พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1731/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ไม้สักแปรรูปเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูป ไม่ถือเป็นไม้แปรรูปตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ ผู้ครอบครองไม่มีความผิด
ไม้สักของกลางเป็นบานประตูหน้าต่างสำเร็จรูป สามารถนำไปใช้ติดตั้งอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างได้ทันที โดยไสกบตบแต่งเพียงเล็กน้อยเพื่อให้เข้ากับวงกบประตูหรือหน้าต่างมีสภาพเป็นของใหม่ยังไม่เคยใช้มาก่อน ทำไว้แน่น เป็นการแสดงเจตนาว่าจะนำไปใช้เป็นบานประตูหน้าต่างโดยเฉพาะ จึงมิใช่ไม้แปรรูปตามพระราชบัญญัติป่าไม้ แม้จำเลยมีไว้ในความครอบครองก็ไม่มีความผิด และไม่จำต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าจำเลยมีไว้ในความครอบครองมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี เพราะมิใช่เป็นไม้ที่เคยอยู่ในสภาพที่เป็นสิ่งปลูกสร้างหรือเคยอยู่ในสภาพเป็นเครื่องใช้มาก่อนแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1659/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องจำเลยโดยใช้ชื่อบริษัทไม่ถูกต้อง ศาลมีอำนาจสั่งแก้ฟ้องได้ แม้จะไม่ได้มีการขอ
โจทก์ฟ้องระบุบริษัทศรีเมืองประกันภัย จำกัด จำเลยที่ 2 ความจริงเป็นบริษัทประกันภัยศรีเมือง จำกัด จำเลยที่ 2 ให้การรับว่าได้รับประกันภัยรถยนต์ตามฟ้อง จึงเป็นเพียงพิมพ์ตำแหน่งในถ้อยคำผิดพลาดเล็กน้อย ไม่ใช่สารสำคัญแห่งคำฟ้อง แม้ศาลชั้นต้นมิได้สั่งคำร้องขอแก้ฟ้องโจทก์ก็มีอำนาจฟ้องจำเลยที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าเสียหายจากการละเมิด: การชดใช้ค่าแรงซ่อมแซมและค่าเครื่องมือที่ใช้ในการบรรเทาความเสียหาย
การที่คนงานของโจทก์ต้องหยุดงานอื่นที่ต้องทำตามปกติ ไปทำการซ่อมเสาไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าของโจทก์ ซึ่งเสียหายเนื่องจากการกระทำละเมิดของจำเลยนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์ต้องจ่ายค่าแรงงานแก่คนงานที่ไปทำงานเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการปฏิบัติงานตามปกติ และโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเมื่อคนงานของโจทก์ต้องหยุดงานอื่นที่ต้องทำงานตามปกติโจทก์เสียหายไปเพียงใด คงได้ความเพียงว่าโจทก์จ่ายเงินค่าจ้างประจำให้เท่านั้นเอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดเกี่ยวกับค่าแรงดังกล่าว
รายการครุภัณฑ์ยานพาหนะของโจทก์ที่ใช้สำหรับทุ่นแรง หิ้ว ยก และลำเลียงเสา ตลอดจนรถวิทยุบริการติดต่อกับศูนย์สั่งการ ที่จะทำการตัดไฟตามจำนวนที่ต้องการค่ารถขนหินทรายเพื่อนำไปหล่อฐานเสาคอนกรีตที่เสียหายและเก็บหินทรายไปทิ้งให้เรียบร้อย เป็นรายการค่าเสียหายเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยตรง หาใช่เป็นค่าเสียหายที่ไกลกว่าเหตุไม่จำเลยจำต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในรายการเหล่านี้ต่อโจทก์ด้วย
รายการครุภัณฑ์ยานพาหนะของโจทก์ที่ใช้สำหรับทุ่นแรง หิ้ว ยก และลำเลียงเสา ตลอดจนรถวิทยุบริการติดต่อกับศูนย์สั่งการ ที่จะทำการตัดไฟตามจำนวนที่ต้องการค่ารถขนหินทรายเพื่อนำไปหล่อฐานเสาคอนกรีตที่เสียหายและเก็บหินทรายไปทิ้งให้เรียบร้อย เป็นรายการค่าเสียหายเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยตรง หาใช่เป็นค่าเสียหายที่ไกลกว่าเหตุไม่จำเลยจำต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในรายการเหล่านี้ต่อโจทก์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1592/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดในความเสียหายจากการชนเสาไฟฟ้า และขอบเขตค่าเสียหายที่จำเลยต้องชดใช้ รวมถึงค่าแรงซ่อมแซมและค่าเครื่องมือที่ใช้
การที่คนงานของโจทก์ต้องหยุดงานอื่นที่ต้องทำตามปกติ ไปทำการซ่อมแซมเสาไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าของโจทก์ ซึ่งเสียหายเนื่องจากการกระทำละเมิดของจำเลยนั้น เมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์ต้องจ่ายค่าแรงงานแก่คนงานที่ไปทำงานเพิ่มขึ้นนอกเหนือจากการปฏิบัติงานตามปกติ และโจทก์นำสืบไม่ได้ว่าเมื่อคนงานของโจทก์ต้องหยุดงานอื่นที่ต้องทำงานตามปกติ โจทก์เสียหายไปเพียงใด คงได้ความเพียงว่าโจทก์จ่ายเงินค่าจ้างประจำให้เท่านั้นเอง จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดเกี่ยวกับค่าแรงดังกล่าว
รายการครุภัณฑ์ยานพาหนะของโจทก์ที่ใช้สำหรับทุ่นแรง หัว ยก และลำเลียงเสา ตลอดจนรถวิทยุบริการติดต่อกับศูนย์สั่งการ ที่จะทำการตัดไฟตามจำนวนที่ต้องการค่ารถชนหินทรายเพื่อนำไปหล่อฐานเสาคอนกรีตที่เสียหายและเก็บหินทรายไปทิ้งให้เรียบร้อยเป็นรายการค่าเสียหายเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยตรง หาใช่เป็นความเสียหายที่ไกลกว่าเหตุไม่ จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในรายการเหล่านี้ต่อโจทก์ด้วย
รายการครุภัณฑ์ยานพาหนะของโจทก์ที่ใช้สำหรับทุ่นแรง หัว ยก และลำเลียงเสา ตลอดจนรถวิทยุบริการติดต่อกับศูนย์สั่งการ ที่จะทำการตัดไฟตามจำนวนที่ต้องการค่ารถชนหินทรายเพื่อนำไปหล่อฐานเสาคอนกรีตที่เสียหายและเก็บหินทรายไปทิ้งให้เรียบร้อยเป็นรายการค่าเสียหายเนื่องมาจากการกระทำละเมิดโดยตรง หาใช่เป็นความเสียหายที่ไกลกว่าเหตุไม่ จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายในรายการเหล่านี้ต่อโจทก์ด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลฎีกา: การเสียค่าขึ้นศาลตามลักษณะคำร้อง และผลของการถอนฎีกาต่อการเรียกร้องค่าขึ้นศาลคืน
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ มิได้ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อแพ้ชนะในข้อหาแห่งคดี หรือขอให้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จึงควรเสียค่าขึ้นศาล 50 บาท โจทก์ได้เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง แต่มิได้โต้แย้งว่าศาลชั้นต้นกำหนดหรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้คืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินมาให้แก่โจทก์ในชั้นฎีกา แม้โจทก์จะขอให้ศาลฎีกาสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินไปให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ก็ขอถอนฎีกาเสียแล้ว ปัญหาค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติ โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลคืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินไปนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1528/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขึ้นศาลและการถอนฎีกา: สิทธิเรียกร้องค่าใช้จ่ายที่เสียไปเมื่อถอนฎีกาเป็นอันยุติ
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ศาลอุทธรณ์ย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ มิได้ขอให้วินิจฉัยชี้ขาดข้อแพ้ชนะในข้อหาแห่งคดี หรือขอให้พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี จึงควรเสียค่าขึ้นศาล 50 บาท โจทก์ได้เสียค่าขึ้นศาลตามจำนวนทุนทรัพย์ที่ฟ้อง แต่มิได้โต้แย้งว่าศาลชั้นต้นกำหนดหรือคำนวณค่าฤชาธรรมเนียมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และศาลอุทธรณ์มิได้สั่งให้คืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินมาให้แก่โจทก์ ในชั้นฎีกา แม้โจทก์จะขอให้ศาลฎีกาสั่งคืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินไปให้แก่โจทก์ แต่โจทก์ก็ขอถอนฎีกาเสียแล้ว ปัญหาค่าฤชาธรรมเนียมชั้นอุทธรณ์จึงเป็นอันยุติ โจทก์จะกลับมาขอให้ศาลคืนค่าขึ้นศาลที่เสียเกินไปนั้นไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1502/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขยายกำหนดเวลาไถ่ขายฝากขัดต่อกฎหมาย เป็นโมฆะ แม้มีข้อตกลงให้ซื้อคืน
โจทก์จดทะเบียนขายฝากที่พิพาทแก่จำเลย ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนโจทก์จำเลยทำสัญญากันว่า โจทก์ยืมเงินจำเลยจำนวนหนึ่ง โจทก์ขอต่อสัญญาขายฝากออกไปอีก 5 เดือน จำเลยจะไม่ขายที่ดินแปลงที่ขายฝากให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด ถ้าโจทก์นำเงินจำนวนดังกล่าวมาชำระ จำเลยจะโอนให้จะไม่คิดเกินราคาในสัญญานี้ ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญากันอีกว่า โจทก์ได้นำเงินมาชำระให้จำเลยส่วนหนึ่ง ขอต่อสัญญาไปอีก ดังนี้ ข้อตกลงตามหนังสือสัญญาทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นการขยายกำหนดเวลาไถ่ มิใช่เป็นคำมั่นว่าจำเลยตกลงจะขายที่พิพาทคืนให้โจทก์ จึงเป็นโมฆะเพราะขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1502/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายกำหนดเวลาไถ่ขายฝากขัดต่อกฎหมาย และสัญญานั้นเป็นโมฆะ
โจทก์จดทะเบียนขายฝากที่พิพาทแก่จำเลย ก่อนครบกำหนดไถ่ถอนโจทก์จำเลยทำสัญญากันว่า โจทก์ยืมเงินจำเลยจำนวนหนึ่ง โจทก์ขอต่อสัญญาขายฝากออกไปอีก 5 เดือน จำเลยจะไม่ขายที่ดินแปลงที่ขายฝากให้แก่ผู้หนึ่งผู้ใด ถ้าโจทก์นำเงินจำนวนดังกล่าวมาชำระจำเลยจะโอนให้จะไม่คิดเกินราคาในสัญญานี้ ต่อมาโจทก์จำเลยทำสัญญากันอีกว่าโจทก์ได้นำเงินมาชำระให้จำเลยส่วนหนึ่ง ขอต่อสัญญาไปอีก ดังนี้ข้อตกลงตามหนังสือสัญญากู้ทั้งสองฉบับดังกล่าวเป็นการขายกำหนดเวลาไถ่ มิใช่เป็นคำมั่นว่าจำเลยตกลงจะขายที่พิพาทคืนให้โจทก์จึงเป็นโมฆะเพราะขัดต่อประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 496
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คโดยไม่มีวันที่ และอำนาจฟ้องของผู้เสียหายร่วม
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าเนื้อที่ซื้อไปจาก ป.ให้แก่ ส. ป.และ ส.เป็นสามีภริยากัน ดำเนินกิจการค้าเนื้อ ย่อมเป็นเจ้าของกิจการร่วมกัน แม้ ส.จะนำเช็คไปเข้าบัญชี ป. เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินตามเช็ค ย่อมเกิดความเสียหายแก่ทั้ง ป. และ ส. ดังนั้น ส.จึงเป็นผู้เสียหายด้วย มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยได้
จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่าย วันสั่งจ่ายในเช็คที่ใช้ตรายางประทับเกิดขึ้นภายหลังโดยจำเลยมิได้รู้เห็นด้วย การที่จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายเช่นนี้ ถือได้ว่าไม่มีวันที่จำเลยผู้ออกเช็คกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด(อ้างฎีกาที่ 89 - 90/2513)
จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่าย วันสั่งจ่ายในเช็คที่ใช้ตรายางประทับเกิดขึ้นภายหลังโดยจำเลยมิได้รู้เห็นด้วย การที่จำเลยออกเช็คโดยมิได้ลงวันที่สั่งจ่ายเช่นนี้ ถือได้ว่าไม่มีวันที่จำเลยผู้ออกเช็คกระทำผิด การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิด(อ้างฎีกาที่ 89 - 90/2513)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ป่าช้าสาธารณะ: สิทธิครอบครองและการเข้ายึดถือโดยพลการ
ป่าช้าซึ่งประชาชนเคยใช้ประโยชน์ในการเผาและฝังศพเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน แม้จะยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนของทางการไว้และหมดสภาพเป็นป่าช้าเพราะโจทก์เข้าครอบครองประชาชนจึงไม่ได้ใช้มาหลายปีก็ตาม ตราบใดที่ทางราชการยังไม่ได้ถอนสภาพก็ยังเป็นป่าช้าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินอยู่นั่นเอง การที่โจทก์เข้ายึดถือโดยพลการไม่ทำให้โจทก์ได้สิทธิครอบครองตามกฎหมาย