พบผลลัพธ์ทั้งหมด 253 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1403/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องทางสาธารณะ/ภารจำยอมไม่เคลือบคลุม การนำสืบพยานบุคคลประกอบข้อเท็จจริงได้ แม้เอกสารไม่ตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าทางพิพาทเป็นทางสาธารณะ แต่ตอนท้ายคำฟ้องบรรยายว่า หรือไม่เช่นนั้นทางพิพาทตกเป็นภารจำยอมโดยอายุความแล้วนั้น ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม
การนำสืบเขตติดต่อที่ดินที่มีโฉนด ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงย่อมนำสืบพยานบุคคลได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่ดินของโจทก์ด้านหนึ่งติดที่ดินโฉนดของจำเลย ครั้นนำสืบกลับนำสืบว่าที่ดินของโจทก์ติดทางสาธารณะซึ่งเป็นการนำสืบในประเด็นข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าที่ดินของจำเลยซึ่งติดกับที่ดินโจทก์ตามฟ้องตกเป็นทางสาธารณะหรือตกอยู่ในภารจำยอมไปแล้ว หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข) ไม่
โจทก์ฟ้องหรือนำพยานเข้าสืบโดยพยานจะเรียกทางพิพาทว่าเป็นทางสาธารณะหรือทางภารจำยอมนั้น หาทำให้ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะหรือภารจำยอมตามที่เรียกขานไม่ หากฟังได้ว่าเป็นทางภารจำยอม ศาลย่อมจะพิพากษาได้ว่าทางพิพาทเป็นทางตกอยู่ในภารจำยอม
การนำสืบเขตติดต่อที่ดินที่มีโฉนด ไม่มีกฎหมายบังคับให้ต้องมีพยานเอกสารมาแสดงย่อมนำสืบพยานบุคคลได้
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ที่ดินของโจทก์ด้านหนึ่งติดที่ดินโฉนดของจำเลย ครั้นนำสืบกลับนำสืบว่าที่ดินของโจทก์ติดทางสาธารณะซึ่งเป็นการนำสืบในประเด็นข้อพิพาทระหว่างโจทก์กับจำเลยว่าที่ดินของจำเลยซึ่งติดกับที่ดินโจทก์ตามฟ้องตกเป็นทางสาธารณะหรือตกอยู่ในภารจำยอมไปแล้ว หาต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 94(ข) ไม่
โจทก์ฟ้องหรือนำพยานเข้าสืบโดยพยานจะเรียกทางพิพาทว่าเป็นทางสาธารณะหรือทางภารจำยอมนั้น หาทำให้ทางพิพาทเป็นทางสาธารณะหรือภารจำยอมตามที่เรียกขานไม่ หากฟังได้ว่าเป็นทางภารจำยอม ศาลย่อมจะพิพากษาได้ว่าทางพิพาทเป็นทางตกอยู่ในภารจำยอม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1322/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินการสืบพยานที่ถูกต้องตามกำหนดนัด แม้จำเลยไม่มาศาลในวันแรก แต่ยังไม่ถึงกำหนดนัดทั้งหมด
ศาลสืบพยานโจทก์ไปแล้วบางส่วน แล้วเลื่อนไปนัดสืบพยานโจทก์ที่เหลือพร้อมกับพยานจำเลย โดยนัดสืบไว้สามวันจำเลยได้ยื่นคำขอให้ศาลมีคำสั่งเรียกพยานเอกสารจากบุคคลภายนอกให้นำส่งศาลในวันที่สาม และขอให้ศาลหมายเรียกพยานบุคคลของจำเลยมาศาลในวันเดียวกันนั้นซึ่งศาลได้ออกหมายเรียกให้แล้ว ถึงวันนัดสืบพยานวันแรกจำเลยไม่มาศาล ศาลอาจดำเนินการสืบพยานไปได้โดยจำเลยเสียสิทธิในการซักค้านพยานโจทก์เอง แม้โจทก์จะแถลงไม่ติดใจสืบพยานในวันแรกนั้นก็จะถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบหาได้ไม่ เพราะศาลได้สั่งนัดไว้อีกถึงสองวันและยังไม่ถึงเวลาตามที่ศาลได้สั่งนัดไว้เอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบหมายอำนาจตัวแทนต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ สัญญาประนีประนอมยอมความจะผูกพันได้เมื่อตัวแทนมีอำนาจ
พนักงานบริษัทจำเลยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยให้มาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับโจทก์ และได้ทำข้อตกลงกับ โจทก์ในเรื่องค่าเสียหายที่บริษัทจำเลยจะชดใช้ให้โจทก์ ดังนี้พนักงานบริษัทจำเลยผู้นั้นอาจเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยได้โดยผลของการให้สัตยาบัน แต่บริษัทจำเลยมิได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของพนักงานบริษัทจำเลยดังกล่าว บริษัทจำเลยจึงใช้เอกสารข้อตกลงดังกล่าวมาผูกมัดโจทก์หาได้ไม่
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์ แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์ แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1091/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำสัญญาประนีประนอมยอมความโดยตัวแทนที่ไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือ สัญญาไม่มีผลผูกพัน
พนักงานบริษัทจำเลยอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยให้มาตกลงเรื่องค่าเสียหายกับโจทก์ และได้ทำข้อตกลงกับโจทก์ในเรื่องค่าเสียหายที่บริษัทจำเลยจะชดใช้ให้โจทก์ ดังนี้พนักงานบริษัทจำเลยผู้นั้นอาจเป็นตัวแทนของบริษัทจำเลยได้โดยผลของการให้สัตยาบัน แต่บริษัทจำเลยมิได้ให้สัตยาบันแก่การกระทำของพนักงานบริษัทจำเลยดังกล่าว บริษัทจำเลยจึงใช้เอกสารข้อตกลงดังกล่าวมาผูกมัดโจทก์หาได้ไม่
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
เอกสารข้อตกลงระหว่างพนักงานบริษัทจำเลยกับโจทก์แม้จะเป็นสัญญาประนีประนอมยอมความก็ตาม แต่การที่พนักงานบริษัทจำเลยไปอ้างว่าได้รับมอบหมายจากบริษัทจำเลยโดยไม่มีหลักฐานการมอบหมายเป็นหนังสือแต่อย่างใด จึงมิใช่เป็นการกระทำแทนบริษัทจำเลย ข้อตกลงในเรื่องค่าเสียหายจึงไม่มีผลผูกพันทั้งโจทก์และบริษัทจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1071/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้เช่ารถยนต์ไม่เข้าข่ายการรับขนส่ง แม้มีข้อตกลงเพิ่มหน้าที่ให้ผู้ให้เช่า ต้องเสียภาษีการค้าจากการให้เช่าทรัพย์สิน
โจทก์มีรถยนต์หลายประเภทสำหรับให้ผู้อื่นเช่าไปใช้ประโยชน์ กำหนดเวลาเช่าเป็นรายเดือนก็มี เป็นเวลา 1 ปีก็มี ค่าเช่าคิดเป็นรายเดือนต่อรถยนต์หนึ่งคัน แม้สัญญาเช่าระหว่างโจทก์กับผู้เช่าจะเพิ่มหน้าที่ของโจทก์นอกเหนือไปจากหน้าที่ของผู้ให้เช่าตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็ตาม ก็ไม่ทำให้ลักษณะของสัญญาเช่าเปลี่ยนแปลงไปเป็นสัญญารับขนดังโจทก์อ้าง ถือว่าการค้าของโจทก์เป็นการค้าประเภทให้เช่าทรัพย์สินที่ไม่ใช่อสังหาริมทรัพย์ต้องคำนวณภาษีการค้าร้อยละ 2.5 ของรายรับ ไม่ใช่ร้อยละ 0.5
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 944/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องขับไล่จากการซื้อขายฝาก: สัญญาไม่จำเป็นต้องแนบ แต่จำเลยต้องนำสืบหักล้างหากมีข้อต่อสู้
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยได้ขายฝากที่ดินและเรือนจนตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แล้ว จำเลยยังอาศัยอยู่โดยไม่มีสิทธิ ถึงแม้ไม่ได้แนบสัญญาขายฝากมาท้ายฟ้องด้วยก็ถือได้ว่าเป็นฟ้องที่สมบูรณ์และชอบด้วยกฎหมายแล้ว เพราะมิใช่เอกสารตามที่กฎหมายต้องการดังบัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขายฝากที่ดินและเรือนไว้กับโจทก์ พ้นกำหนดไถ่คืนแล้วโจทก์แจ้งให้จำเลยออกจากที่ดินบ้านเรือนดังกล่าว จำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยไปทำสัญญาขายฝากให้โจทก์โดยปราศจากอำนาจผิดความประสงค์ของจำเลย หน้าที่นำสืบจึงตกแก่จำเลย เมื่อจำเลยไม่สืบพยานก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยขายฝากที่ดินและเรือนไว้กับโจทก์ พ้นกำหนดไถ่คืนแล้วโจทก์แจ้งให้จำเลยออกจากที่ดินบ้านเรือนดังกล่าว จำเลยไม่ยอมออกจึงขอให้ขับไล่ จำเลยต่อสู้ว่าผู้รับมอบอำนาจจากจำเลยไปทำสัญญาขายฝากให้โจทก์โดยปราศจากอำนาจผิดความประสงค์ของจำเลย หน้าที่นำสืบจึงตกแก่จำเลย เมื่อจำเลยไม่สืบพยานก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 802/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฟ้องแย้งไม่เกี่ยวเนื่องกับฟ้องเดิม ศาลต้องไม่รับพิจารณา
โจทก์ฟ้องจำเลยในฐานะลูกหนี้ให้ชำระหนี้ จำเลยจะใช้สิทธิเรียกร้องของห้างหุ้นส่วนจำกัดซึ่งจำเลยเป็นหุ้นส่วนอยู่ด้วย ขึ้นฟ้องแย้งให้โจทก์ชำระหนี้แก่จำเลยเป็นส่วนตัวไม่ได้ ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องอื่น ไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 779-780/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงหมายเลขทะเบียนรถในคำฟ้องไม่เป็นสาระสำคัญหากข้อเท็จจริงหลักยังคงเดิม และการวินิจฉัยประเด็นความประมาท
ฟ้องหาว่าจำเลยขับรถยนต์ประมาทชนรถยนต์ของผู้อื่นเป็นเหตุให้มีคนบาดเจ็บและบาดเจ็บสาหัส ข้อสารสำคัญของคดีอยู่ที่ว่า รถของจำเลยชนกับรถของผู้อื่นจริงหรือไม่และฝ่ายใดเป็นฝ่ายประมาท แม้ในคำฟ้องจะกล่าวถึงหมายเลขทะเบียนรถยนต์คันที่ถูกชนไว้เป็นอย่างหนึ่ง แต่โจทก์นำสืบในทางพิจารณากลับได้ความเป็นหมายเลขทะเบียนอีกอย่างหนึ่งข้อแตกต่างซึ่งมีเฉพาะหมายเลขทะเบียนรถคันที่ถูกชนเท่านั้นจึงไม่ใช่ข้อสารสำคัญ เมื่ออุทธรณ์ของจำเลยข้ออื่น ๆ จำเลยยอมรับว่ารถของจำเลยชนกับรถของผู้อื่น (ที่กล่าวชื่อมาในฟ้อง)อุทธรณ์ของจำเลยที่ว่าทางพิจารณาได้ความแตกต่างกับฟ้องจึงเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีอันควรได้รับการวินิจฉัย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2515 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิด-ขาดไร้อุปการะ: ฟ้องเพิ่มเติมไม่ขาดอายุความ บิดามีสิทธิรับค่าสินไหมทดแทนเมื่อบุตรเสียชีวิต
การที่บุตรตายลงทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบิดาต้องขาดไร้อุปการะโจทก์ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะโดยไม่ต้องพิจารณาว่าโจทก์มีฐานะดีหรือไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดภายใน 1 ปีแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่จนกว่าคดีจะได้วินิจฉัยถึงที่สุดหรือเสร็จไปโดยประการอื่น แม้โจทก์จะยื่นฟ้องเพิ่มเติมเมื่อพ้น 1 ปีนับแต่วันละเมิด แต่ก่อนวันศาลชี้สองสถาน และเป็นฟ้องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมทำได้ฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดภายใน 1 ปีแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่จนกว่าคดีจะได้วินิจฉัยถึงที่สุดหรือเสร็จไปโดยประการอื่น แม้โจทก์จะยื่นฟ้องเพิ่มเติมเมื่อพ้น 1 ปีนับแต่วันละเมิด แต่ก่อนวันศาลชี้สองสถาน และเป็นฟ้องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมทำได้ฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขาดอายุความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 625/2515
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ละเมิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์, ค่าขาดไร้อุปการะ, อายุความฟ้องเพิ่มเติม
การที่บุตรตายลงทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบิดาต้องขาดไร้อุปการะโจทก์ชอบที่จะได้รับค่าสินไหมทดแทนในการที่โจทก์ต้องขาดไร้อุปการะโดยไม่ต้องพิจารณาว่าโจทก์มีฐานะดีหรือไม่
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดภายใน 1 ปีแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่จนกว่าคดีจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปโดยประการอื่น แม้โจทก์จะยื่นฟ้องเพิ่มเติมเมื่อพ้น 1 ปี นับแต่วันละเมิด แต่ก่อนวันศาลชี้สองสถาน และเป็นฟ้องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมทำได้ฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขาดอายุความ
โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายฐานละเมิดภายใน 1 ปีแล้วอายุความย่อมสะดุดหยุดอยู่จนกว่าคดีจะได้วินิจฉัยถึงที่สุด หรือเสร็จไปโดยประการอื่น แม้โจทก์จะยื่นฟ้องเพิ่มเติมเมื่อพ้น 1 ปี นับแต่วันละเมิด แต่ก่อนวันศาลชี้สองสถาน และเป็นฟ้องที่เกี่ยวกับฟ้องเดิม ย่อมทำได้ฟ้องเพิ่มเติมของโจทก์ไม่ขาดอายุความ