คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ถนอม ครูไพศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2643/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตคำว่า 'ผลิตภัณฑ์อาหาร' ในประมวลรัษฎากร: อาหารสัตว์รวมด้วยหรือไม่
คำว่า 'ผลิตภัณฑ์อาหาร' ตามบัญชีที่ 1 หมวด 1 (4)ท้ายพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตรารัษฎากร (ฉบับที่ 21) พ.ศ. 2509 ไม่มีบทนิยามให้มีความหมายโดยเฉพาะ ย่อมค้นหาความหมายได้โดยเปรียบเทียบจากบทบัญญัติที่ใกล้เคียงอย่างยิ่งคือจากบทมาตราอื่นๆ ของประมวลรัษฎากร
คำว่า 'อาหาร' ในบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร ถ้าใช้เป็นคำกลางๆ หมายถึงอาหารสำหรับคนเท่านั้น หามีความหมายถึงอาหารสัตว์ด้วยไม่ คำว่า 'ผลิตภัณฑ์อาหาร' จึงหมายถึง อาหารคนแต่อย่างเดียว ถ้ากฎหมายประสงค์จะให้หมายถึงอาหารอย่างอื่น ก็จำเป็นจะต้องบัญญัติไว้ให้ชัดเป็นแห่ง ๆ ไป ฉะนั้น อาหารสัตว์จึงไม่อยู่ในความหมายของคำว่า 'ผลิตภัณฑ์อาหาร'

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2368-2369/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาก่อนมีคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์: ทิ้งฟ้องอุทธรณ์และการจำหน่ายคดี
โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยผู้อุทธรณ์ไม่จัดการนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ภายในกำหนดเวลาที่ศาลอุทธรณ์สั่งเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นไต่สวนแล้วศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าจำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์เกินกำหนดไป 1 วัน เพราะศาลชั้นต้นออกหมายนัดส่งไปยังกองบังคับคดีแพ่งล่าช้า และตามพฤติการณ์ยังไม่สมควรที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดีให้ยกคำร้องของโจทก์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ โจทก์จะฎีกาก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษามิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2365-2367/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาก่อนมีคำพิพากษาศาลอุทธรณ์และการทิ้งฟ้องอุทธรณ์
โจทก์ยื่นคำร้องว่า จำเลยผู้อุทธรณ์ ไม่จัดการนำส่งสำเนาอุทธรณ์แก่โจทก์ภายในกำหนดเวลาที่ศาลอุทธรณ์สั่งเป็นการทิ้งฟ้องอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ให้ศาลชั้นต้นไต่สวน แล้วศาลอุทธรณ์มีคำสั่งว่าจำเลยนำส่งสำเนาอุทธรณ์ให้โจทก์เกินกำหนดไป 1 วัน เพราะศาลชั้นต้นออกหมายนัดส่งไปยังกองบังคับคดีแพ่งล่าช้า และตามพฤติการณ์ยังไม่สมควรที่ศาลจะสั่งจำหน่ายคดี.ให้ยกคำร้องของโจทก์ คำสั่งของศาลอุทธรณ์เช่นว่านี้เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์โจทก์จะฎีกาก่อนศาลอุทธรณ์พิพากษามิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ต้องยื่นภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ มิเช่นนั้นศาลไม่รับพิจารณา
แม้กระบวนพิจารณาในชั้นอุทธรณ์จะไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ คู่ความก็ชอบที่จะแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ที่ได้ยื่นไว้แล้วได้ การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์โดยเพิ่มประเด็นขึ้นจากการอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ศาลสั่งรับไว้แล้ว ก็ต้องถือว่าเท่ากับยื่นอุทธรณ์เหมือนกัน จึงต้องยื่นภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1966/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ต้องยื่นภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ มิเช่นนั้น ศาลไม่รับพิจารณา
แม้กระบวนพิจารณาในชั้นอุทธรณ์จะไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ คู่ความก็ชอบที่จะแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์ที่ได้ยื่นไว้แล้วได้ การแก้ไขเพิ่มเติมอุทธรณ์โดยเพิ่มประเด็นขึ้นจากการอุทธรณ์ฉบับเดิมที่ศาลสั่งรับไว้แล้ว ก็ต้องถือว่าเท่ากับยื่นอุทธรณ์เหมือนกัน จึงต้องยื่นภายในกำหนดอายุอุทธรณ์ด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1807/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษหลายกรรมต่างกันจากการยิงต่อเนื่อง ศาลฎีกาแก้ไขโทษโดยลงโทษแต่ละกรรมตามบทหนัก
จำเลยร่วมกันใช้ปืนยิงเป็น 2 ชุด ชุดแรก 3 นัดติดๆ กันกระสุนปืนถูกผู้ตายซึ่งยืนอยู่บนบันไดร้านตกลงไปข้างล่างถึงแก่ความตาย ชุดหลังยิง 10 กว่านัด ถูกพวกผู้เสียหายซึ่งอยู่ข้างล่างร้านที่พื้นดินได้รับอันตรายแก่กาย ไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ เป็นการกระทำหลายกรรมต่างกัน มิใช่กรรมเดียวเป็นความผิดกฎหมายหลายบท

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินที่มีข้อตกลงให้ไถ่ถอนคืนได้ หากไม่ทำตามรูปแบบสัญญาขายฝาก สัญญาเป็นโมฆะ
บิดาจำเลยได้ขายนาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้โจทก์ ทำหนังสือสัญญากันเองชำระราคากันแล้ว และบิดาจำเลยได้ส่งมอบนาพิพาทให้โจทก์ครอบครองตั้งแต่วันทำสัญญา ในสัญญาซื้อขายนั้นมีข้อความว่า เมื่อผู้ขายต้องการจะไถ่ถอนนาคืน จะยอมคิดดอกเบี้ยให้ผู้ซื้อร้อยละ 10 บาทต่อเดือน อันเป็นข้อสัญญาที่ให้ไถ่ถอนนาคืนเช่นสัญญาขายฝาก
เมื่อไม่ได้ทำให้เป็นสัญญาขายฝากโดยถูกต้อง จึงตกเป็นโมฆะ จำเลยซึ่งเป็นบุตรของผู้ขายจะขอไถ่ถอนนาคืน โดยอาศัยสัญญานี้ไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 352/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาซื้อขายที่ดินมือเปล่ามีข้อตกลงให้ไถ่ถอนคืนได้ หากไม่ได้ทำตามรูปแบบสัญญาขายฝาก สัญญาเป็นโมฆะ
บิดาจำเลยได้ขายนาพิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าให้โจทก์ทำหนังสือสัญญากันเองชำระราคากันแล้ว และบิดาจำเลยได้ส่งมอบนาพิพาทให้โจทก์ครอบครองตั้งแต่วันทำสัญญาในสัญญาซื้อขายนั้นมีข้อความว่า เมื่อผู้ขายต้องการจะไถ่ถอนนาคืน จะยอมคิดดอกเบี้ยให้ผู้ซื้อร้อยละ 10 บาทต่อเดือนอันเป็นข้อสัญญาที่ให้ไถ่ถอนนาคืนเช่นสัญญาขายฝาก
เมื่อไม่ได้ทำให้เป็นสัญญาขายฝากโดยถูกต้องจึงตกเป็นโมฆะ จำเลยซึ่งเป็นบุตรของผู้ขายจะขอไถ่ถอนนาคืนโดยอาศัยสัญญานี้ไม่ได้ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 352/2492)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับเงินชำระหนี้ที่ไม่ใช่ใบรับตามประมวลรัษฎากร ใช้เป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ได้
เอกสารที่มีข้อความว่า "วันนี้ ข้าพเจ้านายสำราญ พานิชย์ ตัวแทนของนายยักโม ฮัลซิงห์ ได้รับชำระหนี้จากนายชัยยุทธ วงษ์เมธา ลูกหนี้ของนายยักโม ฮัลซิงห์ตามสัญญากู้ลงวันที่ 1 มกราคม 2506เป็นเงิน 14,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยครบถ้วนแล้ว และข้าพเจ้าจะได้นำเงินทั้งหมดนี้ไปชำระให้นายยักโม ฮัลซิงห์ เจ้าหนี้ต่อไปจึงได้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน" นั้น เป็นหลักฐานแสดงถึงฐานะของนายสำราญตัวแทนโจทก์ในอันที่จะรับชำระหนี้จากลูกหนี้เป็นหลักฐานแสดงว่าตัวแทนได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้แทนตัวการแล้วและเป็นหลักฐานแสดงว่าตัวแทนจะเอาเงินดังกล่าวไปส่งแก่ตัวการต่อไป เช่นนี้ ไม่เป็นใบรับตามประมวลรัษฎากร แต่เป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2515)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1765/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เอกสารรับเงินของตัวแทน ไม่ใช่ใบรับตามประมวลรัษฎากร ใช้เป็นหลักฐานการใช้เงินได้ตามกฎหมายแพ่ง
เอกสารที่มีข้อความว่า "วันนี้ ข้าพเจ้านายสำราญ พานิชย์ตัวแทนของนายยักโมฮัลซิงห์ ได้รับชำระหนี้จากนายชัยยุทธวงษ์เมธาลูกหนี้ของนายยักโมฮัลซิงห์ตามสัญญากู้ลงวันที่ 1 มกราคม 2506 เป็นเงิน 14,800 บาท พร้อมดอกเบี้ยครบถ้วนแล้ว และข้าพเจ้าจะได้นำเงินทั้งหมดนี้ไปชำระให้นายยักโมฮัลซิงห์ เจ้าหนี้ต่อไป จึงได้ลงชื่อไว้เป็นหลักฐาน" นั้น เป็นหลักฐานแสดงถึงฐานะของนายสำราญตัวแทนโจทก์ในอันที่จะรับชำระหนี้จากลูกหนี้เป็นหลักฐานแสดงว่าตัวแทนได้รับชำระหนี้จากลูกหนี้แทนตัวการแล้วและเป็นหลักฐานแสดงว่าตัวแทนจะเอาเงินดังกล่าวไปส่งแก่ตัวการต่อไป เช่นนี้ ไม่เป็นใบรับตามประมวลรัษฎากร แต่เป็นหลักฐานการใช้เงินตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรค 2(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 24/2515)
of 47