พบผลลัพธ์ทั้งหมด 317 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1448-1449/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา พิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 "นา" หมายความว่าที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ ส่วนคำว่า "พืชไร่" นั้น หมายความว่า พืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นอย่างหนึ่ง กับพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนอีกอย่างหนึ่ง
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
ที่ดินพิพาท จำเลยไม่ได้ใช้ปลูกข้าว แต่ได้ปลูกพริก หอม กะเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ มีคันดินโดยรอบทั้งสี่ด้าน แล้วปลูกมะม่วงและกล้วยบนคันดินนั้นภายในยกเป็นร่องสวนมีน้ำอยู่ข้างๆร่องปลูกมะละกอบนร่องทุกร่องมีเครื่องสูบน้ำออกเพื่อไม่ให้น้ำท่วมหลังร่องที่ยก ตอนน้ำท่วมหรือใกล้จะท่วมไม่ปลูกพืช ดังนี้ แสดงว่าพืชที่ปลูกต้องการน้ำน้อย เมื่อฟังว่าเป็นพืชมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือนด้วยแล้วก็เป็นพืชไร่ ที่พิพาทจึงเป็น "นา" ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิอุทธรณ์ภาษีอากร: ภรรยาไม่สามารถอุทธรณ์แทนสามีผู้ป่วยได้ แม้สามีจะใช้สิทธิไม่ได้
ผู้ต้องเสียภาษีป่วย ไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถใช้สิทธิทางศาลเพื่ออุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่วินิจฉัยให้ผู้ต้องเสียภาษีชำระภาษีอากรและเงินเพิ่มได้ ผู้ร้องซึ่งเป็นภรรยาจึงยื่นคำร้องต่อศาลขอขยายระยะเวลายื่นอุทธรณ์ ดังนี้ กรณียังถือไม่ได้ว่ามีการโต้แย้งสิทธิของผู้ร้องตามประมวลรัษฎากรเพราะผู้ร้องไม่ใช่ผู้ต้องเสียภาษีอากร และการที่ผู้ร้องขอใช้สิทธิทางศาลเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ไม่มีกฎหมายสนับสนุนให้ทำได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1405/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าปรับตามสัญญาซื้อขาย: ค่าปรับคิดจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบเท่านั้น
โจทก์จำเลยแลกเปลี่ยนเครื่องยนต์อากาศยานกัน โดยโจทก์ต้องส่งมอบเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมอุปกรณ์มาตรฐานใหม่ให้จำเลย จำเลยต้องส่งเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมด้วยอุปกรณ์ที่ใช้แล้วให้โจทก์ โจทก์ได้ส่งเครื่องยนต์ให้จำเลยภายในกำหนดสัญญาแต่ส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้ว สัญญาข้อ 8 มีว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบทรัพย์ครบจำนวน ผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาได้และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่น เต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่ง ผู้ขายต้องยอมรับผิดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น และข้อ 9 ว่าในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน อัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่รับมอบ เช่นนี้ กรณีที่จำเลยเลือกใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 9 จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จำเลยยังไม่ได้รับมอบเท่านั้น มิใช่ร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องยนต์ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1404/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ขอบเขตค่าปรับตามสัญญาซื้อขายแลกเปลี่ยน: พิจารณาจากสิ่งของที่ยังไม่ได้รับมอบ
จำเลยทำสัญญาตกลงเอาเครื่องยนต์อากาศยานใหม่พร้อมอุปกรณ์แลกเปลี่ยนกับเครื่องยนต์อากาศยานพร้อมอุปกรณ์ที่ใช้แล้วของโจทก์ โจทก์ได้ส่งเครื่องยนต์ให้จำเลยภายในกำหนดสัญญาแต่ส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเมื่อพ้นกำหนดสัญญาแล้ว สัญญาข้อ 8 มีว่า ถ้าผู้ขายไม่ส่งมอบทรัพย์ครบจำนวนผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาได้และถ้าผู้ซื้อจัดซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะจำนวนที่ขาดส่ง ผู้ขายต้องยอมรับผิดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น และข้อ 9 ว่า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ใช้สิทธิบอกเลิกสัญญา ผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อปรับเป็นรายวัน อัตราร้อยละ 0.2 ของราคาสิ่งของที่ยังไม่รับมอบ เช่นนี้ กรณีที่จำเลยเลือกใช้สิทธิตามสัญญาข้อ 9 จำเลยมีสิทธิเรียกค่าปรับร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จำเลยยังไม่ได้รับมอบเท่านั้นมิใช่ร้อยละ 0.2 ของราคาเครื่องยนต์ทั้งหมด
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1319/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การคำนวณน้ำหนักกัญชาสดและกัญชาแห้งเพื่อความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดฯ ไม่ได้จำกัดเฉพาะกัญชาแห้ง
มาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522มิได้บัญญัติว่ากัญชาซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่5นั้น หมายถึงกัญชาแห้ง จึงต้องหมายถึงกัญชาสดด้วยและการคำนวณน้ำหนักกัญชาตามมาตรา 26 วรรคสองมิได้บัญญัติเป็นพิเศษว่า ถ้าเป็นกรณีมีกัญชาสดให้คำนวณน้ำหนักเมื่อกัญชาแห้งแล้ว จึงไม่จำต้องคำนวณน้ำหนักเมื่อกัญชาสดนั้นแห้งแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1200/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องหนี้บุคคลภายนอก – ไม่ใช่คดีทายาทฟ้องมรดก
จำเลยที่ 1 กู้เงินมารดาโจทก์ โดยจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันมารดาโจทก์ตายโจทก์ซึ่งเป็นบุตรและเป็นทายาทเจ้ามรดกฟ้องจำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกให้ชำระหนี้ตามสัญญากู้มิใช่สิทธิเรียกร้องของเจ้าหนี้อันมีต่อเจ้ามรดก จึงถือไม่ได้ว่าเป็นเรื่องทายาทฟ้องคดีมรดก ต้องใช้อายุความทั่วไปกำหนดสิบปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1157/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิบุตรนอกกฎหมายรับมรดก และสิทธิในการฟ้องคดีมรดกของผู้มีสิทธิ
โจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายของ ข. ระหว่างที่ ข. อยู่กินกับมารดาโจทก์ โจทก์ใช้นามสกุลของ ข. และ ข. เลี้ยงดูโจทก์มา 6-7 ปี ถือได้ว่า ข. ให้การรับรองว่าโจทก์เป็นบุตรจึงเป็นผู้สืบสันดานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1627 มีสิทธิรับมรดกและมีสิทธิฟ้องคดีเกี่ยวกับมรดกได้
ทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาทเท่านั้นที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755 ได้จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิได้เป็นทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้
ทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา ข. ที่ตกทอดแก่ข. ถือไม่ได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ข. เป็นเจ้าของร่วมกับ ข. ในทรัพย์พิพาทดังกล่าว
ทายาทหรือบุคคลซึ่งชอบที่จะใช้สิทธิของทายาทเท่านั้นที่จะยกอายุความขึ้นต่อสู้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1755 ได้จำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย มิได้เป็นทายาทโดยธรรมไม่มีสิทธิยกอายุความขึ้นต่อสู้
ทรัพย์พิพาทเป็นทรัพย์มรดกของบิดามารดา ข. ที่ตกทอดแก่ข. ถือไม่ได้ว่าจำเลยซึ่งเป็นภริยาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ข. เป็นเจ้าของร่วมกับ ข. ในทรัพย์พิพาทดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1118-1120/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดินและข้อยกเว้นการอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คดีเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ขอให้แสดงกรรมสิทธิ์ที่ดินแม้ราคาทรัพย์พิพาทแต่ละสำนวนไม่เกินห้าหมื่นบาทและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำเลยฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงได้ ไม่ต้องห้ามตาม มาตรา 248
จำเลยให้การว่าโจทก์สำนวนที่สองและสำนวนที่สามครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์สำนวนแรกเช่นนี้จำเลยจะอุทธรณ์ว่าโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดยการเช่าจาก ส. ซึ่งยกที่ดินให้โจทก์สำนวนแรกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
จำเลยให้การว่าโจทก์สำนวนที่สองและสำนวนที่สามครอบครองที่ดินพิพาทโดยอาศัยสิทธิของโจทก์สำนวนแรกเช่นนี้จำเลยจะอุทธรณ์ว่าโจทก์เข้าอยู่ในที่ดินพิพาทโดยการเช่าจาก ส. ซึ่งยกที่ดินให้โจทก์สำนวนแรกไม่ได้ ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 225
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาว่าที่ดินเป็น 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา โดยพิจารณาจากชนิดพืชที่ปลูก
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา" หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่า พืชต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้า มันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าว ที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่อง ในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ บนร่องปลูกมันเทศ บางร่องมีต้นถั่วฝักยาว ปลูกอยู่ ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศรีษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตาม พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พศ. 2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ ย่อมถือว่าเป็นนา ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1053/2523
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
นิยาม 'นา' ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเช่านา: พืชไร่คือพืชที่ต้องการน้ำน้อย
พระราชบัญญัติควบคุมการเช่านา พ.ศ.2517 มาตรา 4 บัญญัติว่า "นา"หมายถึงที่ดินซึ่งโดยสภาพใช้เป็นที่เพาะปลูกข้าวหรือพืชไร่ และคำว่า "พืชไร่" หมายความว่าพืชซึ่งต้องการน้ำน้อยและมีอายุสั้นหรือสามารถเก็บเกี่ยวครั้งแรกได้ภายในสิบสองเดือน
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว
จำเลยปลูกพืชจำพวกพริก หอม กระเทียม ผักกาด คะน้ามันเทศ ถั่วลิสง และมันแกวในที่พิพาท ไม่ได้ปลูกข้าวที่พิพาททั้งสี่ด้านมีต้นมะม่วงปลูกอยู่โดยรอบ ส่วนในที่พิพาทยกเป็นร่องในร่องมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่บนร่องปลูกต้นมันเทศบางร่องมีต้นถั่วฝักยาวปลูกอยู่ที่พิพาทมีคันดินทั้ง 4 ด้าน สูงเกินศีรษะทำไว้เพื่อกันน้ำท่วม แสดงว่าพืชที่จำเลยปลูกบนร่องเป็นพืชที่ไม่ต้องการให้น้ำท่วม เป็นพืชที่ต้องการน้ำน้อย พืชที่จำเลยปลูกจึงเป็นพืชไร่ตามพระราชบัญญัติควบคุมการเช่านาพ.ศ.2517 และที่ดินที่จำเลยปลูกพืชไร่ย่อมถือว่าเป็น "นา" ตามความในพระราชบัญญัติดังกล่าว