พบผลลัพธ์ทั้งหมด 589 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขาดไร้อุปการะจากเหตุละเมิด: คำนวณจากพฤติการณ์วันเกิดเหตุ แม้ผู้ตายมีอาชีพและผู้รับผลประโยชน์ทำงานต่อ
ลูกจ้างของจำเลยขับรถในทางการที่จ้างชนสามีโจทก์ถึงแก่ความตายด้วยความประมาท โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซิน แม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซิน แม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1251/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าขาดไร้อุปการะ คำนวณจากพฤติการณ์วันเกิดเหตุ แม้ผู้รับประโยชน์มีรายได้ภายหลัง
ลูกจ้างของจำเลยขับรถในทางการที่จ้างชนสามีโจทก์ถึงแก่ความตายด้วยความประมาท โจทก์ย่อมตกเป็นผู้ต้องขาดไร้อุปการะตามกฎหมายมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนได้
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่ มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซินแม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
เมื่อสามีโจทก์ยังมีชีวิตอยู่ มีอาชีพตั้งปั๊มน้ำมันจำหน่ายน้ำมันเบนซินแม้โจทก์จะได้เป็นผู้จัดการมรดกเข้าดำเนินการค้าน้ำมันเบนซิน ต่อมาหลังจากสามีโจทก์ตายแล้ว ก็หาเป็นเหตุทำให้โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะจากจำเลยไม่
ในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะนั้นย่อมต้องคำนวณโดยอาศัยพฤติการณ์ในวันเกิดเหตุนั้นเองเป็นหลักพฤติการณ์ทั้งหลายภายหลังวันเกิดเหตุ หาอาจนำมาพิจารณาในการคำนวณค่าสินไหมทดแทนในการขาดไร้อุปการะของโจทก์ได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจได้ ไม่ขัดกฎหมาย
ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจในใบมอบอำนาจซึ่งต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนนั้น มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายห้ามไว้โดยชัดแจ้งว่า ผู้รับมอบอำนาจจะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจด้วยไม่ได้ ดังนั้น เมื่อผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้มอบอำนาจร่วมกับพยานอื่นรวมเป็นพยานรับรองสองคน ก็เป็นอันใช้ได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 และ 20/2514)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 และ 20/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1248/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้มอบอำนาจได้ ไม่ขัดกฎหมาย
ลายพิมพ์นิ้วมือของผู้มอบอำนาจในใบมอบอำนาจซึ่งต้องมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคนนั้น มิได้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายห้ามไว้โดยชัดแจ้งว่า ผู้รับมอบอำนาจจะเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือในใบมอบอำนาจด้วยไม่ได้ ดังนั้น เมื่อผู้รับมอบอำนาจลงลายมือชื่อเป็นพยานรับรองลายพิมพ์นิ้วมือผู้มอบอำนาจร่วมกับพยานอื่นรวมเป็นพยานรับรองสองคน ก็เป็นอันใช้ได้
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 และ 20/2514)
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 18 และ 20/2514)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ: การส่งมอบบ้านไม่สมบูรณ์แต่ผู้เช่าซื้อรับมอบและครอบครอง ถือเป็นการปฏิบัติตามสัญญา
ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาท เป็นคำฟ้องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เสนอคำฟ้องต่อศาลที่บ้านพิพาทตั้งอยู่ในเขตศาลได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อบ้านเลขที่ 55/21 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินที่โจทก์เช่าจากวัดเขมาภิรตาราม ตำบลบางซ่อน อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ค่าเช่าซื้อ 100,000 บาท ตามสำเนาสัญญาเช่าซื้อท้ายฟ้อง จำเลยผิดสัญญาในข้อที่ว่า เมื่อปลูกบ้านเสร็จพอที่จำเลยจะเข้าอยู่ได้ โจทก์จะต้องมอบบ้านให้จำเลยครอบครอง และจำเลยต้องชำระ ราคาให้แก่โจทก์อีก 10,000 บาท จำเลยไม่ชำระ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว ไม่เคลือบคลุม ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าโจทก์สร้างเสร็จครบถ้วนและถูกต้องตามสัญญาทุกประการ หรือมีรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดวัสดุ คุณภาพวัสดุก่อสร้างแบบแปลนแผนผังท้ายสัญญาอีกด้วย
เมื่อโจทก์ส่งมอบบ้านพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว แม้บ้านพิพาทยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจำเลยพอใจรับมอบบ้านพิพาทจากโจทก์ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องใช้เงินจำนวน 10,000 บาท ให้โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น สำหรับประเด็นเรื่องค่าเสียหายโจทก์จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาเรื่องค่าเสียหายของโจทก์ไว้ ไม่เป็นฎีกาที่ต้องพิจารณา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อบ้านเลขที่ 55/21 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินที่โจทก์เช่าจากวัดเขมาภิรตาราม ตำบลบางซ่อน อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ค่าเช่าซื้อ 100,000 บาท ตามสำเนาสัญญาเช่าซื้อท้ายฟ้อง จำเลยผิดสัญญาในข้อที่ว่า เมื่อปลูกบ้านเสร็จพอที่จำเลยจะเข้าอยู่ได้ โจทก์จะต้องมอบบ้านให้จำเลยครอบครอง และจำเลยต้องชำระ ราคาให้แก่โจทก์อีก 10,000 บาท จำเลยไม่ชำระ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว ไม่เคลือบคลุม ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าโจทก์สร้างเสร็จครบถ้วนและถูกต้องตามสัญญาทุกประการ หรือมีรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดวัสดุ คุณภาพวัสดุก่อสร้างแบบแปลนแผนผังท้ายสัญญาอีกด้วย
เมื่อโจทก์ส่งมอบบ้านพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว แม้บ้านพิพาทยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจำเลยพอใจรับมอบบ้านพิพาทจากโจทก์ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องใช้เงินจำนวน 10,000 บาท ให้โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น สำหรับประเด็นเรื่องค่าเสียหายโจทก์จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาเรื่องค่าเสียหายของโจทก์ไว้ ไม่เป็นฎีกาที่ต้องพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1134/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อ: การส่งมอบบ้านไม่สมบูรณ์แต่จำเลยรับมอบและเข้าอยู่ มีผลบังคับใช้สัญญาได้
ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาท เป็นคำฟ้องเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์เสนอคำฟ้องต่อศาลที่บ้านพิพาทตั้งอยู่ในเขตศาลได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อบ้านเลขที่ 55/21 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินที่โจทก์เช่าจากวัดเขมาภิรตาราม ตำบลบางซ่อน อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ค่าเช่าซื้อ 100,000 บาท ตามสำเนาสัญญาเช่าซื้อท้ายฟ้อง จำเลยผิดสัญญาในข้อที่ว่า เมื่อปลูกบ้านเสร็จพอที่จำเลยจะเข้าอยู่ได้ โจทก์จะต้องมอบบ้านให้จำเลยครอบครอง และจำเลยต้องชำระราคาให้แก่โจทก์อีก 10,000 บาท จำเลยไม่ชำระ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว ไม่เคลือบคลุม ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าโจทก์สร้างเสร็จครบถ้วนและถูกต้องตามสัญญาทุกประการ หรือมีรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดวัสดุ คุณภาพวัสดุก่อสร้างแบบแปลนแผนผังท้ายสัญญาอีกด้วย
เมื่อโจทก์ส่งมอบบ้านพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว แม้บ้านพิพาทยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจำเลยพอใจรับมอบบ้านพิพาทจากโจทก์ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องใช้เงินจำนวน 10,000 บาทให้โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น สำหรับประเด็นเรื่องค่าเสียหายโจทก์จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาเรื่องค่าเสียหายของโจทก์ไว้ ไม่เป็นฎีกาที่ต้องพิจารณา
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยทำหนังสือสัญญาเช่าซื้อบ้านเลขที่ 55/21 ซึ่งปลูกอยู่บนที่ดินที่โจทก์เช่าจากวัดเขมาภิรตาราม ตำบลบางซ่อน อำเภอดุสิต จังหวัดพระนคร ค่าเช่าซื้อ 100,000 บาท ตามสำเนาสัญญาเช่าซื้อท้ายฟ้อง จำเลยผิดสัญญาในข้อที่ว่า เมื่อปลูกบ้านเสร็จพอที่จำเลยจะเข้าอยู่ได้ โจทก์จะต้องมอบบ้านให้จำเลยครอบครอง และจำเลยต้องชำระราคาให้แก่โจทก์อีก 10,000 บาท จำเลยไม่ชำระ ขอให้ขับไล่จำเลยและเรียกค่าเสียหาย เป็นคำฟ้องที่แสดงโดยแจ้งชัดซึ่งสภาพแห่งข้อหาของโจทก์แล้ว ไม่เคลือบคลุม ไม่จำเป็นต้องบรรยายว่าโจทก์สร้างเสร็จครบถ้วนและถูกต้องตามสัญญาทุกประการ หรือมีรายละเอียดเกี่ยวกับขนาดวัสดุ คุณภาพวัสดุก่อสร้างแบบแปลนแผนผังท้ายสัญญาอีกด้วย
เมื่อโจทก์ส่งมอบบ้านพิพาทให้จำเลยเข้าครอบครองอันเป็นการปฏิบัติตามสัญญาเช่าซื้อแล้ว แม้บ้านพิพาทยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีจำเลยพอใจรับมอบบ้านพิพาทจากโจทก์ จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องใช้เงินจำนวน 10,000 บาทให้โจทก์ตามสัญญาเช่าซื้อ
โจทก์มิได้อุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้น สำหรับประเด็นเรื่องค่าเสียหายโจทก์จึงฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในประเด็นข้อนี้ไม่ได้ ที่ศาลชั้นต้นรับฎีกาเรื่องค่าเสียหายของโจทก์ไว้ ไม่เป็นฎีกาที่ต้องพิจารณา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใหญ่บ้านแจ้งความตามคำบอกเล่าลูกบ้าน ไม่ถือเป็นแจ้งความเท็จ แม้ไม่รู้ข้อเท็จจริง
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน กลับจากธุระมาถึงบ้านก็ได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นลูกบ้านว่าถูกโจทก์เรียกร้องเอาเงินไป ขอให้ไปแจ้งต่อตำรวจเพื่อเอาเงินคืน จำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจตามคำบอกเล่าของลูกบ้าน อันเป็นการกระทำตามหน้าที่ของผู้ปกครองหมู่บ้าน โดยเชื่อตามคำบอกเล่าของลูกบ้านว่าเป็นความจริง เช่นนี้ จำเลยที่ 1 ยังหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1047/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใหญ่บ้านแจ้งความตามคำร้องเรียนของลูกบ้าน ไม่ถือเป็นแจ้งความเท็จ แม้จะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง
จำเลยที่ 1 เป็นผู้ใหญ่บ้าน กลับจากธุระมาถึงบ้านก็ได้รับแจ้งจากจำเลยที่ 7 ซึ่งเป็นลูกบ้านว่าถูกโจทก์เรียกร้องเอาเงินไป ขอให้ไปแจ้งต่อตำรวจเพื่อเอาเงินคืน จำเลยที่ 1 ในฐานะเป็นผู้ใหญ่บ้านจึงไปแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจตามคำบอกเล่าของลูกบ้าน อันเป็นการกระทำตามหน้าที่ของผู้ปกครองหมู่บ้าน โดยเชื่อตามคำบอกเล่าของลูกบ้านว่าเป็นความจริง เช่นนี้ จำเลยที่ 1 ยังหามีความผิดฐานแจ้งความเท็จไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2514 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกัน: จำเลยให้การปฏิเสธความรับผิดโดยอ้างว่าไม่ได้ลงนาม แต่ศาลพิพากษาว่าจำเลยลงนามจริงและต้องรับผิดตามสัญญา
จำเลยให้การเพียงว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญาค้ำประกัน จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสำเนาหนังสือสัญญาค้ำประกันท้ายฟ้องไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าจำเลยค้ำประกันในฐานะห้างหุ้นส่วนจำกัดมิใช่ในฐานะส่วนตัว
โจทก์มิได้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่นายดีผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
โจทก์มิได้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่นายดีผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1023/2514
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาค้ำประกัน: จำเลยต้องรับผิดตามสัญญา แม้จะอ้างว่าโจทก์ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้ลูกหนี้ แต่ไม่มีหลักฐานสนับสนุน
จำเลยให้การเพียงว่า จำเลยไม่เคยทำสัญญาค้ำประกัน จำเลยไม่ต้องรับผิดตามสำเนาหนังสือสัญญาค้ำประกันท้ายฟ้องไม่มีประเด็นที่จะต้องพิจารณาว่าจำเลยค้ำประกันในฐานะห้างหุ้นส่วนจำกัด มิใช่ในฐานะส่วนตัว
โจทก์มิได้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่นายดีผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน
โจทก์มิได้ผ่อนเวลาชำระหนี้ให้แก่นายดีผู้ทำสัญญาเช่าซื้อรถยนต์จากโจทก์ จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้ำประกันยังต้องรับผิดตามสัญญาค้ำประกัน