พบผลลัพธ์ทั้งหมด 589 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1215/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพยายามฆ่าเจ้าพนักงานและต่อสู้ขัดขวางการจับกุม การลงโทษความผิดหลายกรรมต่างกัน
ขณะที่ผู้เสียหายซึ่งเป็นตำรวจกอดปล้ำจับจำเลย จำเลยได้ชักปืนออกมาจากเอวตำรวจอีกคนหนึ่งก็เตะปืนหลุดจากมือจำเลยไปเสียก่อน ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ลงมือกระทำผิดแล้วแต่กระทำไปไม่ตลอด จำเลยไม่มีความผิดฐานพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืน กับความผิดฐานมีวัตถุระเบิดใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เป็นความผิดสองกรรมต่างกัน หาใช่เป็นความผิดกรรมเดียวแต่ละเมิดกฎหมายหลายบทไม่
ความผิดฐานมีอาวุธปืนและกระสุนปืน กับความผิดฐานมีวัตถุระเบิดใช้เฉพาะแต่ในการสงครามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ เป็นความผิดสองกรรมต่างกัน หาใช่เป็นความผิดกรรมเดียวแต่ละเมิดกฎหมายหลายบทไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1197/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดร่วมในการละเมิดของลูกจ้าง และการปิดอากรแสตมป์ที่สมบูรณ์
จำเลยที่ 1จดทะเบียนเดินรถร่วมกิจการขนส่งกับจำเลยที่ 2จำเลยที่ 2 ต้องร่วมรับผิดในการทำละเมิดของ ส.ลูกจ้างขับรถของจำเลยที่ 1 ที่นำมาเดินร่วมกับจำเลยที่ 2
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีปิดอากรแสตมป์ 10 บาท และขีดฆ่าหลังจากทำตราสารแล้ว ถือว่าปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีในประมวลรัษฎากร รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
ใบมอบอำนาจให้ฟ้องคดีปิดอากรแสตมป์ 10 บาท และขีดฆ่าหลังจากทำตราสารแล้ว ถือว่าปิดแสตมป์ครบจำนวนตามอัตราในบัญชีในประมวลรัษฎากร รับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเลือกตั้งใหม่ต้องชัดเจน: การระบุข้อผิดพลาดในการนับคะแนนและพฤติการณ์ทุจริตต้องเฉพาะเจาะจง
คำร้องระบุแน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ ตำบล อำเภอใดได้นับคะแนนผิดความจริง คืออ่านบัตรดีของผู้ร้องเป็นบัตรเสีย และอ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลขใดเป็นบัตรดี แต่ไม่ได้ระบุว่าอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหน และอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดี ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม (อ้างนัยคำสั่งศาลฎีกาที่ 1901/2512)
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไร ที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องที่อ้างว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มิได้ยืนยันว่าผู้ได้รับเลือกตั้งคนใดให้ทรัพย์สินอะไรแก่ผู้ใด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไร ที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องที่อ้างว่า ผู้ได้รับเลือกตั้งบางคนได้ให้ทรัพย์สินแก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง มิได้ยืนยันว่าผู้ได้รับเลือกตั้งคนใดให้ทรัพย์สินอะไรแก่ผู้ใด เป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำร้องเลือกตั้งใหม่ต้องชัดเจนระบุรายละเอียดการกระทำผิด มิเช่นนั้นถือเป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่าคณะกรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ ตำบล อำเภอใดได้นับคะแนนผิดความจริง คืออ่านบัตรดีของผู้ร้องเป็นบัตรเสีย และอ่านบัตรเสียของผู้สมัครหมายเลขใดเป็นบัตรดี แต่ไม่ได้ระบุว่าอ่านบัตรดีให้เป็นบัตรเสียชนิดไหน และอ่านบัตรเสียชนิดไหนให้เป็นบัตรดี ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม (อ้างนัยคำสั่งศาลฎีกาที่ 1901/2512)
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไรที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำร้องอ้างว่ากรรมการตรวจนับคะแนนอ่านบัตรที่มีผู้ลงคะแนนให้ผู้ร้องหมายเลข 4 เป็นหมายเลขอื่น เพื่อช่วยเหลือคนอื่น โดยไม่ยืนยันว่าเป็นหมายเลขใดและผู้ใด ดังนี้เป็นคำร้องเคลือบคลุม
คำร้องระบุแน่ชัดว่า กรรมการตรวจนับคะแนนหน่วยเลือกตั้งท้องที่ใดบ้าง รายงานการเลือกตั้งไม่ตรงกับความจริง โดยไม่ได้บรรยายให้แจ้งชัดว่ามีการกระทำอย่างไรที่เป็นรายงานการเลือกตั้งที่ไม่ตรงกับความจริง คงอ้างแต่ผลของรายงานว่า ทำให้จำนวนบัตรคะแนนของผู้ได้รับเลือกตั้งมีมากกว่าจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งและมากกว่าจำนวนบัตรที่อยู่ในหีบบัตรเลือกตั้ง ทำให้ยากที่ผู้คัดค้านจะเข้าใจคำร้องและต่อสู้คดีได้ถูกต้อง ย่อมเป็นคำร้องที่เคลือบคลุม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1131/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเข้าเป็นจำเลยร่วมและสิทธิในที่ดินที่ได้มาจากการซื้อ
จำเลยให้การในคดีฟ้องขับไล่ว่าได้อยู่ในที่พิพาทโดยอาศัยสิทธิจาก ก.ก.ยื่นคำร้องขอเข้าเป็นจำเลยร่วมศาลอนุญาต แม้ศาลไม่รับคำให้การของ ก. จำเลยร่วม ก. ก็นำสืบตามข้อที่จำเลยเดิมให้การไว้ว่า ก. ซื้อที่ดินจาก ต.ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1122/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ที่ดิน - เจ้าพนักงานตุลาการ - ความเท็จ - แจ้งความเท็จ
ยื่นคำร้องขอเป็นคดีไม่มีข้อพิพาทขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินตาม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 เพื่อตั้งประเด็นแม้ผู้พิพากษาเป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการหากข้อความเป็นเท็จก็ไม่เป็นแจ้งความเท็จแก่เจ้าพนักงานตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญาเช่าซื้อ: การคืนเงินค่าเช่าซื้อหลังการยึดทรัพย์ และการหักค่าประโยชน์ที่ได้รับ
กรณีที่ถือได้ว่าผู้เช่าและเจ้าของทรัพย์สินมีเจตนาเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 เงินที่ผู้เช่าชำระให้แก่เจ้าของทรัพย์สินเป็นค่าเช่าไปแล้วนั้น ต้องหักค่าที่ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่าซื้อออกเสียก่อน ที่เหลือจึงคืนแก่ผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1054/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เลิกสัญญาเช่าซื้อ: การคืนเงินค่าเช่าซื้อหลังจำเลยไม่ปฏิบัติตามสัญญา โดยหักค่าประโยชน์ที่โจทก์ได้รับ
กรณีที่ถือได้ว่าผู้เช่าและเจ้าของทรัพย์สินมีเจตนาเลิกสัญญาเช่าซื้อต่อกัน คู่สัญญาแต่ละฝ่ายต้องกลับคืนสู่ฐานะเดิมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 391 เงินที่ผู้เช่าชำระให้แก่เจ้าของทรัพย์สินเป็นค่าเช่าไปแล้วนั้นต้องหักค่าที่ผู้เช่าได้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินที่เช่าซื้อออกเสียก่อน ที่เหลือจึงคืนแก่ผู้เช่า
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จัดการงานนอกสั่งและการระงับหนี้ค่าซ่อมรถยนต์จากประกันภัยค้ำจุน
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ของจำเลยตามกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า โจทก์จะใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกรายหนึ่ง ๆ ไม่เกิน 10,000 บาท รถยนต์ของจำเลยคันนั้นได้ชนกับรถยนต์คันอื่น ซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดชอบโจทก์ได้ซ่อมรถคันที่ถูกชนนั้นสิ้นเงินไป 25,000 บาท ขอให้จำเลยใช้เงิน 15,000 บาท ที่โจทก์จ่ายเกินไปให้โจทก์ดังนี้ บุคคลภายนอกผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้รับเงินค่าซ่อมรถจากโจทก์เป็นจำนวนเท่าที่โจทก์กับจำเลยได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ส่วนจำนวนที่ยังขาดอยู่นั้นชอบที่จะเรียกร้องให้จำเลยใช้ให้ โจทก์ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะจ่ายเงินค่าซ่อมรถให้ผู้ต้องเสียหายเกินกว่าความรับผิดของตนซึ่งจำกัดไว้เพียง 10,000 บาท แต่เมื่อได้จ่ายไปแล้วแม้จำเลยจะไม่ได้มอบหมายให้จัดการแทนก็ตาม ก็ย่อมเป็นผลทำให้หนี้ค่าซ่อมรถที่ยังขาดอยู่นั้นระงับไป และจำเลยหลุดพ้นความรับผิดต่อผู้ต้องเสียหายจึงอาจสมประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นตัวการและต้องตามความประสงค์อันแท้จริงของตัวการหรือความประสงค์ตามที่จะพึงสันนิษฐานได้ กรณีตามฟ้องเป็นเรื่องจัดการงานนอกสั่งที่อาจจะก่อให้เกิดหนี้ที่ผูกพันจำเลยให้ต้องชดใช้เงินที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการได้ออกทดรองจัดการงานให้จำเลยไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 401 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลยศาลชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1042/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการงานนอกสั่งของผู้รับประกันภัยค้ำจุน และสิทธิเรียกร้องเงินค่าซ่อมจากตัวการ
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นผู้รับประกันภัยค้ำจุนรถยนต์ของจำเลย ตามกรมธรรม์ประกันภัยมีว่า โจทก์จะใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่บุคคลภายนอกรายหนึ่ง ๆ ไม่เกิน 10,000 บาท รถยนต์ของจำเลยคันนั้นได้ชนกับรถยนต์คันอื่น ซึ่งจำเลยจะต้องรับผิดชอบ โจทก์ได้ซ่อมรถคันที่ถูกชนนั้นสิ้นเงินไป 25,000 บาท ขอให้จำเลยใช้เงิน 15,000 บาทที่โจทก์จ่ายเกินไปให้โจทก์ ดังนี้ บุคคลภายนอกผู้ต้องเสียหายชอบที่จะได้รับเงินค่าซ่อมรถจากโจทก์เป็นจำนวนเท่าที่โจทก์กับจำเลยได้ตกลงกันไว้ในกรมธรรม์ ส่วนจำนวนที่ยังขาดอยู่นั้นชอบที่จะเรียกร้องให้จำเลยใช้ให้ โจทก์ไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะจ่ายเงินค่าซ่อมรถให้ผู้ต้องเสียหายเกินกว่าความรับผิดของตนซึ่งจำกัดไว้เพียง 10,000 บาท แต่เมื่อได้จ่ายไปแล้ว แม้จำเลยจะไม่ได้มอบหมายให้จัดการแทนก็ตาม ก็ย่อมเป็นผลทำให้หนี้ค่าซ่อมรถที่ยังขาดอยู่นั้นระงับไป และจำเลยหลุดพ้นความรับผิดต่อผู้ต้องเสียหาย จึงอาจสมประโยชน์ของจำเลยซึ่งเป็นตัวการและต้องตามความประสงค์อันแท้จริงของตัวการหรือความประสงค์ตามที่จะพึงสันนิษฐานได้ กรณีตามฟ้องเป็นเรื่องจัดการงานนอกสั่งที่อาจจะก่อให้เกิดหนี้ที่ผูกพันจำเลยให้ต้องชดใช้เงินที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้จัดการได้ออกทดรองจัดการงานให้จำเลยไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 401 โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องจำเลย ศาลชอบที่จะรับฟ้องไว้พิจารณา