พบผลลัพธ์ทั้งหมด 438 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1877/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบเครื่องสล๊อทแมชีน: หลักฐานคำฟ้องด้วยวาจาพิสูจน์ได้ว่าสร้างขึ้นเพื่อเล่นการพนันโดยเฉพาะ
บันทึกหลักฐานการฟ้องคดีด้วยวาจาของผู้ว่าคดีเป็นหลักฐานแห่งคำฟ้องด้วยวาจาของโจทก์ด้วยส่วนหนึ่ง
เมื่อปรากฏในบันทึกหลักฐานการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แล้วว่าเครื่องสล๊อทแมชีนของกลางเป็นเครื่องเล่นการพนันที่ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นการพนันโดยเฉพาะ จะเล่นเป็นเกมอย่างอื่นไม่ได้ จำเลยรับสารภาพไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น เครื่องสล๊อทแมชีนของกลางจึงเป็นของที่ควรริบ
เมื่อปรากฏในบันทึกหลักฐานการฟ้องด้วยวาจาของโจทก์แล้วว่าเครื่องสล๊อทแมชีนของกลางเป็นเครื่องเล่นการพนันที่ได้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นการพนันโดยเฉพาะ จะเล่นเป็นเกมอย่างอื่นไม่ได้ จำเลยรับสารภาพไม่โต้แย้งเป็นอย่างอื่น เครื่องสล๊อทแมชีนของกลางจึงเป็นของที่ควรริบ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1796/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาที่ไม่รับพิจารณาเนื่องจากเป็นการโต้แย้งดุลพินิจโทษของศาลอุทธรณ์ ซึ่งเป็นปัญหาข้อเท็จจริงตามมาตรา 220
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 1,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นลงโทษจำคุก 1 ปีสถานเดียว และไม่รอการลงโทษ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จำเลยจึงฎีกาในเรื่องดุลพินิจขอให้วางโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1796/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงโทษจำคุกโดยศาลอุทธรณ์ และข้อจำกัดในการฎีกาเรื่องดุลพินิจโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลย 1 ปี และปรับ 1,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ เป็นลงโทษจำคุก 1 ปีสถานเดียว และไม่รอการลงโทษ คู่ความจะฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 220 จำเลยจึงฎีกาในเรื่องดุลพินิจขอให้วางโทษตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646-1649/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีอาญา: พนักงานอัยการมีอำนาจฟ้องคดีซ้ำ แม้ผู้เสียหายฟ้องแล้ว และฟ้องจำเลยอื่นได้
แม้ผู้เสียหายจะได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาไว้สำนวนหนึ่งแล้วก็ไม่มีกฎหมายจำกัดอำนาจของพนักงานอัยการมิให้ฟ้องจำเลยนั้นในเรื่องเดียวกันเป็นคดีใหม่อีกสำนวนหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1646-1649/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของพนักงานอัยการ: คดีอาญาที่ผู้เสียหายฟ้องแล้ว พนักงานอัยการยังฟ้องซ้ำได้
แม้ผู้เสียหายจะได้ยื่นฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาไว้สำนวนหนึ่งแล้ว ก็ไม่มีกฎหมายจำกัดอำนาจของพนักงานอัยการมิให้ฟ้องจำเลยนั้นในเรื่องเดียวกันเป็นคดีใหม่อีกสำนวนหนึ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1617/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อชำระเป็นงวด การบอกเลิกสัญญาและการริบเงินค่าเช่าซื้อ
สัญญาเช่าซื้อมีข้อตกลงว่า ในวันทำสัญญา ผู้เช่าซื้อได้ชำระค่าเช่าซื้อให้ผู้ให้เช่าซื้อแล้วส่วนหนึ่ง ส่วนค่าเช่าที่เหลือจะชำระในวันที่กำหนดในสัญญาอีกงวดหนึ่ง ถือได้ว่าได้มีการตกลงชำระค่าเช่าซื้อกันเป็น 2 งวด และข้อตกลงว่าถ้าผู้เช่าซื้อผิดนัดไม่ชำระค่าเช่าซื้องวดใดงวดหนึ่งให้ถือว่าผิดนัดสัญญาเช่าซื้อทั้งหมดไม่ขัดต่อมาตรา 574 วรรคสอง แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาแล้วนอกจากผู้ให้เช่าซื้อจะมีสิทธิเอาทรัพย์คืนและริบเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระไปแล้ว ผู้เช่าซื้อยังต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามที่ตกลงไว้ในสัญญาด้วย
คำฟ้องบังคับให้ผู้เช่าซื้อชำระเงินค่าเช่าซื้อ โดยมิได้บรรยายถึงว่า ผู้ให้เช่าซื้อเอาทรัพย์ที่เช่าซื้อกลับคืนแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ใช่สภาพแห่งข้อหา ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง
ผู้เช่าซื้อไม่ชำระค่าเช่าซื้อตามสัญญา ผู้ให้เช่าซื้อบอกเลิกสัญญาแล้วนอกจากผู้ให้เช่าซื้อจะมีสิทธิเอาทรัพย์คืนและริบเงินค่าเช่าซื้อที่ชำระไปแล้ว ผู้เช่าซื้อยังต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อตามที่ตกลงไว้ในสัญญาด้วย
คำฟ้องบังคับให้ผู้เช่าซื้อชำระเงินค่าเช่าซื้อ โดยมิได้บรรยายถึงว่า ผู้ให้เช่าซื้อเอาทรัพย์ที่เช่าซื้อกลับคืนแล้ว ไม่เป็นฟ้องที่เคลือบคลุมข้อเท็จจริงดังกล่าวไม่ใช่สภาพแห่งข้อหา ไม่จำต้องกล่าวในฟ้อง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารยกทรัพย์ให้มีผลทันที ไม่ใช่พินัยกรรมที่บังคับใช้เมื่อเสียชีวิต
เอกสารที่ผู้ตายทำไว้ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพินัยกรรมหรือแสดงถึงเจตนาของผู้ตายในการ กำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินว่า ให้เกิดผลบังคับเมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้วเลยแม้เอกสารดังกล่าวจะมีข้อความว่า 'เวลาทำหนังสือฉบับนี้มีสติสัมปชัญญะดีเป็นปกติดี' ก็ดี หรือ 'ขอเจตนาครั้งสุดท้าย' ก็ดีก็หาทำให้แปลความได้ว่าผู้ตายมีเจตนาที่จะยกทรัพย์ของตนให้เมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้วไม่ ข้อความในตอนท้ายของเอกสารที่ว่า 'ข้าพเจ้าขอยกให้ (ระบุชื่อผู้รับ) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป'กลับแสดงแจ้งชัดว่าผู้ตายเจตนาที่จะยกทรัพย์ให้แก่ผู้รับทันทีในระหว่างที่ตนยังมีชีวิต เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่พินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1420/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารยกทรัพย์สินระหว่างมีชีวิต ไม่ใช่พินัยกรรม
เอกสารที่ผู้ตายทำไว้ไม่มีข้อความตอนใดที่แสดงให้เห็นว่าเป็นพินัยกรรมหรือแสดงถึงเจตนาของผู้ตายในการกำหนดการเผื่อตายในเรื่องทรัพย์สินว่า ให้เกิดผลบังคับเมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้วเลยแม้เอกสารดังกล่าวจะมีข้อความว่า 'เวลาทำหนังสือฉบับนี้มีสติสัมปชัญญะดีเป็นปกติดี' ก็ดี หรือ 'ขอเจตนาครั้งสุดท้าย' ก็ดีก็หาทำให้แปลความได้ว่าผู้ตายมีเจตนาที่จะยกทรัพย์ของตนให้เมื่อตนถึงแก่ความตายไปแล้วไม่. ข้อความในตอนท้ายของเอกสารที่ว่า 'ข้าพเจ้าขอยกให้ (ระบุชื่อผู้รับ) ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป'กลับแสดงแจ้งชัดว่าผู้ตายเจตนาที่จะยกทรัพย์ให้แก่ผู้รับทันทีในระหว่างที่ตนยังมีชีวิต เอกสารดังกล่าวจึงไม่ใช่พินัยกรรม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1407/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนผู้จัดการมรดก: ผู้มีส่วนได้เสียร้องขอในคดีเดิมได้ ไม่ต้องฟ้องคดีใหม่
คดีตั้งผู้จัดการมรดก เมื่อศาลสั่งตั้งผู้จัดการมรดกแล้วผู้มีส่วนได้เสียจะขอให้ศาลถอนผู้จัดการมรดกโดยเสนอคำร้องขอเข้ามาในคดีเดิมได้ ไม่จำต้องฟ้องเป็นคดีใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนหุ้นต้องทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด หากไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ สัญญาโอนหุ้นเป็นโมฆะ
ผู้โอนมีหนังสือถึงบริษัทว่าผู้โอนประสงค์จะโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นให้แก่ผู้รับโอน แล้วต่อมาผู้รับโอนก็มีหนังสือถึงบริษัทว่ามีความประสงค์จะรับโอนหุ้นดังกล่าว ขอให้บริษัทจัดการโอนหุ้นดังกล่าวดังนี้ หนังสือทั้งสองฉบับนี้เป็นเรื่องที่ผู้โอนและผู้รับโอนแจ้งความประสงค์เพื่อให้บริษัทจัดการโอนหุ้นเท่านั้น หาใช่เป็นหนังสือโอนหุ้นที่ผู้โอนกับผู้รับโอนจะสมัครใจซื้อขายหุ้นกัน แต่มิได้จัดทำตามแบบที่กฎหมายบังคับไว้ การโอนหุ้นชนิดระบุชื่อลงในใบหุ้นดังกล่าวย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 วรรค 2