั้น เป็นการกำหนดค่าเสียไว้ล่วงหน้าในกรณีที่จำเลยตกเป็นผู้ผิดนัด มีลักษณะเป็นเบี้ยปรับ มีผลใช้บังคับได้ไม่ตกเป็นโมฆะ แต่หากสูงเกินส่วนศาลอาจลดจำนวนลงได้ตามความเหมาะสม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2508 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความสะดุดหยุดเมื่อมีการรับสภาพหนี้ แม้มีหลักฐานสัญญากู้ยืม การฟ้องภายใน 10 ปีนับจากรับสภาพหนี้ไม่ขาดอายุความ
แม้วันที่จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไป ถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วก็ตาม แต่เมื่อวันที่จำเลยรับสภาพหนี้นั้นถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปี เช่นนี้คดีโจทก์ก็ยังไม่ขาดอายุความ
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐาน แม้หนี้ที่มีหลักฐานสัญญากู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ ดังนี้ เมื่อปราฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยก็ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนทีเป็นประธานแต่อย่างใดไม่จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 873/2508

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้ทำให้ระยะเวลาอายุความสะดุดหยุดลง แม้หนี้มีหลักฐานก็ได้ และอายุความนับใหม่จากวันรับสภาพ
แม้วันที่จำเลยได้กู้เงินโจทก์ไปถึงวันฟ้องเป็นเวลาเกิน 10 ปีแล้วก็ตามแต่เมื่อวันที่จำเลยรับสภาพหนี้นั้นถึงวันฟ้องยังไม่เกิน 10 ปีเช่นนี้ คดีโจทก์ก็ยังไม่ขาดอายุความ
การรับสภาพหนี้นั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นหนี้ที่ไม่มีหลักฐานแม้หนี้ที่มีหลักฐานกู้ยืมอยู่แล้วก็มีการรับสภาพหนี้กันได้
จำเลยทำสัญญากู้ให้โจทก์ไว้เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม2496 และต่อมาเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2501 จำเลยได้ทำหนังสือรับสภาพหนี้นั้นซึ่งเป็นฉบับท้ายฟ้องโจทก์ดังนี้ เมื่อปรากฏว่าโจทก์ฟ้องเรียกหนี้เงินกู้ซึ่งจำเลยกู้ไปเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2496 ส่วนเดียวเท่านั้น ฟ้องโจทก์จึงหาใช่ฟ้องให้ชำระหนี้ ส่วนอุปกรณ์ซึ่งมีหนี้ในส่วนที่เป็นประธานแต่อย่างใดไม่ จะนำมาตรา 190 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาปรับแก่คดีนี้ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันพิเศษ: ผู้ค้ำประกันยอมผูกพันหนี้ชั้นเดียวกับลูกหนี้ได้ แม้ไม่ฟ้องลูกหนี้ก่อน
สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า กรณีเมื่อลูกหนี้ผิดนัด ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ทันทีโดยไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และมีข้อความอีกตอนหนึ่งว่า ยังยินยอมให้ผ่อนเวลาชำระหนี้ได้ และผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดชอบอยู่เสมอ ดังนี้ถือว่าเป็นการตกลงพิเศษ ผู้ค้ำประกันหารับผิดเพียงฐานะผู้ค้ำประกันตามกฎหมายเท่านั้นไม่
อนึ่ง การที่ผู้ค้ำประกันตกลงกันเป็นพิเศษยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้นั้น หาขัดกับความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 114 ข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ
ในกรณีลูกหนี้ตาย สัญญาค้ำประกันยังให้สิทธิเจ้าหนี้ฟ้องผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตายไม่ได้รับชำระหนี้จากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมรับชำระหนี้จนครบนั้น มิได้หมายความว่าจะต้องฟ้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใดยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่เสมอการที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้นั้น ไม่ขัดต่อมาตรา 191 หรือ 192 เพราะไม่ใช่อายุความของผู้ค้ำประกัน และข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1371/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาค้ำประกันพิเศษ: ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ ไม่ขัดกฎหมายและอายุความ
สัญญาค้ำประกันมีข้อความว่า กรณีเมื่อลูกหนี้ผิดนัด ผู้ค้ำประกันยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้ทันที โดยไม่ต้องฟ้องลูกหนี้ก่อน และมีข้อความอีกตอนหนึ่งว่า ยังยินยอมให้ผ่อนเวลาชำระหนี้ได้ และผู้ค้ำประกันยังคงรับผิดชอบผู้เสมอ ดังนี้ถือว่า เป็นการตกลงพิเศษ ผู้ค้ำประกันหารรับผิดเพียงฐานะผู้ค้ำประกันตามกฎหมายเท่านั้นไม่
อนึ่ง การที่ผู้ค้ำประกันตกลงเป็นพิเศษยอมรับผิดชั้นเดียวกับลูกหนี้นั้น หาขัดกับความสงบเรียกร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชนไม่ ตามประมวลกฎหมาแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 114 ข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ
ในกรณีลูกหนี้ตาย สัญญาค้ำประกันยังให้สิทธิเจ้าหน้าฟ้องผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตาย ได้รับรับชำระหนึ่งจากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมชำระหนี้จนครบนั้น มิได้หมายความว่า จะต้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใด ยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันได้ เมื่อพ้นกำหนดอายุความฟ้องความมรดกโดยผู้ค้ำประกันยินยอมและไม่ยกอายุความขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในทางคดี เป็นข้อแสดงให้เห็นชัดอยู่แล้วว่า เจ้าหนี้ไม่จำต้องฟ้องลูกหนี้หรือทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้
สัญญาค้ำประกันอีกข้อหนึ่งว่า ถ้าผู้กู้ถึงแก่ความตาย ไม่ได้รับชำระหนี้จากกองมรดกครบจำนวน ผู้ค้ำประกันยอมรับชำระหนี้จนครบ นั้น มิได้หมายความว่าจะต้องฟ้องทายาทหรือผู้จัดการมรดกของลูกหนี้ด้วยตราบใดยังไม่ได้รับชำระหนี้หรือกองมรดก ผู้ค้ำประกันก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่เสมอ การที่ผู้ค้ำประกันตกลงจะไม่ยกอายุความของลูกหนี้ขึ้นต่อสู้นั้น ไม่ขัดต่อมาตรา 191 หรือ 192 เพราะไม่ใช่อายุความของผู้ค้ำประกัน และข้อตกลงนี้ไม่เป็นโมฆะ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2503

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องแย่งการครอบครองที่ดินมือเปล่า และสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายที่เกี่ยวข้อง
โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่าจากการขายทอดตลาดของศาลเมื่อพ.ศ.2492 โดยโจทก์มิได้เข้าครอบครองเลย โจทก์เคยถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอนการขายทอดตลาดที่พิพาทดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้องคดีถึงที่สุดเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2497 ต่อมาวันที่ 16 มิถุนายน 2499 โจทก์มาฟ้องว่าระหว่างพ.ศ.2492 ถึง 2499 จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าทำนาในที่พิพาท ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้เรื่องอายุความ เช่น นี้ถือว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความเพราะโจทก์ไม่ฟ้องคดีเสียภายใน 1 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อนและศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1170/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความฟ้องขับไล่และเรียกค่าเสียหายจากผู้บุกรุกที่ดิน กรณีที่ดินไม่มีหนังสือสำคัญและเคยมีคดีความก่อนหน้านี้
โจทก์ซื้อที่ดินมือเปล่า จากการขายทอดตลาดของศาลเมื่อ พ.ศ. 2492 โดยโจทก์มิได้เข้าครอบครองเลย โจทก์เคยถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องขอให้ศาลสั่งเพิกถอน การขายทอดตลาดที่พิพาทดังกล่าว ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง คดีถึงที่สุดเพียงชั้นศาลอุทธรณ์ ศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้คู่ความฟังเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2497 ต่อมาวันที่ 16 มิ.ย. 2499 โจทก์มาฟ้องว่า ระหว่าง พ.ศ. 2492 ถึง 2499 จำเลยทั้งสามบุกรุกเข้าทำนาในที่พิพาท ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหาย จำเลยต่อสู้เรื่องอายุความ เช่นนี้ถือว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความ เพราะโจทก์ไม่ฟ้องคดีเสียภายใน 1 ปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1375
เมื่อศาลวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิจะเรียกร้องค่าเสียหายได้
ในกรณีดังกล่าวข้างต้น โจทก์จะอ้างว่าโจทก์มีสิทธิตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271 ว่า ชอบที่จะร้องได้ภายใน 10 ปี หาได้ไม่ เพราะมาตรา 271 เป็นบทบัญญัติถึงสิทธิของเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาที่จะร้องขอให้บังคับคดีตามคำพิพากษาตามที่โจทก์ถูกจำเลยที่ 1 ฟ้องในคดีก่อน และศาลยกฟ้องไปนั้น มิได้ทำให้โจทก์มีสิทธิในฐานะเป็นเจ้าหนี้ ตามคำพิพากษาเหนือจำเลยในคดีนี้อย่างใด กรณีไม่เข้าบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 271
of 2