คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุนทร วรรณแสง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 317 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 890/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบรถยนต์ที่ใช้บรรทุกสิ่งของเกินอัตราน้ำหนักตามกฎหมาย โดยศาลพิจารณาจากพฤติการณ์การใช้รถยนต์เป็นทรัพย์สินในการกระทำผิด
จำเลยใช้รถยนต์บรรทุกทรายเกินน้ำหนักอัตราที่กำหนดเป็นการใช้รถยนต์กระทำผิดตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295แม้ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 295 ไม่บัญญัติให้ริบรถยนต์ ก็ริบได้ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นที่ไม่ริบรถยนต์โดยศาลชั้นต้นเห็นว่าริบไม่ได้ ศาลอุทธรณ์เห็นว่าริบได้แต่ไม่ควรริบ จำเลยฎีกาได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 882/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจรอการลงโทษจำคุกเกินสองปี - กรณีรวมโทษหลายกระทง
จำเลยทำผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ รวม4กระทง ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำคุกและปรับ แต่รอการลงโทษจำคุกไว้ ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ ให้จำคุกสถานเดียว 4 กระทง โดยไม่รอการลงโทษ ตรงตามความประสงค์ของโจทก์แล้ว จำเลยมิได้ฎีกาย่อมต้องบังคับคดีแก่จำเลยไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ การที่โจทก์ฎีกาว่าเมื่อศาลชั้นต้นลงโทษจำคุกจำเลยรวม 4 กระทงเกินกว่าสองปี ศาลจึงไม่มีอำนาจรอการลงโทษจำคุกได้ แม้จะวินิจฉัยฎีกาโจทก์ไปก็ไม่ทำให้ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เปลี่ยนแปลง ถือได้ว่าเป็นฎีกาที่ไม่มีประโยชน์อันควรได้รับการวินิจฉัย ศาลฎีกาไม่วินิจฉัยให้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 855/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสร้างวัดโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย ส่งผลให้ไม่มีอำนาจฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดิน
วัดโจทก์จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2482 ก่อนพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2484 และพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505ใช้บังคับ กรณีต้องบังคับตามพระราชบัญญัติปกครองคณะสงฆ์ รัตนโกสินทรศก 121 การจะสร้างวัดขึ้นใหม่ตามกฎหมายดังกล่าวนี้จะต้องมีการขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้างเสียก่อนจึงจะสร้างได้ แต่วัดโจทก์นี้ราษฎรพร้อมใจกันจัดสร้างขึ้นโดยไม่มีการขอรับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สร้าง จึงเป็นการสร้างวัดขึ้นใหม่ฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติมาตรา 9 แห่งกฎหมายดังกล่าว และไม่มีสภาพเป็นวัดตามที่ระบุไว้ในมาตรา 5 แห่งกฎหมายฉบับนั้น เพราะฉะนั้นที่พิพาทซึ่งโจทก์อ้างว่ามีผู้ยกให้ จึงไม่ใช่สมบัติของวัดอันจะถือว่าเป็นที่ธรณีสงฆ์ วัดโจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 845/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมรับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองและการพิสูจน์เอกสารหลักฐาน โจทก์นำสืบได้แม้เอกสารตัวจริงหาย
ธนาคารโจทก์ขอให้ศาลหมายเรียกต้นฉบับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองจากจำเลย จำเลยรับหมาย (คำสั่ง) เรียกแล้วไม่ส่งศาล ภายในกำหนดเวลาที่ศาลกำหนด ทั้งไม่แสดงเหตุที่ไม่ส่ง ย่อมถือได้ว่าข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าต้นฉบับหนังสือบอกกล่าวบังคับจำนอง กรรมการบริษัทโจทก์ได้ลงนามและประทับตราของโจทก์ จำเลยได้ยอมรับแล้วตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 123 ถือได้ว่า หนังสือบอกกล่าวบังคับจำนองของโจทก์ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิอาศัย vs. ภารจำยอม: การใช้ทางเดินผ่านที่ดินของผู้อื่นโดยไม่ได้สิทธิโดยชอบธรรม
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับโอนที่ดินมาจากเจ้าของเดิมซึ่งได้ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยออกสู่ถนนสาธารณะมาราว 40ปี จนได้ภารจำยอมแล้วจึงขายให้โจทก์ ต่อมาจำเลยปิดทางภารจำยอมนั้นเสีย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเปิดได้ความว่าเดิมที่ดินแปลงของจำเลยกับแปลงของโจทก์เป็นที่ดินมรดกแปลงเดียวกัน เมื่อได้รับมรดกมาแล้วทายาทได้แบ่งโฉนดกันที่แปลงของโจทก์อยู่ข้างใน ส่วนแปลงของจำเลยอยู่ติดถนนสาธารณะ มีบ้านมรดกอยู่ในที่ดินแปลงของจำเลยหนึ่งหลัง เจ้าของที่ดินเดิมแปลงของโจทก์ได้อาศัยอยู่ในบ้านมรดกหลังนี้ตลอดมา เพิ่งออกไปตอนขายที่ดินให้โจทก์แล้ว ดังนี้ การที่เจ้าของที่ดินเดิมอยู่ในบ้านมรดกนั้นเป็นการอยู่โดยใช้สิทธิอาศัยที่ดินจำเลยฉะนั้น การเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะย่อมเป็นการเดินโดยใช้สิทธิอาศัยจำเลย ไม่ใช่โดยปรปักษ์ แม้จะใช้เดิน ติดต่อกันมาถึง 40 ปี ก็ไม่ได้ภารจำยอมโดยอายุความโจทก์เองเพิ่งใช้ทางเดินผ่านที่ดินแปลงของจำเลยเมื่อได้รับโอนมายังไม่ถึงสิบปี ที่ดินแปลงของจำเลยจึงยังไม่ตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินแปลงของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 723/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภารจำยอมโดยอายุความ: การใช้ทางเดินโดยสิทธิอาศัยไม่ใช่การครอบครองปรปักษ์
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์รับโอนที่ดินมาจากเจ้าของเดิมซึ่งได้ใช้ทางเดินผ่านที่ดินของจำเลยออกสู่ถนนสาธารณะมาราว 40ปี จนได้ภารจำยอมแล้วจึงขายให้โจทก์ ต่อมาจำเลยปิดทางภาระยอมนั้นเสีย จึงขอให้ศาลบังคับให้จำเลยเปิดได้ความว่าเดิมที่ดินแปลงของจำเลยกับแปลงของโจทก์เป็นที่ดินมรดกแปลงเดียวกัน เมื่อได้รับมรดกมาแล้วทายาทได้แบ่งโฉนดกันที่แปลงของโจทก์อยู่ข้างใน ส่วนแปลงของจำเลยอยู่ติดถนนสาธารณะมีบ้านมรดกอยู่ในที่ดินแปลงของจำเลยหนึ่งหลัง เจ้าของที่ดินเดิมแปลงของโจทก์ได้อาศัยอยู่ในบ้านมรดกหลังนี้ตลอดมา เพิ่งออกไปตอนขายที่ดินให้โจทก์แล้ว ดังนี้ การที่เจ้าของที่ดินเดิมอยู่ในบ้านมรดกนั้นเป็นการอยู่โดยใช้สิทธิอาศัยที่ดินจำเลยฉะนั้น การเดินเข้าออกสู่ถนนสาธารณะย่อมเป็นการเดินโดยใช้สิทธิอาศัยจำเลย ไม่ใช่โดยปรปักษ์แม้จะใช้เดิน ติดต่อกันมาถึง 40 ปี ก็ไม่ได้ภาระจำยอมโดยอายุความโจทก์เองเพิ่งใช้ทางเดินผ่านที่ดินแปลงของจำเลยเมื่อได้รับโอนมายังไม่ถึงสิบปี ที่ดินแปลงของจำเลยจึงยังไม่ตกเป็นภารจำยอมแก่ที่ดินแปลงของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 722/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดและหุ้นส่วนผู้จัดการในละเมิดจากจ้างแรงงาน
ห้างหุ้นส่วนจำกัดรับเหมาก่อสร้างโดยจ้างเหมาเฉพาะค่าแรงต่อไปเป็นจ้างแรงงาน ผู้รับเหมาต้องรับผิดในละเมิดที่ลูกจ้างของผู้รับเหมาค่าแรงทำขึ้น หุ้นส่วนผู้จัดการคือหุ้นส่วนประเภทรับผิดไม่จำกัด ต้องรับผิดในฐานะส่วนตัวด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 718/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การโอนการครอบครองที่ดินโดยการมอบให้และส่งมอบการครอบครอง ถือเป็นการโอนที่สมบูรณ์เด็ดขาด
โจทก์ทำเอกสารมีข้อความแจ้งชัดว่าโจทก์ยินดียกที่พิพาทตาม ส.ค.1 ให้แก่กรมสามัญศึกษาของจำเลยร่วมได้ใช้ปลูกสร้างโรงเรียนรัฐบาลระดับมัธยมศึกษา โดยโจทก์ไม่ประสงค์จะเรียกค่าชดเชยแต่ประการใด ทั้งโจทก์ได้ลงชื่อเป็นผู้มอบที่ดินและมีนายณรงค์อนันตรังษี ซึ่งรับราชการในตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดลงชื่อเป็นผู้รับมอบที่ดินแทนจำเลยร่วมด้วย เอกสารดังกล่าวเป็นการแสดงชัดว่าโจทก์ได้สละเจตนาครอบครองและได้โอนโดยส่งมอบการครอบครองที่พิพาทให้แก่จำเลยร่วมไปแล้ว การโอนไปซึ่งการครอบครองโดยส่งมอบที่ดินพิพาทดังกล่าว ย่อมถือว่ามีผลสมบูรณ์เด็ดขาดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1377 และมาตรา 1378 แล้วโจทก์จะโต้แย้งในภายหลังว่าโจทก์เพียงแต่มีเจตนาจะยกที่พิพาทให้แก่จำเลยร่วมเท่านั้นหาได้ไม่ และนับแต่วันที่โจทก์ส่งมอบที่พิพาทนั้นไป. การครอบครองที่พิพาทของโจทก์ย่อมสุดสิ้นลง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 667/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าบำเหน็จตัวแทนกับการเป็นนายหน้า: การกระทำที่เป็นผลจากการเป็นตัวแทนย่อมไม่ใช่การเป็นนายหน้า
โจทก์เป็นตัวแทนในการให้เช่าซื้อที่ดินของจำเลย การที่โจทก์จัดให้มีการเช่าซื้อที่ดินเป็นผลสืบเนื่องมาจากการเป็นตัวแทนที่ดำเนินการปรับปรุงที่ดินให้แก่จำเลย หาใช่เป็นผลจากการเป็นนายหน้าไม่โจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องบำเหน็จค่านายหน้าจากจำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 633/2524

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การให้สัตยาบันหนี้, หนี้ร่วม, และขอบเขตความรับผิดของสามีในหนี้ที่ภรรยาก่อขึ้นโดยไม่ได้รับอนุญาต
การให้สัตยาบันคือการแสดงการรับรองยอมรับผิดในหนี้นั้นหรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งดังที่ระบุไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 142 โจทก์มี หนังสือทวงถามให้จำเลยชำระหนี้ที่ภริยาจำเลยกู้เงินโจทก์ จำเลยแจ้งว่าจำเลยยอมรับผิดชดใช้เฉพาะหนี้เงินกู้รายหนึ่ง ส่วนหนี้เงินกู้รายอื่นจำเลยไม่ทราบเรื่อง กรณีจึงฟังไม่ได้ว่าหนี้เงินกู้รายอื่นที่ภริยาจำเลยก่อขึ้นนั้น จำเลยได้ให้สัตยาบันด้วย จำเลยต้องรับผิดในฐานะผู้จัดการมรดกของภริยา แต่ไม่ต้องรับผิดเป็นส่วนตัว
of 32