พบผลลัพธ์ทั้งหมด 438 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1524/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอมโดยอายุความ: การจดทะเบียนเพื่อรักษาสิทธิ
เจ้าของทางเดินภารจำยอมซึ่งได้มาโดยอายุความเรียกให้เจ้าของภารยทรัพย์จดทะเบียนได้ เป็นการจำเป็นเพื่อรักษาสิทธิภารจำยอมตามมาตรา 1391
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1449/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ภารจำยอม: สิทธิจำกัดการใช้ทาง – เจ้าของที่ดินตอนในห้ามขยายทาง
ภารจำยอมเป็นทางเดินกว้าง 1.25 เมตร ไม่มีสภาพเป็นทางรถยนต์เข้าออก โจทก์เจ้าของที่ดินตอนในไม่มีสิทธิให้จำเลยเจ้าของภารยทรัพย์เปิดเป็นทางรถยนต์กว้าง 3 เมตร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429-1430/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิไถ่คืนการขายฝากที่ไม่มีกำหนดเวลา และข้อยกเว้นค่าเสียหายจากการครอบครอง
โจทก์ขายฝากห้องพิพาทโดยไม่มีกำหนดเวลาไถ่ โจทก์จึงมีสิทธิขอไถ่ได้ภายในกำหนด 10 ปี และที่โจทก์ให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อฝากไปที่ว่าการอำเภอตามวันเวลาที่กำหนดเพื่อไถ่ถอนการขายฝาก ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จำเลยได้รับแล้ว แม้จะคืนหนังสือนั้นไปก็ฟังว่าจำเลยได้ทราบการขอไถ่ และถือว่าโจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
การที่จำเลยผู้ซื้อฝากให้โจทก์ผู้ขายฝากเช่าห้องพิพาทและต่อมาไม่ยอมให้โจทก์ไถ่คืน โจทก์ย่อมไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหาย ที่ไม่ยอมออกจากห้องพิพาทที่เช่านั้นนับแต่วันที่โจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
การที่จำเลยผู้ซื้อฝากให้โจทก์ผู้ขายฝากเช่าห้องพิพาทและต่อมาไม่ยอมให้โจทก์ไถ่คืน โจทก์ย่อมไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหาย ที่ไม่ยอมออกจากห้องพิพาทที่เช่านั้นนับแต่วันที่โจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1429-1430/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไถ่ถอนการขายฝากที่ไม่มีกำหนดเวลาไถ่ และสิทธิในการครอบครองห้องพิพาทหลังใช้สิทธิไถ่
โจทก์ขายฝากห้องพิพาทโดยไม่มีกำหนดเวลาไถ่ โจทก์จึงมีสิทธิขอไถ่ได้ภายในกำหนด 10 ปี และที่โจทก์ให้ทนายความมีหนังสือแจ้งให้จำเลยซึ่งเป็นผู้ซื้อฝากไปที่ว่าการอำเภอตามวันเวลาที่กำหนดเพื่อไถ่ถอนการขายฝาก ส่งทางไปรษณีย์ลงทะเบียน จำเลยได้รับแล้ว แม้จะคืนหนังสือนั้นไปก็ฟังว่าจำเลยได้ทราบการขอไถ่ และถือว่าโจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
การที่จำเลยผู้ซื้อฝากให้โจทก์ผู้ขายฝากเช่าห้องพิพาท และต่อมาไม่ยอมให้โจทก์ไถ่คืน โจทก์ย่อมไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายที่ไม่ยอมออกจากห้องพิพาทที่เช่านั้นนับแต่วันที่โจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
การที่จำเลยผู้ซื้อฝากให้โจทก์ผู้ขายฝากเช่าห้องพิพาท และต่อมาไม่ยอมให้โจทก์ไถ่คืน โจทก์ย่อมไม่ต้องรับผิดในค่าเสียหายที่ไม่ยอมออกจากห้องพิพาทที่เช่านั้นนับแต่วันที่โจทก์ใช้สิทธิไถ่คืนโดยชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1394/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
รับเงินค่าไถ่โดยมีส่วนได้เสียกับคนร้าย ไม่ถือเป็นความช่วยเหลือโดยสุจริต
รับเงินจากผู้เสียหายไปให้คนร้ายเป็นค่าไถ่โดยมีส่วนได้เสียร่วมกับคนร้าย ไม่ใช่ช่วยเหลือผู้เสียหายโดยสุจริต เป็นความผิดตามมาตรา 315
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: ความรับผิดชอบการทำถนนสาธารณะและผลของการไม่ปฏิบัติตามสัญญา
จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งร่วมกันกับผู้มีชื่ออีก 5 คน ต่อมาจำเลยกับผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมได้ขอแบ่งแยกโฉนดเป็นของแต่ละคน และได้ตกลงกันตัดถนนทางด้านทิศเหนือของที่ดินที่ขอแบ่งแยกแต่ละแปลงไปออกยังถนนพหลโยธิน โจทก์ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินส่วนของจำเลยจากจำเลยและวางมัดจำไว้ โดยระบุในข้อสัญญาว่า ในกรณีที่มีการทำถนนร่วมกัน ทุกฝ่ายได้ตกลงกันว่า ผู้ที่มีที่ดินร่วมกันจะสละที่ดินให้เป็นสาธารณะ และช่วยกันลงทุนทำถนนร่วมกัน ในกรณีทำคอถนนเชื่อมกับถนนพหลโยธินทุกฝ่ายจะต้องลงทุนร่วมกันโดยเฉลี่ยทุนทรัพย์เท่ากัน ดังนี้ข้อสัญญาดังกล่าวเพียงแต่กล่าวว่า ผู้ที่มีที่ดินร่วมกันจะสละที่ดินทำถนนและลงทุนทำถนนกับคอถนน เชื่อมกับถนนพหลโยธินโดยเฉลี่ยทุนทรัพย์เท่าๆ กัน ไม่มีทางที่จะแปลไปได้ว่า จำเลยตกลงรับผิดชอบทำถนนตลอดสายเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นซึ่งมิได้ตกลงทำสัญญา และไปจดทะเบียนให้เป็นถนนสาธารณะด้วย ดังนั้น การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งสละที่ดินทำถนนแล้ว แต่ยังไม่ยอมให้ทำคอถนนในที่ดินส่วนของผู้นั้นไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน จึงถือมิได้ว่าจำเลยผิดสัญญา เมื่อโจทก์ปฏิเสธไม่ยอมรับซื้อที่ดินตามสัญญา โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยชอบที่จะริบมัดจำเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1376/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การปฏิเสธการซื้อเนื่องจากข้อจำกัดในการทำถนนสาธารณะ มิถือเป็นความผิดของจำเลย
จำเลยมีกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดแปลงหนึ่งร่วมกันกับผู้มีชื่ออีก 5 คน ต่อมาจำเลยกับผู้มีกรรมสิทธิ์ร่วมได้ขอแบ่งแยกโฉนดเป็นของแต่ละคน และได้ตกลงกันตัดถนนทางด้านทิศเหนือของที่ดินที่ขอแบ่งแยกแต่ละแปลงไปออกยังถนนพหลโยธิน โจทก์ได้ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินส่วนของจำเลย จากจำเลยและวางมัดจำไว้ โดยระบุในข้อสัญญาว่า ในกรณีที่มีการทำถนนร่วมกัน ทุกฝ่ายได้ตกลงกันว่า ผู้ที่มีที่ดินร่วมกันจะสละที่ดินให้เป็นสาธารณะ และช่วยกันลงทุนทำถนนร่วมกัน ในกรณีทำคอถนนเชื่อมกับถนนพหลโยธิน ทุกฝ่ายจะต้องลงทุนร่วมกันโดยเฉลี่ยทุนทรัพย์เท่ากัน ดังนี้ข้อสัญญาดังกล่าวเพียงแต่กล่าวว่า ผู้ที่มีที่ดินร่วมกันจะสละที่ดินทำถนนและลงทุนทำถนนกับคอถนนเชื่อมกับถนนพหลโยธิน โดยเฉลี่ยทุนทรัพย์เท่า ๆ กัน ไม่มีทางที่จะแปลไปได้ว่าจำเลยตกลงรับผิดชอบทำถนนตลอดสายเข้าไปในที่ดินของผู้อื่นซึ่งมิได้ตกลงทำสัญญา และไปจดทะเบียนให้เป็นถนนสาธารณะด้วย ดังนั้น การที่เจ้าของร่วมคนหนึ่งสละที่ดินทำถนนแล้วแต่ยังไม่ยอมให้ทำคอถนนในที่ดินส่วนของผู้นั้นไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน จึงถือมิได้ว่าจำเลยผิดสัญญา เมื่อโจทก์ปฏิเสธไม่ยอมรับซื้อที่ดินตามสัญญา โจทก์จึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา จำเลยชอบที่จะริบมัดจำเสียได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1235/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาผูกพันแม้ขาดตราบริษัท หากมีการปฏิบัติตามสัญญา และไม่ต้องทำเป็นหนังสือ
กรรมการบริษัทลงลายมือชื่อในสัญญาจ้างทำของโดยมิได้ประทับตราของบริษัทตามข้อบังคับ แต่ได้ปฏิบัติตามสัญญาตลอดมา สัญญานั้นผูกพันบริษัท ถึงแม้จะมิได้ปิดอากรแสตมป์เพราะสัญญาจ้างทำของไม่ต้องทำเป็นหนังสือดุจสัญญาเช่าซื้อ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1193-1195/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคัดค้านผลเลือกตั้ง: การระบุเหตุทุจริตต้องชัดเจนและมีรายละเอียดเพียงพอ
ผู้ร้องคัดค้านการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบรรยายคำร้องว่าเจ้าพนักงานและกรรมการตรวจคะแนนปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและโดยทุจริตทำให้คะแนนของผู้สมัครหมายเลข 3 เลข 4 มากกว่าความเป็นจริงและคะแนนของผู้ร้องน้อยกว่าความเป็นจริงโดยมิได้ระบุไว้ว่าคะแนนที่ผิดจากความเป็นจริงนี้มีจำนวนเท่าใด เช่นนี้เมื่อเหตุทุจริตเกิดในหน่วยเลือกตั้งตามที่ระบุในคำร้องมีหลายสิบหน่วย หากเจ้าหน้าที่ได้กระทำการทุจริตดังกล่าวจริงก็ยากที่ผู้ร้องจะประมาณคะแนนที่เกิดจากความทุจริตได้ การไม่ระบุจำนวนคะแนนในกรณีเช่นนี้จึงไม่ทำให้คำร้องเคลือบคลุม แต่ที่ผู้ร้องคัดค้านระบุในคำร้องว่าผู้สมัครหมายเลข 3 เลข 4 ให้ทรัพย์หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินเช่น เงิน เสื้อผ้า ข้าวสาร ฯลฯ แก่ผู้เลือกตั้งเพื่อจงใจให้ผู้เลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนโดยมิได้กล่าวให้ชัดแจ้งว่าผู้สมัครหมายเลขใดให้หรือรับว่าจะให้ทรัพย์สินอย่างใดแก่ผู้ใด ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
การตรวจนับคะแนนมีผิดพลาดบ้างซึ่งไม่ทำให้ผลการลงคะแนนเลือกตั้งเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นเหตุอันควรสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
การตรวจนับคะแนนมีผิดพลาดบ้างซึ่งไม่ทำให้ผลการลงคะแนนเลือกตั้งเปลี่ยนแปลง ไม่เป็นเหตุอันควรสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1169/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คนกลางไถ่กระบือ ไม่มีความรู้เห็นร่วมกับผู้ร้าย ไม่ถึงฐานรับของโจร
จำเลยเป็นคนกลางติดต่อไถ่กระบือจากคนร้ายให้ผู้เสียหายเพราะพวกผู้เสียหายร้องขอให้ทำมิได้มีข้อเท็จจริงอย่างใดที่ส่อพิรุธว่าจำเลยร่วมรู้เห็นเป็นใจกับคนร้ายเรียกค่าไถ่กระบือจากผู้เสียหายเช่นนี้ยังลงโทษจำเลยฐานรับของโจรไม่ได้