คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุนทร วรรณแสง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 317 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886-2888/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เขตอำนาจสอบสวนความผิดเช็ค: ความผิดต่อเนื่องและการร้องทุกข์
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ที่บริษัทโจทก์ร่วมซึ่งอยู่ในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินที่จังหวัดอุบลราชธานี โจทก์ร่วมมีสิทธิร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามได้เพราะเป็นความผิดต่อเนื่องกันตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา19 ต่อมาจำเลยถูกจับในเขตท้องที่สถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลชนะสงครามย่อมมีอำนาจสอบสวนจำเลยเพราะได้มีการร้องทุกข์ไว้ก่อนแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2817/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีขับไล่จากใบมอบอำนาจเฉพาะการ
ใบมอบอำนาจมีข้อความว่า ให้ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจแต่งตั้งทนายความดำเนินคดีขับไล่ทางศาลต่อผู้อยู่อาศัย ผู้เช่าเดิมและผู้ครอบครองที่ดิน ให้ออกไปจากที่ดินดังนี้ เป็นเรื่องโจทก์ได้ระบุมอบอำนาจเฉพาะการมิใช่มอบอำนาจทั่วไปและกรณีที่โจทก์ระบุให้อำนาจแก่ผู้รับมอบอำนาจให้มีอำนาจแต่งตั้งทนายความดำเนินคดีทางศาลเช่นนี้หาจำเป็นต้องมอบอำนาจให้ฟ้องคดีหนึ่งคดีใดโดยเฉพาะไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญาคดีทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แม้ไม่ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดนจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและฟันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จำเลยไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 (5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2750/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องอาญา พยายามฆ่า/ทำร้ายร่างกาย แม้ไม่ได้ระบุตัวผู้กระทำผิดเฉพาะเจาะจง
ฟ้องของโจทก์ตอนแรกบรรยายว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งและจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 อีกฝ่ายหนึ่ง ได้บังอาจเข้าทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน โจทก์บรรยายฟ้องตอนต่อไปใจความว่าโดยจำเลยที่ 1 ที่ 2 ได้บังอาจร่วมกันชกต่อยทำร้าย และใช้อาวุธปืนยิงจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 โดยเจตนาฆ่า แต่กระสุนปืนไม่ถูกอวัยวะสำคัญของจำเลยที่ 4 และไม่ถูกจำเลยที่ 3 ที่ 5 ส่วนจำเลยที่ 3 ที่ 4 และที่ 5 ได้บังอาจร่วมกันใช้ไม้ท่อนและมีดดาบเป็นอาวุธตีและพันทำร้ายจำเลยที่ 1 ที่ 2 โดยเจตนาฆ่า แต่ไม่ถูกอวัยวะสำคัญ จำเลยทั้งสองฝ่ายจึงไม่ถึงแก่ความตาย ดังนี้ เห็นว่าฟ้องของโจทก์กล่าวไว้ชัดว่า จำเลยที่ 1 ที่ 2 ฝ่ายหนึ่งกระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5และจำเลยที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ฝ่ายหนึ่ง กระทำผิดข้อหาพยายามฆ่าและทำร้ายร่างกายจำเลยที่ 1 ที่ 2 แม้จะไม่บรรยายว่าจำเลยคนใดทำร้ายจำเลยคนใด ก็เป็นการบรรยายพอสมควรเท่าที่จะให้จำเลยเข้าใจข้อหาได้ดี เพราะฟ้องโจทก์กล่าวหาว่าจำเลยแต่ละฝ่ายสมคบกันกระทำผิด ฟ้องของโจทก์จึงสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา158(5)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบกิจการโรงงานในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ ต้องปฏิบัติตามกฎหมายป่าไม้ควบคู่ไปด้วย
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกให้ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ. 2512 แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และทำการแปรรูปไม้ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 มาตรา 48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2518 มาตรา 19 กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกโสดหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2678/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ โรงงานแปรรูปไม้ในเขตควบคุม ต้องได้รับอนุญาตตามทั้ง พ.ร.บ.โรงงาน และ พ.ร.บ.ป่าไม้
แม้จำเลยจะได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงาน และใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานจากกระทรวงอุตสาหกรรมซึ่งออกให้ตามพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2512 แต่โรงงานของจำเลยตั้งอยู่ในเขตควบคุมการแปรรูปไม้ และทำการแปรรูปไม้ จำเลยมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา48 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ 5)พ.ศ.2518 มาตรา 19 กล่าวคือต้องได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่อีกโสดหนึ่งด้วย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2670/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน: หนังสือรับรองการทำประโยชน์ไม่มีผลผูกพัน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน กรณีจึงตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305, 1306 ดังนั้นหนังสือสำคัญของทางราชการที่รับรองว่าที่พิพาทเป็นของ ล.ดังที่จำเลยอ้าง จึงไม่มีผลผูกพันทางราชการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2670/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน: หนังสือรับรองการทำประโยชน์ไม่มีผลผูกพัน
เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า ที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดิน กรณีจึงตกอยู่ในบังคับแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1305, 1306 ดังนั้น หนังสือสำคัญของทางราชการที่รับรองว่าที่พิพาทเป็นของ ล.ดังที่จำเลยอ้าง จึงไม่มีผลผูกพันทางราชการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2523

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้เครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าประเภทเดียวกัน แม้จำเลยไม่มีสินค้าชนิดเดียวกับโจทก์ ก็อาจทำให้สาธารณชนหลงผิดได้
เมื่อโจทก์จำเลยรับกันว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลย ใช้สำหรับสินค้าจำพวก 3 เหมือนกันแล้ว โจทก์จะโต้เถียงว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยใช้สำหรับสินค้าคนละชนิด ของโจทก์ใช้สำหรับยาหม่อง ของจำเลยไม่ได้ใช้กับยาหม่อง ไม่มีทางทำให้ประชาชนหรือสาธารณชนหลงผิดในเครื่องหมายการค้านั้น ไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2642/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เครื่องหมายการค้า สินค้าต่างชนิดกัน ไม่ทำให้สาธารณชนหลงผิด สิทธิผู้ขอจดทะเบียนก่อนย่อมได้สิทธิ
เมื่อโจทก์จำเลยรับกันว่าเครื่องหมายการค้าของโจทก์จำเลยใช้สำหรับสินค้าจำพวก 3 เหมือนกันแล้ว โจทก์จะโต้เถียงว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์และจำเลยใช้สำหรับสินค้าคนละชนิด ของโจทก์ใช้สำหรับยาหม่อง ของจำเลยไม่ได้ใช้กับยาหม่อง ไม่มีทางทำให้ประชาชนหรือสาธาณชนหลงผิดในเครื่องหมายการค้านั้น ไม่ได้
of 32