พบผลลัพธ์ทั้งหมด 125 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 612/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บทบัญญัติใหม่ยกเลิกความผิดเดิม: การออกเช็คแลกเงินสดไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็คฉบับใหม่
การที่จำเลยออกเช็คเพื่อแลกเงินสดจากโจทก์ แม้จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 แต่ไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 จึงเป็นกรณีที่ต้องตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง ดังนั้นแม้คดีนี้จะถึงที่สุดแล้วก็ถือว่าจำเลยไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้นและต้องปล่อยจำเลยพ้นจากการถูกลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 460/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง แม้มีการโอนเช็คต่อ แต่เจตนาเดิมคือชำระหนี้จึงมีผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์แก่อ. เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ แม้ อ. จะนำเช็คไปแลกเงินสดจากผู้เสียหาย และผู้เสียหายเรียกเก็บเงินตามเช็คไม่ได้ เพราะธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินก็ตาม จำเลยก็มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534มาตรา 4(1)(3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 199/2537 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คเพื่อชำระหนี้ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ: ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
หนี้เงินกู้ยืมเกินกว่าห้าสิบบาทไม่มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมไว้เป็นหนังสือเป็นหนี้ที่ไม่อาจฟ้องร้องบังคับกันได้ตามกฎหมาย การที่จำเลยออกเช็คพิพาทเปลี่ยนเอาเช็คเดิมซึ่งจำเลยออกให้แก่โจทก์เพื่อชำระหนี้เงินยืมและโจทก์มิได้นำเข้าเรียกเก็บเงินเช็คพิพาทจึงเป็นเช็คที่ออกเพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมดังกล่าวไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 385/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คชำระหนี้บางส่วนที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ ทำให้เช็คฉบับรวมไม่เป็นหนี้ที่บังคับได้ตามกฎหมาย
เงินส่วนหนึ่งในเช็คพิพาทมิได้มีการทำหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือไว้ เงินส่วนนี้จึงไม่อาจฟ้องร้องบังคับคดีได้ และเมื่อเช็คพิพาทรวมเงินส่วนนี้ในเช็คฉบับเดียวกันและไม่อาจแบ่งแยกกันได้การออกเช็คพิพาททั้งฉบับจึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง และบังคับได้ตามกฎหมาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 มาตรา 4 พระราชบัญญัติ ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534เป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง และใช้บังคับในระหว่างคดีนี้อยู่ในการพิจารณาของศาลอุทธรณ์เมื่อการกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามกฎหมายใหม่ จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 2 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 378/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่ยังไม่เกิดขึ้น ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยออกเช็คแล้วนำมาขายลดแก่โจทก์ ในตอนออกเช็คจึงไม่มีหนี้แก่โจทก์ จำเลยเพิ่งเป็นหนี้โจทก์เมื่อขายลดเช็คกันแล้วการออกเช็คจึงมิใช่เพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่แต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 332/2536 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คโดยเจตนาทุจริต และการใช้กฎหมายอาญาที่เปลี่ยนแปลงแก้ไข
พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้ภายหลังการกระทำผิดบัญญัติวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือทั้งปรับทั้งจำซึ่งมีอัตราโทษเบากว่า พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2497 มาตรา 3 ที่ใช้ในขณะกระทำความผิดและเป็นคุณแก่จำเลยจึงต้องใช้กฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระทำผิดกับจำเลยตาม ป.อ.มาตรา 3.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 58/2536
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อแลกเงินสด ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.เช็ค หากไม่มีหนี้สินระหว่างกัน
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 แต่ขณะคดีอยู่ระหว่างพิจารณาของศาลฎีกามีกฎหมายฉบับใหม่ คือ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็คพ.ศ. 2534 ออกมาใช้บังคับแทน ปรากฏว่าตามกฎหมายฉบับใหม่การออกเช็คจะเป็นความผิดก็ต่อเมื่อเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริง และบังคับได้ตามกฎหมายเมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทแลกเงินสดไปจากโจทก์ ขณะแลกทรัพย์สินระหว่างกันนั้น ผู้แลกต่างไม่มีหนี้ต่อกันมาก่อน จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงให้แก่โจทก์ การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4การกระทำของจำเลยแม้จะเป็นความผิดดังที่โจทก์กล่าวในฟ้องจำเลยก็พ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3484/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คไม่มีหลักฐานกู้ยืม และข้อจำกัดการอุทธรณ์ในคดีเช็คจำนวนน้อย ศาลยกฟ้อง
เช็คฉบับที่ 2 ถึงฉบับที่ 5 สั่งจ่ายเงินไม่เกินฉบับละ5,500 บาท เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีจึงต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ป.วิ.อ. มาตรา 193 ทวิ การที่ศาลชั้นต้นรับอุทธรณ์ของโจทก์ในส่วนที่เกี่ยวกับเช็ค ฉบับที่ 2 ถึงฉบับที่ 5และศาลอุทธรณ์วินิจฉัยให้ แล้วพิพากษากลับให้ลงโทษจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ปัญหาดังกล่าวเป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย ศาลฎีกาหยิบยกขึ้นวินิจฉัยได้เอง โดยมีผลทำให้ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยในความผิดที่เกี่ยวกับเช็คฉบับที่ 2 ถึงฉบับที่ 5 คดีในส่วนนี้จึงเป็นอันยุติไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น คือ ยกฟ้องโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงปรากฏจากคำเบิกความของโจทก์ร่วมว่า จำเลยได้ขอกู้เงินโจทก์ร่วมจำนวน 99,800 บาท โจทก์ร่วมตกลงให้กู้จำเลยได้ออกเช็ค 5 ฉบับ รวมทั้งเช็คพิพาทฉบับที่ 1 มอบให้โจทก์ร่วมพยานหลักฐานของโจทก์และโจทก์ร่วมไม่ปรากฏว่าโจทก์ร่วมมีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสือของจำเลยมาประกอบ เห็นได้ว่าโจทก์ร่วมให้จำเลยกู้เงินโดยมิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อจำเลยผู้ยืมไว้ ตาม ป.พ.พ. มาตรา 653จะฟ้องร้องให้บังคับคดีหาได้ไม่ ดังนั้น เมื่อ พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4 ที่บัญญัติในภายหลังว่า การกระทำเช่นนั้นไม่เป็นความผิดต่อไป จำเลยซึ่งได้กระทำการเช่นนั้นจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำผิดตาม ป.อ. มาตรา2 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2834/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อกู้ยืมเงิน ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากไม่มีหนี้เดิม
ข้อเท็จจริงปรากฏว่า จำเลยขอกู้ยืมเงินผู้เสียหาย โดยจำเลยออกเช็คตามฟ้องทั้ง 2 ฉบับให้ผู้เสียหาย แล้วผู้เสียหายจึงเอาเงินเท่ากับจำนวนเงินตามเช็คทั้ง 2 ฉบับดังกล่าวมอบให้จำเลย แสดงให้เห็นว่า ก่อนจำเลยออกเช็คพิพาททั้ง 2 ฉบับให้ผู้เสียหายนั้นจำเลยกับผู้เสียหายมิได้มีหนี้ต่อกัน การออกเช็คของจำเลยจึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงให้ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยจึงไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติในภายหลัง จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2644/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คเพื่อแลกเงินสด ไม่ถือเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค หากไม่มีหนี้สินจริง
คำเบิกความของโจทก์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องที่ว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเงินสดเป็นพยานเอกสารที่ใช้อ้างเป็นพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาได้ เมื่อจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อแลกเงินสดไปจากโจทก์ จึงมิใช่เป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงไม่เป็นความผิด ตามพ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 มาตรา 4ซึ่งเป็นกฎหมายที่บัญญัติภายหลังจากจำเลยออกเช็คพิพาท จำเลยจึงพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิดตาม ป.อ. มาตรา 2 วรรคสอง.