คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ถนอม ครูไพศาล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 469 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1163/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สิ่งที่มีค่าภารติดพัน: การชำระหนี้จำนองแทนแล้วจึงโอนที่ดิน ถือเป็นการให้ที่มีภาระผูกพัน โจทก์ถอนคืนไม่ได้
มารดายกที่ดินให้แก่บุตรโดยบุตรออกเงินชำระหนี้จำนองแทนมารดาเพราะมารดาไม่มีเงิน แล้วมารดามอบอำนาจให้บุตรไปไถ่ถอนจำนองและทำนิติกรรมให้ที่ดินจำเลยในวันเดียวกันนั้นดังนี้ ถือว่าเป็นการให้สิ่งที่มีค่าภารติดพัน มารดาจะถอนคืนการให้เพราะเหตุเนรคุณไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1160/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสภาพหนี้หลังเจ้ามรดกเสียชีวิต ทำให้อายุความเริ่มนับใหม่ และการที่ผู้จัดการมรดกปฏิเสธสัญญาก่อให้เกิดความเสียหาย
คำฟ้องของโจทก์บรรยายข้อเท็จจริงว่า เมื่อเจ้ามรดกคู่สัญญาถึงแก่กรรมลง จำเลยและทายาทของผู้ตายได้รับรู้สิทธิในสัญญาที่ผู้ตายได้ทำไว้กับโจทก์ และได้ปฏิบัติตามสิทธิทายาทผู้รับมรดกของผู้ตายด้วยดีตลอดมา ถือว่าโจทก์ได้ตั้งประเด็นไว้ในคำฟ้องแล้วว่าได้มีการรับสภาพหนี้หลังจากคู่สัญญาถึงแก่กรรม ฉะนั้น การที่ศาลวินิจฉัยว่ามีการรับสภาพหนี้ จึงไม่เป็นการวินิจฉัยนอกฟ้องนอกประเด็น
หลังจากคู่สัญญาถึงแก่กรรมและก่อนศาลมีคำสั่งตั้งจำเลยเป็นผู้จัดการมรดก โจทก์ได้ให้คนไปติดต่อกับจำเลยซึ่งเป็นทายาทของผู้ตายให้ไปให้ความยินยอมเกี่ยวกับการขยายแนวเขตถนนตามแบบแปลนปลูกสร้างที่ทางเทศบาลยังทักท้วงอยู่ จำเลยขอผัดให้จำเลยได้เป็นผู้จัดการมรดกเสียก่อนแล้วจะไปให้ความยินยอม และจำเลยเองก็รับว่าหลังจากจำเลยได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการมรดกแล้ว ได้ให้บุตรจำเลยไปเตือนโจทก์ด้วยวาจาและหนังสือให้โจทก์ไปทำการปลูกสร้างอาคารตามสัญญา เป็นการแสดงออกโดยชัดแจ้งว่าจำเลยยอมรับรู้สิทธิและหน้าที่ซึ่งจำเลยในฐานะผู้จัดการมรดกของคู่สัญญาจะถือปฏิบัติตามข้อตกลงในสัญญา พฤติการณ์ของจำเลยจึงถือได้ว่าจำเลยได้กระทำการอันปราศจากเคลือบแคลงสงสัยตระหนักเป็นปริยายว่ายอมรับสภาพตามสิทธิเรียกร้องนั้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 172
เมื่อมีการรับสภาพหนี้อายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1754 ที่มิให้เจ้าหนี้ฟ้องเมื่อพ้นกำหนด 1 ปี นับแต่วันตายของเจ้ามรดกย่อมสะดุดหยุดลงและต้องเริ่มนับขึ้นใหม่แต่เวลานั้นสืบไปตามอายุความแห่งมูลหนี้ซึ่งในคดีนี้มีอายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 นับแต่วันที่จำเลยรับสภาพหนี้จนถึงวันฟ้องเป็นเวลาเพียงปีเศษ คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ
เมื่อไม่ปรากฏชัดในฎีกาว่าศาลอุทธรณ์กำหนดค่าเสียหายที่ให้จำเลยใช้ ไม่ชอบด้วยเหตุผลในรายการใด และไม่ชอบอย่างไรศาลฎีกาก็ไม่รับวินิจฉัยฎีกาของจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1158/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การงดสืบพยานจำเลยชอบด้วยเหตุผลเมื่อทนายจำเลยละเลยหน้าที่และจำเลยไม่นำพยานมาศาล ส่อเจตนาประวิงคดี
ศาลได้กำหนดนัดวันสืบพยานโจทก์จำเลยตามที่ทนายจำเลยขอครั้นถึงวันเวลาที่กำหนด ทนายจำเลยไม่มาศาล ศาลชั้นต้นรอจนถึงเวลา 10.00 นาฬิกา จึงสืบพยานโจทก์ได้ 3 ปากหมดพยานโจทก์ สืบตัวจำเลยได้ 1 ปาก จำเลยแถลงว่าไม่ได้นำพยานอื่นมาศาลศาลชั้นต้นเห็นว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบ จึงให้งดสืบพยานอื่นของจำเลยเสีย ดังนี้ เห็นได้ว่า ทนายจำเลยมิได้เอาใจใส่ต่อวันนัดของศาล ทั้ง ๆ ที่ทนายจำเลยขอให้นัดเอง แต่พอถึงวันนัดกลับไปว่าความที่ศาลอื่นเสีย คงปล่อยให้จำเลยมาศาลตามลำพัง จำเลยมีหน้าที่นำพยานมาศาลตามวันเวลานัดซึ่งจำเลยและทนายจำเลยทราบดีอยู่แล้ว การที่จำเลยไม่นำพยานมาศาลย่อมเป็นการละเลยต่อหน้าที่และจำเลยแสดงให้เห็นไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นอย่างไรต้องเลื่อนคดีไป จึงเป็นพฤติการณ์ที่ส่อว่าจำเลยประวิงคดีให้ล่าช้า ศาลย่อมใช้ดุลพินิจสั่งงดสืบพยานได้ตามควรแก่กรณี เพื่อให้คดีดำเนินไปโดยรวดเร็วและยุติธรรม ที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานจำเลย ชอบด้วยเหตุผลแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินและผลกระทบต่ออำนาจฟ้อง สัญญาประนีประนอมยอมความ
จำเลยครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าไว้แทนโจทก์ก่อนฟ้องโจทก์จำเลยได้มีกรณีพิพาทกันชั้นอำเภอ แล้วได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้ากำนัน โดยโจทก์ยอมยกที่พิพาทให้จำเลยครอบครอง และยอมรับเงินชดใช้ค่าที่ดินจากจำเลย เป็นการสละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยเมื่อโจทก์ไม่ใช่เจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าเสียแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยอีก
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1087/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสละสิทธิครอบครองที่ดินด้วยสัญญาประนีประนอมยอมความ ทำให้โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง
จำเลยครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าไว้แทนโจทก์ก่อนฟ้องโจทก์จำเลยได้มีกรณีพิพาทกันชั้นอำเภอ แล้วได้ ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันต่อหน้ากำนัน โดยโจทก์ยอมยกที่พิพาทให้จำเลยครอบครอง และยอมรับเงินชดใช้ค่าที่ดินจากจำเลย เป็นการสละสิทธิครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยเมื่อโจทก์ไม่ใช่เจ้าของมีสิทธิครอบครองที่พิพาทซึ่งเป็นที่ดินมือเปล่าเสียแล้ว โจทก์ย่อมไม่มีอำนาจฟ้องเรียกที่พิพาทคืนจากจำเลยอีก
อำนาจฟ้องเป็นปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้จำเลยจะมิได้ให้การต่อสู้ไว้ศาลก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัย และพิพากษายกฟ้องโจทก์ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 956/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ดุลพินิจรอการลงโทษในคดีชุลมุนต่อสู้สำหรับผู้เยาว์และหญิง
ในคดีที่ฟ้องว่าจำเลยทำผิดฐานชุลมุนต่อสู้กันเป็นอันตรายสาหัสเมื่อจำเลยที่ 2 มีอายุเพียง 16 ปี และจำเลยที่ 3 และที่ 4 ก็เป็นหญิงอายุ 17 และ 19 ปี แม้จะเคยต้องคำพิพากษาให้จำคุกมาแล้ว ศาลย่อมใช้ดุลพินิจรอการลงโทษในคดีนี้ได้อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 894/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คำฟ้องความผิดทะเลาะวิวาทในที่สาธารณะ ไม่ต้องใช้ถ้อยคำตามกฎหมายเป๊ะๆ หากพอเข้าใจได้ว่าผิดก็ชอบด้วยกฎหมาย
คำฟ้องในข้อหาความผิดฐานทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือ สาธารณสถาน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 372 ไม่เคร่งครัดถึงกับต้องบรรยายใช้ถ้อยคำในตัวบทกฎหมายเสมอไป เมื่ออ่านคำฟ้องทั้งหมดพอเข้าใจได้ว่าเป็นการทะเลาะกันอย่างอื้ออึงในทางสาธารณะหรือสาธารณสถานแล้ว ก็เป็นคำฟ้องที่ชอบด้วยกฎหมาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 886/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิไถ่คืนการขายฝาก & เพิกถอนนิติกรรมฉ้อฉล: ผู้ขายใช้สิทธิไถ่ได้แม้จำเลยไม่ไปตามนัด และจำเลยที่ 1 ฉ้อฉลด้วยการโอนให้ภริยา
ก่อนครบกำหนดไถ่คืนการขายฝาก ผู้ขายได้ติดต่อขอไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากคืนจากผู้ซื้อและนัดวันที่จะไปจดทะเบียนไถ่ถอนกันแล้ว แต่ผู้ซื้อไม่ไปตามนัด หลังจากนั้นผู้ขายได้พยายามติดต่อกับผู้ซื้ออีก แต่ไม่สามารถติดต่อได้ผู้ขายจึงไปยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานที่ดินไว้เป็นหลักฐานว่าผู้ขายพร้อมแล้วที่จะไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากคืนภายในกำหนดดังนี้ ถือได้ว่าผู้ขายได้ใช้สิทธิไถ่ทรัพย์ที่ขายฝากคืนภายในกำหนดแล้วโดยชอบ ผู้ซื้อมีหน้าที่ต้องรับไถ่ (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 899/2495)
ผู้ซื้อนำทรัพย์ที่รับขายฝากไปโอนให้แก่ภริยาโดยเสน่หาทั้งๆ ที่ผู้ซื้อรู้อยู่ว่าผู้ขายยังมีสิทธิไถ่คืน ดังนี้ เป็นการฉ้อฉลอันทำให้ผู้ขายเสียเปรียบ ผู้ขายชอบที่จะร้องขอให้ศาลเพิกถอนนิติกรรมการโอนให้นั้นเสียได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 800/2515

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพัน แม้จะอ้างว่าลงชื่อโดยไม่สมัครใจ หากไม่มีการข่มขู่ที่ทำให้สัญญาไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องจำเลยขอให้แบ่งที่นาให้โจทก์ตามสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์จำเลยได้ทำต่อกันไว้ตามสำเนาบันทึกการประนีประนอมยอมความท้ายฟ้อง แต่จำเลยไม่ได้ให้การโดยแจ้งชัดถึงสัญญาประนีประนอมยอมความที่โจทก์อ้างว่าจำเลยตกลงแบ่งที่นาพิพาทตามสำเนาสัญญาท้ายฟ้องเลย ต้องถือว่าจำเลยรับว่าได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความไว้จริงยิ่งไปกว่านั้นตามสำเนาคำเปรียบเทียบของอำเภอซึ่งจำเลยแนบมาพร้อมกับคำให้การ จำเลยก็ยอมรับว่าได้ลงชื่อแบ่งที่ดินนี้จริงเป็นแต่อ้างว่าเซ็นชื่อโดยไม่สมัครใจ ที่จำเลยให้การว่าถูกขู่ แต่คำให้การของจำเลยไม่มีข้อความที่ทำให้เห็นว่าเป็นการข่มขู่อันจะทำให้สัญญาประนีประนอมไม่ชอบแต่ประการใด คดีจึงไม่จำต้องสืบพยานกันต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พยายามบุกรุกโดยมีอาวุธ: เจตนาจะเข้าบ้านแม้ไม่สำเร็จก็เป็นความผิดได้ และศาลมีอำนาจริบอาวุธที่ใช้
จำเลยมีอาวุธปืนติดตัวขู่จะยิงผู้เสียหายซึ่งหนีจำเลยไปอยู่บนบ้าน แต่พอจำเลยจะขึ้นบันไดเรือนผู้เสียหายซึ่งอยู่ติดทางเดินก็มีคนเข้ากอดจำเลยไว้ก่อน จึงขึ้นไปไม่ได้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาบุกรุกเข้าไปในบ้านผู้เสียหาย แต่จำเลยกระทำไปไม่ตลอด การกระทำของจำเลยเป็นความผิดฐานพยายามบุกรุกโดยมีอาวุธติดตัว อาวุธปืนนั้นเป็นทรัพย์ที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิด ศาลมีอำนาจสั่งริบได้
of 47